-
วินทร์ เลียววาริณ1 ปีที่ผ่านมา
ครูเพลงชั้นปรมาจารย์ท่านหนึ่งของไทย ไพบูลย์ บุตรขัน ผ่านชีวิตลำเค็ญมาแต่เล็ก
ที่หนักหนาที่สุดคือเขาป่วยเป็นโรคเรื้อน
ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ไพบูลย์ บุตรขัน ทำงานที่การไฟฟ้าฯ และเริ่มป่วยด้วยโรคเรื้อน เขามักพันผ้าพันแผลไว้รอบนิ้วเหมือนนักมวยพันผ้าก่อนสวมนวม และมักหลีกเลี่ยงให้ใครสังเกตเห็นมือของเขา
เนื่องจากในช่วงสงครามโลก หยูกยาหายาก ค่ายาแพงมาก เขาจึงต้องหารายได้จากการแต่งเพลงและแต่งหนังสือนิทานสำหรับเด็ก แต่หาเท่าไรก็ไม่พอ ตอนนั้นแต่งเพลงมีรายได้เพลงละ 50 บาท
เขาทรมานจากโรคร้ายมากจนต้องพึ่งยาเสพติด ภายหลังก็ต้องไปฟื้นตัวจากยาเสพติดจนหาย
ช่วงที่เขาป่วย แม่ของเขาดูแลเขาใกล้ชิด ไม่รังเกียจหรือกลัวโรคติดต่อ ความรักที่ไร้ข้อแม้ของแม่เป็นแรงบันดาลให้ ไพบูลย์ บุตรขัน แต่งเพลงเกี่ยวกับแม่หลายเพลง เช่น ค่าน้ำนม อ้อมอกแม่ ชั่วดี ลูกแม่ ฯลฯ
ค่าน้ำนม เป็นเพลงเกี่ยวกับแม่ที่ดีที่สุดเพลงหนึ่ง
การอัดเสียงเพลง ค่าน้ำนม เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2492 ไพบูลย์ บุตรขัน ได้ครูประกิจ วาทยกร (บุตรชายพระเจนดุริยางค์) และนักแต่งเพลง สง่า อารัมภีร เรียบเรียงเสียงประสาน บรรเลงดนตรีโดยวงคณะละครศิวารมณ์ ผู้อัดแผ่นเสียงเป็นซาวด์แมนชาวอินเดีย ซึ่งบริษัทเทมาโฟนจ้างมาอัดบันทึกเสียง
วางตัวให้ บุญช่วย หิรัญสุนทร เป็นคนร้อง
ในวันอัดเสียง ครูสง่า อารัมภีร พาลูกศิษย์ชื่อ ชาญ เย็นแข ไปช่วยงานด้วย
เวลานั้น ชาญ เย็นแข เป็นนักร้องหัดใหม่สลับฉากคณะละครศิวารมณ์ที่โรงภาพยนตร์เฉลิมนคร
ชาญ เย็นแข เป็นชาวกรุงเทพฯ จบชั้นมัธยมจากโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ชอบร้องเพลง ตั้งแต่วัยรุ่นก็เข้าประกวดร้องเพลงตามงานวัด ในชื่อ เอี่ยวพญา ร้องเพลงครั้งแรกในปี 2484 ในการประกวดงานวัดจอมสุดาราม (วัดไพรงาม) สถานีรถไฟสามเสน ได้รางวัลที่ 3 จากเพลง กลางสายลม
ต่อมาร้องเพลงประกวดชนะเลิศในงานภูเขาทอง วัดสระเกศวรวิหาร คือเพลง รำพันรัก ในปี พ.ศ. 2488 นอกจากนี้ยังทำงานเป็นนักพากย์หนังและนักจัดรายการวิทยุ หลังจากนั้นก็สมัครเป็นศิษย์ของนักแต่งเพลง สง่า อารัมภีร
ผลจากการเป็นศิษย์ของครูสง่า ทำให้เขาไปห้องอัดเสียงในวันนั้น และผลของการไปห้องอัดเสียงในวันนั้น ทำให้ชีวิตเขาพลิกผัน
สถานที่อัดเสียงเพลง ค่าน้ำนม คือห้องอัดเสียงกมลสุโกสล ชั้นบนโรงภาพยนตร์เฉลิมไทย การอัดแผ่นเสียงในสมัยนั้น ต้องอัดเสียงร้องและเสียงดนตรีพร้อมกัน บันทึกลงแผ่นเสียงครั่ง ระบบ 78 รอบต่อนาที
