เมื่อวานนี้คุยเรื่องอากาศหนาวที่อเมริกากับอพาร์ตเมนต์ที่ผมเช่ายิวไชล็อกอยู่ ทำให้นึกได้ว่าผมยังมีประสบการณ์ไม่ค่อยน่าจดจำอีกสองเรื่อง

เรื่องแรกคืออากาศหนาวทำให้ผมป่วย ไอรุนแรงเป็นอาทิตย์ จนทนไม่ได้ต้องไปหาหมอ หมอไม่ตรวจอะไรมากมาย แค่สั่งจ่ายยาแก้ไอแบบแรงๆ ให้ไปซื้อที่ร้าน

มานึกย้อนหลัง อาการน่าจะเป็นปอดบวม

เรื่องที่สอง ผมบ่นว่าหนาวๆ ได้ไม่นาน ก็มีคนใจดีมอบความอุ่นให้

คืนหนึ่งนอนอยู่ดีๆ ควันโขมงไปทั้งอพาร์ตเมนต์ เพราะชั้นล่างอพาร์ตเมนต์เป็นร้านพิซซา ร้านปิดแล้ว แต่ไฟยังติดอยู่

ผมกับเพื่อนเป็นสองคนสุดท้ายในตึกที่เผ่นหนีตายลงมาสี่ชั้นโดยมองไม่เห็นทางเลย ออกมาก็พบว่าทุกคนและรถดับเพลิงรออยู่ชั้นล่างเรียบร้อยแล้ว

คล้ายๆ ฉากจบในหนังฝรั่งแนวหายนะหลายเรื่อง

ที่เราลงมาช้าเพราะรู้ช้า ที่รู้ช้าเพราะไม่มีใครตะโกนบอกว่าไฟไหม้ ฝรั่งที่อยู่ชั้นบนรู้ก่อน ก็วิ่งผ่านห้องผมไปโดยไม่เรียกสักคำ

ชีวิตที่นิวยอร์ก ตัว who ตัว it จริงๆ

อพาร์ตเมนต์ที่ผมอยู่ ตอนหนาวก็หนาวจัด ตอนร้อนก็ร้อนเฉียดตาย

ชีวิตท่อนนี้ต้องเปิดเพลง New York, New York (เสียงร้องของ แฟรงก์ สินาตรา ต้นตำรับ) ประกอบ

"And if I can make it there
I'm gonna make it anywhere
It's up to you
New York, New York"

วินทร์ เลียววาริณ
23-4-24

เคยสังเกตไหมว่า สิ่งต่าง ๆ ในจักรวาลมักเป็นวงกลมหรือวงรี หรือเป็นความโค้ง ดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นวงรีเกือบกลม โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงรี ดวงอาทิตย์โคจรรอบทางช้างเผือกก็เป็นวงรีเช่นกัน

วงกลมคือเต๋า คือหยินกับหยาง และบางทีมันคือวงชีวิตแห่งจักรวาล

ก้อนหินริมหาดถูกคลื่นซัดสาดชั่วนาตาปีจนรูปโฉมเปลี่ยนเป็นความโค้งมน ใบไม้มีสัดส่วนโค้ง ริ้วน้ำแผ่ออกเป็นเส้นโค้ง คลื่นที่ม้วนตัวเข้าหาฝั่ง ล้วนเป็นความโค้ง

อาจเพราะความโค้งเป็นโครงสร้างที่ยืดหยุ่นที่สุด?

ในการตัดถนนสายยาว ๆ นักออกแบบมักตัดถนนเป็นเส้นโค้ง ประการหนึ่งเพื่อทำให้คนขับไม่หลับใน ถนนที่ตรงแน่วมักเกิดอุบัติเหตุง่ายกว่าถนนโค้ง เพราะคนขับขับเพลิน

อีกประการหนึ่ง เส้นโค้งดูงดงามกว่า

นักออกแบบสวนจึงไม่นิยมทำทางเดินเป็นเส้นตรง แต่ใช้เส้นโค้ง

อาจเพราะความโค้งเป็นโครงสร้างที่งดงามที่สุด?

ในชีวิตของคนเรา ชีวิตที่เป็นทรงโค้งคือชีวิตอ่อนโยน ไม่แข็งทื่อ

ความโค้งคือความค่อยเป็นค่อยไป ความนุ่มนวล

คนที่ใช้ชีวิตแบบเส้นตรงแน่วเกินไปอาจโดดเดี่ยว ไร้เพื่อน อาจจะซ้ำซาก เพราะไม่พลิกแพลงไปตามสถานการณ์

ความโค้งคือความอ่อนโยน อ่อนน้อม

แต่ความอ่อนโยน อ่อนน้อม ไม่ใช่ความสอพลอ

มันทำให้ชีวิตยืดหยุ่น นุ่มนวล

.........

