• วินทร์ เลียววาริณ
    2 เดือนที่ผ่านมา

    (เมื่อวานนี้มีคนพูดถึงหนังสือเรื่อง สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน ทำให้นึกได้ว่าเล่มนี้เขียนขึ้นในวัย 42 เป็นโลกทัศน์ที่สะสมจากความรู้ การวิเคราะห์ และการมองชีวิตมา 42 ฤดู ถึงวันนี้เนื้อหาล้าสมัยไปแล้วหรือไม่? ก็คงปล่อยให้ขึ้นผู้อ่านคิดเอง โดยส่วนตัว มุมมองชีวิตของผมเปลี่ยนไปบ้างจากเรื่องนี้ แต่ไม่มาก ว่างๆ จะเล่าเรื่องนี้

    นี่เป็นท่อนสั้นๆ ที่ดึงมาจากบทนำของหนังสือเล่มนี้)

    หากเรามองย้อนหลังกลับไป ณ ที่เราอยู่ขณะนี้เมื่อห้าพันล้านปีก่อน ไม่มีโลก ไม่มีดวงอาทิตย์ มีแต่กลุ่มฝุ่นก๊าซของเนบิวลาที่ประกอบด้วยธุลีธาตุในอวกาศและก๊าซไฮโดรเจน ฮีเลียม ออกซิเจน ไนโตรเจน ฯลฯ ที่กินพื้นที่กว้างถึงหนึ่งร้อยปีแสง กาลผ่านไป เหล่าก๊าซรวมตัวหนาแน่นขึ้น ก่อเกิดปฏิกิริยาปรมาณูสร้างเป็นอาทิตย์ดวงใหม่ นั่นคือดวงอาทิตย์ของเรา ความร้อนของมันแผดเผากลุ่มก๊าซสลายเหลือแต่ธาตุที่แข็ง ผ่านไปอีกหลายล้านปี ธาตุต่าง ๆ ค่อยเกาะตัวกันเป็นรูปร่างชัดเจนขึ้น หล่อหลอมกลายเป็นดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่หมุนวนเป็นระบบด้วยแรงที่เกาะเกี่ยวกัน โลกเป็นหนึ่งในนั้น

    ถัดมาอีก เราเห็นอุบัติของชีวิตที่เกิดจากการรวมกันของธาตุต่าง ๆ ในท้องทะเลเมื่อสามพันห้าร้อยล้านปีที่แล้ว ที่กาลต่อมาพัฒนาเป็นสิ่งมีชีวิตนับล้านล้านสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์เป็นระบบที่มีระเบียบแบบแผนอย่างเหลือเชื่อ หนึ่งในนั้นเป็นองค์ประกอบหลักของธาตุคาร์บอน ก่อกำเนิดเป็นเซลล์์ เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ ถัดมาอีก หลังจากที่ทวีปเดียวในโลกคือ แพนเจีย เคลื่อนตัวแยกออกจากกัน กระทั่งสิบห้าล้านปีก่อน สิ่งมีชีวิตที่เป็นบรรพบุรุษของลิงก็ถือกำเนิดขึ้น

    สี่แสนปีก่อนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า 'คน' และพัฒนาต่อมาจนกลายเป็นคนในสภาพปัจจุบันเมื่อราวสี่หมื่นปีมานี้เอง มีอวัยวะที่ซับซ้อนขึ้น แต่ละชีวิตประกอบด้วยเซลล์จำนวนร้อยล้านล้านล้านเซลล์ แต่ละเชลล์มีขนาดเฉลี่ยเพียงเส้นผ่าศูนย์กลางสอง-สามแสนอะตอม ซึ่งนับว่าเล็กกว่าเล็ก

    ทว่ามันยังประกอบด้วยส่วนที่เล็กไปกว่านั้น ยกเว้นเซลล์เม็ดเลือดแดงแล้ว ทุกเซลล์มีนิวเคลียสซึ่งประกอบด้วยโครโมโซม 23 คู่ ที่มีรหัสดีเอ็นเอไม่เหมือนกันเลย กำหนดเป็นสองแขน สองขา สองตา หนึ่งจมูก หนึ่งปาก ระบบโลหิต อวัยวะที่ทำให้เกิดความต้องการทางเพศ ระบบประสาท และสมองที่สามารถรับและเชื่อมสัญญาณความรู้สึกต่าง ๆ เช่น ความรัก ความโกรธ ความเศร้า

    เป็นการสร้างที่มหัศจรรย์เหลือเชื่อ จากธุลีดาวกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สลับซับซ้อน! แต่สิ่งที่เหลือเชื่อกว่ากลับเป็นสิ่งที่คนสร้างขึ้น ทั้งในทางสร้างสรรค์และทำลาย เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ที่สัตว์สายพันธุ์ Homo sapiens ต้นแบบของคนปัจจุบันปรากฏขึ้นราวสองแสนปีมาแล้ว กระจายไปทั่วผืนโลกราวสี่หมื่นปีก่อน รู้จักการเกษตรเมื่อหนึ่งหมื่นสองพันปีก่อน สร้างเมืองเมื่อราวแปดพันปีก่อน