เวลานัดคือ 10 โมงเช้า แต่ถึงเวลาแล้ว นักร้อง บุญช่วย หิรัญสุนทร ยังไม่โผล่มา จนบ่ายนักร้องก็ยังไม่ปรากฏตัว เชื่อว่ายังไม่กลับมาจากเชียงใหม่
ทุกคนในห้องอัดเสียงกระวนกระวายใจ ต้องตัดสินใจว่าจะยกเลิกการอัดเสียง หรือหานักร้องคนใหม่ ครูสง่าจึงเสนอให้ ชาญ เย็นแข เป็นคนร้องเพลงนี้แทน คนลงทุนแย้ง เพราะยังไม่มีใครรู้จัก ชาญ เย็นแข แต่ครูสง่าเชื่อมือลูกศิษย์คนนี้ ถกกันอยู่พักใหญ่ ในที่สุดที่ประชุมก็ตกลงตามนั้น
ชาญ เย็นแข จึงได้ร้องเพลงด้วยเสียงสั่นเพราะความประหม่า จนหลายคนชักสงสัยว่าจะไหวหรือ ผ่านไป 4-5 รอบ ก็ร้องสำเร็จจนได้
นักร้องได้ค่าตอบแทน 50 บาท แต่ผลที่ตามมาสูงกว่านั้นมาก เพราะเมื่อแผ่นเสียงวางจำหน่าย ทำให้ ไพบูลย์ บุตรขัน เป็นนักแต่งเพลงชั้นนำ และ ชาญ เย็นแข ผู้ร้อง กลายเป็นนักร้องดัง
ในวันแม่ปีนี้ ขอเราจงระลึกถึงพระคุณของแม่ ความรักที่ไร้ข้อแม้
วินทร์ เลียววาริณ
12 สิงหาคม 25671- แชร์
- 141
-
เจ็งกิส ข่าน ย่อมอยู่ในทำเนียบนักรบที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในโลก เขายาตราทัพครอบครองค่อนโลก ไม่มีอาณาจักรใดหาญต้านเขา เพราะทุกอาณาจักรที่ขวางทางเขาล้วนพินาศสิ้น
เวลานั้นในตะวันออกกลางมีอาณาจักรใหญ่แห่งหนึ่งชื่อควาเรซเมียน (Khwarazmian) ควาเรซเมียนก็คืออาณาจักรเปอร์เซีย ครอบครองพื้นที่ซึ่งปัจจุบันคือเอเชียกลาง อัฟกานิสถาน อิหร่าน ยาวนาน 154 ปี
ในราวปี ค.ศ. 1219-1220 เจ็งกิส ข่าน ส่งพ่อค้าชาวมองโกลกลุ่มใหญ่ไปผูกสัมพันธ์กับควาเรซเมียนเพื่อการค้า ควาเรซเมียนคิดว่าคนเหล่านี้เป็นสายลับ ก็สั่งฆ่าหมด
เจ็งกิส ข่าน โกรธ แต่ยังไม่สิ้นความพยายาม ส่งทูตสามคนไปเจรจารอบใหม่ ชาห์ มูฮัมเหม็ดที่ 2 ฆ่าทิ้งทูตหนึ่งคน ล้อเลียนทูตอีกสองคนกลางที่สาธารณะ เหตุการณ์นี้จุดไฟพิโรธ เจ็งกิส ข่าน พลุ่งพล่าน สำหรับมองโกล มันคือการประกาศสงคราม
จอมข่านทิ้งศึกที่เมืองจีนหันไปบุกควาเรซเมียนแทน
ทัพมองโกลสองหมื่นคนนำโดยโจชิและเจอเป ทะยานข้ามเทือกเขาเทียนซานลงใต้ มุ่งสู่อาณาจักรควาเรซเมียน กองทัพมองโกลฝ่าหิมะหนากลางฤดูหนาว ข้ามหุบเขาเฟอร์กานา ไปหยุดที่หน้าเมือง
ชาห์ตะลึงพรึงเพริด ไม่คาดฝันว่าทัพมองโกลจะเดินทางมาถึงและปรากฏตัวที่หน้าเมืองรวดเร็วขนาดนี้ได้ การเดินทางของมองโกลครั้งนี้เปรียบได้กับการข้ามภูเขาแอลป์สของจอมทัพฮันนิบาลเมื่อ 218 ปีก่อนคริสตกาล
ชาห์ มูฮัมเหม็ดที่ 2 คิดผิดใหญ่หลวงที่ไปแหย่รังแตน เพราะแตนมองโกลไม่เคยลืมความแค้น และวิธีล้างแค้นของพวกมองโกลคือทำลายทั้งอาณาจักรสิ้นซาก
ปีถัดมา เจ็งกิส ข่าน ส่งโตลุยบุตรชายไปสมทบที่ กองทัพโตลุยถล่มเมืองนิชาปุระและเมิร์ฟจนราบคาบ สังหารหมู่คนทั้งสองเมือง