ในแต่ละวันเราเจอคนทุกแบบ คนที่เราพบพานอาจมีความรู้น้อยกว่า อาจมีเงินน้อยกว่า แต่พวกเขาก็เป็นคน ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคนไม่เกี่ยวกับอำนาจ การแสดงอำนาจว่าตนเองเหนือกว่าเป็นนิสัยส่วนตัวของคนผู้นั้น

ความโค้งแห่งสัมมาวาจา พูดดีมีคนรัก ไม่ได้แปลว่ามันเป็นคำป้อยอ ยิ่งอยู่สูง ยิ่งต้องถ่อมตัว ยิ่งต้องมีมารยาท

ความโค้งแห่งความอ่อนโยน ทำให้คนอื่นสัมผัสความเมตตา และมันช่วยเชื่อมคนได้ดีขึ้น มันช่วยให้สายใยแห่งความสัมพันธ์หรือมิตรภาพแข็งแรง เหนียวแน่น เมื่อเราเดือดร้อน คนอื่นก็ยินดีช่วย

เราไม่อาจมองทุกอย่างเป็นเส้นตรงทื่อ เพราะสรรพสิ่งในจักรวาลเกิดขึ้นแบบไม่ตั้งใจ มันเลื่อนไหลของมันไปอย่างนั้น

ปราชญ์เล่าจื๊อมักเปรียบการใช้ชีวิตเหมือนสายน้ำ ไหลเอื่อย ไม่เร่ง มีความยืดหยุ่น ไม่รุนแรง แต่ทรงพลัง

ชีวิตเป็นส่วนผสมของแข็งกับอ่อน บางครั้งเดินเป็นเส้นตรง บางครั้งเป็นเส้นโค้ง เพราะเส้นทางชีวิตไม่ใช่ทางหลวงตัดตรง แต่คือทางที่ิพลิกแพลงไปตามภูมิประเทศแห่งชีวิต คดเคี้ยว สูงต่ำ

และการไหลไปตามน้ำโดยไม่โฉ่งฉ่างเรียบง่ายกว่า

บางทีความโค้งเป็นโครงสร้างที่งดงามที่สุด

..................

ย่อความจาก กอดหนาม / วินทร์ เลียววาริณ

ตอนนี้มีโปรโมชั่น 3 เล่ม กอดหนาม + ปฏิบัติการผ่าสมองไอน์สไตน์ + Mini Tao

ซื้อผ่านเว็บ https://www.winbookclub.com/store/detail/243/%28S11%29%20%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%20+%20%E0%B8%9B%E0%B8%8E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%8C%20%E0%B9%81%E0%B8%96%E0%B8%A1%20Mini%20Tao

ซื้อผ่าน Shopee https://shope.ee/1qEAFwkFjK?share_channel_code=6

วันนี้ออกไปทำธุระนอกบ้านหลายชั่วโมง ตั้งแต่ก่อนเที่ยงจนบ่าย รับพลังงานแสงอาทิตย์มาหลายกิโลวัตต์ มองดูตัวเอง คล้ายๆ เนื้อแดดเดียว ถ้ามีข้าวเหนียวด้วย ก็ลงตัว

ผมไม่ได้ฟังพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา จึงไม่รู้ว่าเราผ่านจุดร้อนสุดมาแล้วยัง แต่ไอร้อนตอนนี้มันคล้ายอยู่บนดาวซานถี่ ตอนดวงอาทิตย์ขึ้นสามดวงพร้อมกัน

คนไทยที่เจอไอร้อนระดับนี้อาจบ่นอู้ แต่หากเคยผ่านความหนาวของเมืองนอกระดับติดลบ และฮีตเตอร์ไม่ทำงาน จะต้องเปลี่ยนความคิด เห็นว่าร้อนดีกว่า

สมัยผมเรียนและทำงานที่นิวยอร์ก ผมเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่กับเพื่อนคนไทยและฝรั่งอีกคน เจ้าของตึกเป็นยิว และประพฤติตนเหมือนตัวละครไชล็อกที่เราเรียนในเรื่อง เวนิสวาณิช ทุกประการ

ยิวแสบคนนี้ปิดฮีตเตอร์ตึกเป็นประจำ โดยเฉพาะตอนที่ทุกคนนอนหลับไปแล้ว เรื่องนี้ผิดกฎหมาย แต่ไชล็อกโนสนโนแคร์ เพราะรู้ว่ารายงานไป ทางการนิวยอร์กก็ไม่ทำอะไร เพราะแต่ละวันมีคนหลายร้อยหลายพันคนโดนแบบนี้