    ในระยะเวลาไม่กี่พันปีของอารยธรรมมนุษย์ 'สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน' ได้ก่อเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย สงคราม การสร้างชาติ การขีดกั้นเส้นขอบเขตของแผ่นดิน การค้าทาส การล่าอาณานิคม การสร้างลัทธิการปกครอง ศิลปะ วัฒนธรรม ภาษา วรรณกรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี ศาสนา ไสยศาสตร์ ไปจนถึงโลกาภิวัตน์และการตลาดข้ามชาติ แต่ในความจริงก็คือ โลกใบนี้มีอายุน้อยนิดเมื่อเทียบกับจักรวาลซึ่งมีอายุราวหนึ่งหมื่นสามพันล้านปี

    ในช่วงเวลาอันยาวนานนี้ดวงดาวจำนวนมหาศาลได้ถือกำเนิดและดับ วนเป็นวัฏฏะ การสิ้นสุดของดวงดาวไม่ว่า ค่อย ๆ ขยายตัวเป็นดาวยักษ์แดง กะเทาะออกเป็นดาวแคระขาว หรือระเบิดออกทันทีเป็นซูเปอร์โนวาที่อาจกลายต่อไปเป็นหลุมดำ เถ้าของมันก็รวมตัวกันใหม่ เป็นเช่นนี้ตลอดมาไม่รู้กี่แสนกี่ล้านวัฏจักร อารยธรรมของสิ่งมีชีวิตที่กำลังกระเสือกกระสนในทะเลสังคมทุกวันนี้เป็นเพียงพริบตาเดียวในเวลาของมหาจักรวาลเท่านั้น

    ลองคิดดู หากการกำเนิดสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนแตกต่างออกไปในช่วงแรกของการผสมผสานของธาตุต่าง ๆ ในห้วงสมุทร หากธาตุคาร์บอนมีน้อยลงสักส่วน หรืออุณหภูมิโลกตอนนั้นสูงขึ้นเพียงองศาเดียว ตอนนี้เราอาจเป็นคนที่มีสามตา หกขา อาจไม่มีความรู้สึกหรืออารมณ์ พูดให้ง่ายเข้าก็คือ หากองค์ประกอบที่เป็นตัวแปรเหล่านี้เปลี่ยนไป พฤติกรรมตลอดจนวิถีการดำเนินชีวิตของคนในสังคมก็อาจเปลี่ยนไป

    เช่นกันหากในอนาคต วิทยาศาสตร์มีบทบาทมากขึ้นถึงขั้นเปลี่ยนแปลงกายภาพของคน การดำเนินชีวิตของคนก็น่าจะเปลี่ยนไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น การเหยียดสีผิวที่เป็นต้นเหตุของการสงครามและการค้าทาสในยุคหนึ่ง อาจไม่เป็นปัญหาเลยในอีกห้าพันปีข้างหน้า เมื่อวิศวพันธุกรรมสามารถเปลี่ยนยีนสีผิวและรูปร่างหน้าตาคนให้เป็นอย่างใดก็ได้ หรือหากในอีกห้าหมื่นปีข้างหน้า มนุษย์สามารถขจัดอารมณ์ (ที่เราจัดว่า) เลวร้ายทั้งหลายออกจากสารบบประสาท (โดยผ่านกระบวนการวิศวชีวกรรมและจิตศาสตร์) ชีวิตตอนนั้นย่อมต่างจากโลกในศตวรรษที่ยี่สิบอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

    แต่ถึงเวลานั้นคนก็อาจสร้างปัญหาใหม่ ๆ ขึ้นมาแทน เป็นต้น

    ........................

    ท่อนหนึ่งจาก สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน / วินทร์ เลียววาริณ

    รางวัลซีไรต์ ปี 2542
    หนึ่งในหนังสือดี 100 เล่มที่เด็กและเยาวชนควรอ่านจาก สกว. 
    หนึ่งใน 101 อันดับหนังสือเล่มในดวงใจนักอ่านเเละนักเขียน สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
    1 ใน 9 นวนิยายยอดเยี่ยม 'วรรณกรรมยอดเยี่ยม ในสมัยรัชกาลที่ 9 ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา' โดยกระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. 2562
    เรื่องสั้นบางเรื่องได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น จีน เวียดนาม 
    เบสต์เซลเลอร์ ยอดจำหน่ายกว่า 100,000 เล่ม

    ยังมีจำหน่ายที่เว็บ https://www.winbookclub.com/store/detail/146/สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน%20%28ปกอ่อน%20ปรับปรุง%29 

    0
    • 0 แชร์
    • 30

บทความล่าสุด