อาณาจักรควาเรซเมียนถูกทำลายสิ้น เลือดนองแผ่นดิน ราษฎรผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถูกฆ่าตายหมดทั้งแผ่นดินเพราะผู้นำประเมินพลังศัตรูผิด และจุดชนวนสงคราม
อย่างไรก็ตาม กองทัพยิ่งใหญ่ของ เจ็งกิส ข่าน ก็พบความประหลาดใจและคาดไม่ถึง เพราะกลางซากพินาศของcผ่นดินศัตรู ก็ยังมีคนหาญสู้
จาลาล อัล-ดิน บุตรชายคนหนึ่งของชาห์ มูฮัมเหม็ดที่ 2 เมื่อรู้ว่าบิดาสิ้นแล้ว ก็ตั้งตนเป็นผู้นำ นำกำลังที่เหลือร่อยหรอต้านพวกมองโกล
จาลาล อัล-ดินเป็นนักรบผู้มากความสามารถ เกิดจากนางสนม โดยลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ไทยจะไม่ได้เป็นชาห์ แต่เนื่องจากอาณาจักรควาเรซเมียนสิ้นไปแล้ว เขาจึงขึ้นเป็นผู้นำ
จาลาล อัล-ดินรบกับพวกมองโกลอย่างกล้าหาญ ในยุทธการปาร์วันเขาพิชิตทัพมองโกลจนแตกอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับทัพมองโกลอันเกรียงไกร การแตกทัพเป็นสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในความคิดฝันของพวกเขา
เจ็งกิส ข่าน จึงนำทัพเอง ตามล่าจาลาล อัล-ดินที่มุ่งหน้าไปทางอัฟกานิสถานเพื่อตั้งหลักใหม่ ณ แม่น้ำสินธุที่ไหลมาจากทิเบต เกิดยุทธการครั้งสุดท้ายระหว่างจาลาล อัล-ดินกับ เจ็งกิส ข่าน
ยุทธการแห่งแม่น้ำสินธุ (Battle of the Indus)
จาลาล อัล-ดินต่อสู้อย่างกล้าหาญ เมื่อไพร่พลล้มตายไปมาก ตำนานเล่าว่าเขาต้องฆ่าแม่และภรรยาเพื่อไม่ให้ตกอยู่ในมือศัตรู
เขาเหลือทางเลือกสองทาง ตายด้วยมือศัตรูหรือตายด้วยมือตัวเอง
ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคน จาลาล อัล-ดินควบม้ากระโจนลงจากผา ร่วงลงไปในแม่น้ำสินธุ พลธนูมองโกลง้างคันธนูเตรียมยิง แต่ เจ็งกิส ข่าน เห็นความกล้าหาญของศัตรูแล้ว สั่งห้ามไว้
จาลาล อัล-ดินรอดชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ ข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งหนึ่ง
เจ็งกิส ข่าน กล่าวว่า "บิดาคนใดมีบุตรเช่นนี้ย่อมประเสริฐยิ่ง"
ประวัติศาสตร์การสิ้นอาณาจักรควาเรซเมียนสอนเราว่า ผู้นำที่ไร้วิสัยทัศน์สามารถทำลายชาติของตนได้อย่างไร
และผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดต่อสู้อริราช แม้แต่ศัตรูก็ยกย่อง
วินทร์ เลียววาริณ
15 สิงหาคม 25681 วันที่ผ่านมา -
ของเล่นสุดเท่ของเด็กยุคนี้อาจอยู่ในรูปดิจิตัล เกมต่างๆ แต่สำหรับเด็กรุ่นผม ยุค Baby boomers (หรือหลังจากนั้นอีกหน่อย) น่าจะคือหนังสติ๊ก
มันเป็นอาวุธพิฆาตนกกระจอก ยิงตายแล้วจับมาปิ้งกิน