ในเมืองร้อน หากเราไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ มันก็ร้อนเท่านั้น แต่ในเมืองหนาว ตึกที่ไม่เปิดฮีตเตอร์ก็คือการอยู่ในช่องฟรีซเซอร์ตู้เย็น เราต้องสวมเสื้อกันหนาวเต็มยศนอน คล้ายพวกปีนเขาเอเวอเรสต์ มันหนาวเข้าในกระดูก หนาวจนป่วย

ตอนหนาวจัดๆ แต่ทำอะไรไม่ได้นั้นเอง ผมนึกถึงเดือนเมษายนในเมืองไทย ผมจินตนาการว่าถ้าได้อยู่ในเมืองไทยตอนร้อนจัดๆ คงดีเหลือประมาณ

ดังนั้นทุกครั้งที่เจออากาศร้อนจัดในเมืองไทย ผมมักนึกถึงคืนที่สวมชุดกันหนาวนอนบนเตียงตัวเอง ในอพาร์ตเมนต์ของไอ้เวรไชล็อก

แล้วความร้อนในเมืองไทยก็คือสวรรค์ดีๆ นี่เอง

วินทร์ เลียววาริณ
22 เมษายน 2024

เช้าวันจันทร์ หลายคนคงยังไม่ตื่นพร้อมเริ่มงานใหม่ โดยเฉพาะคนที่หยุดสงกรานต์ลากยาวจนสัปดาห์นี้

มาเล่นปัญหาเชาวน์กันแก้ง่วงดีกว่า

นักโทษประหารสี่คนถูกสั่งให้ยืนเรียงกันตามภาพ นักโทษคนไหนสามารถตะโกนตอบได้ก่อนคนอื่นว่าเขาสวมหมวกสีขาวหรือดำ จะได้รับยกโทษ

ข้อแม้คือ
- มีหมวกขาวดำอย่างละ 2 ใบ
- หมายเลข 1 2 3 ไม่สามารถเห็น 4 ได้เพราะกำแพงบัง
- ทุกคนไม่สามารถหันหลังกลับไปมองได้ ไม่สามารถถามคนอื่น
- ทุกคนรู้ว่ามีคนยืนอยู่ข้างหน้าและข้างหลังตามรูป

นักโทษจะตอบได้ก่อนว่าตนสวมหมวกสีอะไร

(คำตอบอยู่ข้างล่าง)
......
......
......
......
......
......
......
......
......

คำตอบคือหมายเลข 2

นักโทษหมายเลข 1 เห็นหมายเลข 2 กับ 3 สวมหมวกขาวกับดำ แต่นั่นไม่ได้บอกว่าเขาสวมหมวกสีอะไร เขาจะตอบได้กรณีเดียวเท่านั้นคือ หมายเลข 2 กับ 3 สวมหมวกสีเดียวกัน ดังนั้นเขาย่อมไม่ตะโกนบอก

ส่วนหมายเลข 2 รู้ว่าหมายเลข 3 สวมหมวกดำ แต่ในเมื่อเขาไม่ได้ยินหมายเลข 1 ตะโกนบอก ก็แปลว่าเขาสวมหมวกคนละสีกับหมายเลข 3

ก็แปลว่าเขาสวมหมวกสีขาว

สวัสดีวันจันทร์

วินทร์ เลียววาริณ
22-4-24

ช่วงนี้โควิด-19 กลับมาระบาดอีกรอบ หลายคนก็หันไปพึ่งสมุนไพรฟ้าทะลายโจร บอกว่าชื่อมันก็บอกแล้วว่า ทำลายพวกโจร ก็คือทำลายเชื้อโรค

ตรรกะนี้ผิดนะครับ เพราะ 'ทะลาย' ไม่ได้แปลว่าทำลาย

ทะลาย = ช่อผลของหมากหรือมะพร้าวที่ออกเป็นกลุ่ม เช่น ทะลายหมาก ทะลายมะพร้าว

ส่วน ทลาย = อาการแตกหัก พังกระจัดกระจาย เช่น พังทลาย

ตัวอย่างการใช้คำ :

ตำรวจยกกำลังเข้าทลายบ่อนที่ประตูน้ำ เผลอชนแผงขายมะพร้าวล้ม แผงวางทะลายมะพร้าวล้มแตกทลาย

ตำรวจจับนักพนันไม่ได้สักคน เพราะบ่อนที่บุกเข้าหมายทลายว่างเปล่า เนื่องจากมีคนคาบข่าวไปบอกเจ้าของบ่อนก่อน

ตำรวจเชิญตัวยามไปสอบปากคำ แต่ยามบอกว่า​ "อย่าเอาผมไปโรงพักเลยครับ เพราะตอนนี้ผมติดโควิด นี่ก็เพิ่งกินฟ้าทะลายโจรไปสองเม็ด"

วินทร์ เลียววาริณ
21-4-24