นอกจากพิฆาตนกแล้ว ยังใช้เล่นเกม ยิงกระป๋องนมประลองความแม่น ฯลฯ
มันเป็นเกมเด็กๆ สนุกสนานไปตามเรื่อง
ไม่นึกว่าในยุคปัจจุบัน จะมีคนเอาหนังสติ๊กมาใช้เป็นเกมการเมืองระหว่างประเทศ
หมดกัน ภาพสวยงามวัยเด็กหายหมด
วินทร์ เลียววาริณ
13-8-252 วันที่ผ่านมา -
สี่ภพ เป็นนิยายจีนกำลังภายในก็จริง แต่เนื่องจากมันก็เป็นไซไฟที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลและดวงดาว ดังนั้นวิทยายุทธ์และอาวุธต่างๆ ในเรื่องจึงเกี่ยวข้องกับดวงดาวเสียมาก
ท่านที่เคยอ่านบทตัวอย่างฉบับแซมเปิ้ลที่แจกไปเมื่อปีก่อน จะพบว่าในบทที่ 3 นิยายเปิดตัวคัมภีร์หมื่นดาว
ชื่อก็บอกว่าเป็นวิชาเกี่ยวกับดวงดาวแน่ๆ
ตัวเลขหมื่นในภาษาจีนเป็นคำที่หมายถึงเยอะ
หมื่นดาวก็แสดงว่าดาวเยอะ จึงมีนัยของดาราจักร
ยิ่งเดินเรื่องไปไกลขึ้น ก็จะมีลมปราณ วิทยายุทธ์แปลกๆ ที่อิงดวงดาวและปรากฏการณ์ในจักรวาล ดังที่เคยเล่าเรื่องพลังดูดของซูเปอร์โนวามาก่อน
ไม่รู้เป็นอะไร ผมเขียนนิยายไม่ว่าตระกูลไหน เป็นหนีไม่พ้นฉากเกี่ยวกับดวงดาวและจักรวาล
ในภาคหนึ่ง ตัวละครจางฝานไปผจญภัยที่เปอร์เซีย และพบว่ามันเป็นแหล่งความรู้ด้านดาราศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อารยธรรมอาหรับในสมัยนั้นก้าวหน้าที่สุดในโลก ตำราดาราศาสตร์ปัจจุบันได้รับอิทธิพลจากเปอร์เซีย ชื่อดาวส่วนใหญ่บนฟ้าเป็นภาษาอาหรับ
แสดงให้เห็นว่าวิทยาการด้านดาราศาสตร์ของเปอร์เซียเวลานั้นก้าวหน้ามาก
พวกลัทธิไฟเม้งก่าก็มาจากเปอร์เซีย ในเมื่อท่านกิมย้งเล่นกับเม้งก่าของเปอร์เซียใน ดาบมังกรหยก ผมก็เดินรอยตาม แต่เปลี่ยนไปเล่นดาราศาสตร์เปอร์เซียก็แล้วกัน
ดังนั้นเรื่อง สี่ภพ แม้จะเป็นนิยายจีนกำลังภายใน ผู้เขียนก็อดที่จะเสียบวิชา Cosmology 101 เข้าไปไม่ได้
วินทร์ เลียววาริณ
8-8-25ป.ล. ท่านที่จอง pre-order แล้วยังไม่ได้ชำระเงิน โปรดทราบว่า ราคา pre-order 2,200.- นี้จะยืนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 เท่านั้น หลังจากนั้นจะเปลี่ยนไปใช้ราคาปก 2,400.- ดังที่เคยแจ้ง และอาจมีค่าส่ง
อ่านที่มาของงานชุดนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/photo/?fbid=1348523389969682&set=a.208269707328395
อ่านรายละเอียดหนังสือได้ที่
https://www.facebook.com/photo?fbid=1352241359597885&set=a.208269707328395ตอนนี้พิมพ์จริงแล้ว สั่งซื้อ คลิก https://www.winbookclub.com/store/detail/254/4%20%E0%B8%A0%E0%B8%9E
ในหน้า pre-order สามารถคลิกอ่านตัวอย่าง 2 บทได้ฟรี
2 วันที่ผ่านมา -
ชาเรียนเป็นนักบินอวกาศ ได้รับการว่าจ้างจากบริษัทเพชรแห่งหนึ่งไปทำลายดาวเคราะห์ดวงหนึ่งชื่อ ซีตา 712 ดาวเคราะห์ในระบบดาวซีตา ห่างจากโลกที่เขาอยู่ยี่สิบสองปีแสง
ซีตา 712 เคยเป็นดาวเคราะห์ขนาดยักษ์โคจรรอบดาวซีตา แต่เมื่อดวงอาทิตย์ของมันดับ ทิศทางการโคจรของมันก็เปลี่ยนไป มันกลายเป็นซากดาวเคราะห์ซึ่งเดินทางไปโดยไม่โคจรรอบดวงอาทิตย์ดวงใด บริษัทเพชรค้นพบว่า ซีตา 712 กำลังวิ่งตรงเข้าหาดาวเอรากอน หนึ่งในดาวเคราะห์ที่พวกเขาใช้ทำเหมืองเพชร และจะชนโลกเหมืองเพชรแห่งนั้นในอีกสิบสองปีข้างหน้า จึงต้องทำลายดาวเคราะห์ดวงนี้
ชาเรียนขับยานไปวางระเบิดดาวเคราะห์ดวงนั้น และพบว่า ซีตา 712 เป็นดาวเคราะห์ที่เป็นเพชรทั้งดวง เขาจึงรู้เหตุผลที่แท้จริงของการทำลายดาวเคราะห์ดวงนั้น ซีตา 712 มีปริมาณเพชรมากพอที่จะขุดออกมาใช้ได้นานหลายพันปี ดาวเคราะห์ดวงนี้จะทำให้ราคาเพชรตกต่ำลงอย่างฮวบฮาบจนแทบไร้ค่า บริษัทฯจึงต้องทำลาย ซีตา 712 เพืื่อรักษาราคาเพชรในตลาดตามที่พวกเขากำหนด
นี่เป็นนิยายไซไฟชื่อ คนเสเพล (รวมเรื่องสั้นชุด จรูญจรัสรัศมีพราว พร่างพร้อย) ซึ่งผมเขียนเมื่อ 20 ปีก่อน ทว่าไม่นานมานี้ในโลกของความจริง นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวเคราะห์ที่เป็นเพชรจริง ๆ !
ดาวเคราะห์ดวงนี้อยู่ห่างจากโลกเราประมาณสี่พันปีแสง โคจรรอบดาวนิวตรอนดวงหนึ่ง หนึ่งรอบกินเวลาสองชั่วโมงสิบนาที มันเป็นดาวเคราะห์มวลสูง ประกอบด้วยคาร์บอนอัดแน่นมหาศาล นักวิทยาศาสตร์คำนวณความหนาแน่นแล้วเชื่อว่าธาตุคาร์บอนในดาวเคราะห์ดวงนี้ตกผลึกเป็นเพชร
เช่นเดียวกับในนิยาย ถ้าเราขุดเพชรจากดาวเคราะห์ขนาดยักษ์ดวงนี้มาได้เมื่อไร ราคาเพชรในตลาดโลกก็คงมีค่าพอกับกรวดทราย เพราะใคร ๆ ก็หาเพชรมาประดับได้ง่าย ๆ
ทว่ามองอีกมุมหนึ่ง คงไม่มีใครคิดเอาเพชรไร้ค่ามาประดับตัว เหมือนกับที่ไม่มีใครเอากรวดมาประดับตัวในตอนนี้ เหตุผลเดียวคือของยิ่งมีมาก ค่ายิ่งน้อย เมื่อได้มาง่าย ๆ ก็ไร้ค่า
จะเห็นว่า ‘ราคา’ ขึ้นกับซัพพลาย มีน้อยราคาก็สูง
ราคาไม่เกี่ยวกับ ‘ดี’ เสมอไป
ความจริงเพชรก็เป็นเพียงธาตุคาร์บอนที่บังเอิญอยู่ใต้ดินชั้นที่ลึกมาก ๆ แรงกดดันมหาศาลและความร้อนทำให้คาร์บอนอัดแน่นจนเป็นเพชร (เพราะมันอัดแน่น มันจึงเป็นธาตุที่แกร่งที่สุดในโลก)
เมื่อเกิดภูเขาไฟระเบิด ลาวาใต้โลกก็ผลักเพชรข้างล่างพุ่งขึ้นมาบนผิวโลก วันดีคืนดีก็มีคนขุดมาขาย แย่งกันฆ่ากันตายเพื่อมัน ทั้งที่ใช้กินก็ไม่ได้ มันมีค่าก็เพราะมันหายาก
การผลิตเหรียญใช้ในประเทศ รัฐบาลจะระวังไม่ให้ค่าของเหรียญสูงกว่ามูลค่าเหรียญ ยกตัวอย่างเช่น เหรียญหนึ่งบาทต้องทำด้วยโลหะมูลค่าไม่เกินหนึ่งบาท
หากค่าของเหรียญเกินมูลค่าของมัน ก็จะมีคนเอาเหรียญไปหลอมเป็นโลหะขายได้กำไรดีกว่า
สมัยผมเป็นเด็ก มีคนหัวใสเอาเหรียญ 50 สตางค์มาหลอมไปขาย เพราะราคาโลหะสูงกว่าตัวเลขบนเหรียญ
คนจำนวนมากมองไม่ออกว่า ของดีกับของแพงไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งเดียวกัน สินค้า ‘เลอค่า’ อาจมีราคาสูงเพราะปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่คุณภาพสินค้า ภาพเขียนบางภาพแพงเพราะมันเป็นของเก่า ไม่ใช่คุณค่าทางศิลปะ
คุณค่าของสิ่งของจึงอยู่ที่การสมมุติ
วินทร์ เลียววาริณ
14-8-25ท่อนหนึ่งจาก รอยยิ้มใต้สายฝน
35 บทความกำลังใจ ราคาเพียง 190 บาท = บทความละ 5 บาทเศษ
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/139/รอยยิ้มใต้สายฝน
https://s.shopee.co.th/8Ke0htOJcm2 วันที่ผ่านมา -
ท่านรัฐมนตรีรักชาติเพิ่งได้มอเตอร์ไซค์คันใหม่สัญชาติอเมริกัน ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ด้วยความตื่นเต้น ท่านขี่จักรยานยนต์คันใหม่ตระเวนไปทั่วเมือง
ท่านรัฐมนตรีขี่ฮาร์ลีย์-เดวิดสันไปตามซอยเล็กซอยน้อย ผู้คนมองทั้งคนและรถด้วยความทึ่ง ท่านรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อผ่านซอยสายหนึ่ง มอเตอร์ไซค์คันใหม่เกิดอาการสั่นกระตุก ตอนนั้นรถในซอยกำลังติด ท่านมองซ้ายมองขวา เห็นข้างๆ ท่านมีมอเตอร์ไซค์เก่าๆ คันหนึ่ง คนขี่และคนซ้อนท้ายเป็นชายหนุ่ม สวมเสื้อเก่าขาด
ท่านหันไปถามคนทั้งสองว่า "นี่น้อง รู้จักฮาร์เล่ย์มั้ย?"
คนบนมอเตอร์ไซค์เก่าทั้งสองชะงัก หันมามองท่าน
คนหนึ่งร้อง "เอ๊ะ! นี่ท่านรักชาตินี่นา"
ท่านรัฐมนตรีตอบ "ใช่ ผมเอง นี่น้องรู้จักฮาร์เล่ย์มั้ย?"
คนขี่มอเตอร์ไซค์ที่ซ้อนท้ายก้าวลงจากรถ เอ่ยว่า "หนอย! ดูถูก"
ว่าแล้วก็ถีบฮาร์ลีย์-เดวิดสันของท่านล้มดังโครม ท่านรัฐมนตรีหล่นไปนอนกองบนพื้น สีหน้าตกใจ
ท่านรัฐมนตรีร้อง "คุณทำร้ายผมทำไม?"
"ไอ้รัฐมนตรีเฮงซวย พวกกูขี่มอ'ไซค์ญี่ปุ่นถูกๆ เก่าๆ ส่วนท่าน เอ๊ย! มึงขี่ฮาร์เล่ย์แล้วเสือกดูถูกคนระดับล่าง เหี้ย!"
จบคำเท้าก็อัดใส่สีข้างท่านรัฐมนตรีอีกที แล้วขึ้นมอเตอร์ไซค์หายไป
ชาวบ้านตรงมามุงดูท่าน "เอ๊ะ! นี่ท่านรักชาตินี่นา"
คนหนึ่งถาม "ท่านถูกอัดเพราะดูถูกคนจนนี่นา"
ท่านรัฐมนตรีรักชาติเอ่ย "เปล่า พวกนั้นเข้าใจผิด หาว่าผมดูถูกคนจน ความจริงมอเตอร์ไซค์ผมมีปัญหา เครื่องสั่นกระตุกทำท่าจะดับ ผมจึงถามพวกนั้นว่ารู้จักฮาร์เล่ย์มั้ย จะได้รู้วิธีแก้"
วินทร์ เลียววาริณ
13-8-25(ขอบคุณภาพจาก Harley-Davidson)
(ดัดแปลงจากเรื่องที่เคยได้ยินมา ต้นฉบับเป็นรถเวสปา)
2 วันที่ผ่านมา