• วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    เมื่อวานนี้พูดเรื่อง Dead hand และสงครามนิวเคลียร์ ทำให้นึกถึงเรื่องสั้นไซไฟเรื่องหนึ่งที่ผมเขียนมานานแล้ว เรื่องนี้ยาวมาก คัดมาให้อ่านบางท่อน

    ................................

    17 มกราคม 2208

    เกนนี มาเกน กำลังยืนกลางพื้นที่ว่างเปล่า

    ความอึดอัดในที่คับแคบทำให้เขาแอบย่องออกจากอุโมงค์ขึ้นไปข้างบน กลิ่นควันที่พุ่งเข้ามาปะทะทำให้เขาสำลักครู่หนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ลมหายใจของเขาชะงักค้างก็คือภาพที่เห็นเบื้องหน้า

    เบื้องหน้าคือเส้นขอบฟ้าและดวงอาทิตย์ขมุกขมัวยามเช้า เขาขมวดคิ้ว จำได้ว่าชาวิชบอกเขาว่าบริษัทอาฟเตอร์ไลฟ์ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่เขามองไม่เห็นอาคารใด ๆ สักหลังเดียว รวมทั้งตัวโรงพยาบาล เบื้องหน้าคือซากปรักหักพังของเมือง ยานพาหนะ รัศมีการทำลายล้างแผ่กว้างสุดลูกหูลูกตา

    ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งก้าวมาจากด้านหลัง

    ชาวิช

    เกนนี มาเกน พึมพำ "นี่คือสงครามอะไร? ทำไมรุนแรงเช่นนี้?"

    "กลับลงไปข้างล่างเถอะ พื้นที่ข้างบนนี้อยู่ไม่ได้ มันปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี"

    เสียงของเขาแหบแห้ง "นี่คือสงครามโลก?"

    "ใช่"

    "สงครามโลกครั้งที่สาม?"

    "สงครามโลกครั้งที่ห้าต่างหาก"

    เขาสะดุ้ง พึมพำ "153 ปีกับสงครามโลกห้าครั้ง!"

    "153 ปีกับสงครามโลกห้าครั้ง และสงครามย่อย ๆ อีก 9,267 ครั้ง"

    เขางันไป

    "ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณ นี่อาจเป็นโลกที่ผิดจากที่คุณคาดไว้ตอนแช่แข็ง"

    "คุณไม่น่ากู้ชีพผมขึ้นมาเลย"

    "เป็นหน้าที่ของผมที่ต้องทำ คุณเป็นรายสุดท้ายที่เราปลุกให้ฟื้นคืนชีพจากการแช่แข็ง แหล่งพลังงานหลักบริเวณที่ตั้งของโรงพยาบาลถูกทำลาย เราอยู่ได้ด้วยพลังงานสำรองที่มีเวลาเพียง 48 ชั่วโมง เราต้องสะสางงานทั้งหลายก่อนที่เครื่องจักรรักษาชีพของมนุษย์แช่แข็งจะหยุดทำงานอย่างถาวร หากไม่ปลุกคุณ คุณก็จะตายไปตลอดกาล เราต้องทำ คุณเป็นลูกค้ารายใหญ่ของอาฟเตอร์ไลฟ์"

    ..............................

    เกนนี มาเกน ผ่านชีวิตในอุโมงค์นานสามเดือนแล้ว พวกเขาอยู่ด้วยอาหารเม็ด ทุกวันมีคนตายวันละคนสองคนเพราะพิษรังสีที่รั่วซึมลงมา แต่ถึงกระนั้นอุโมงค์แห่งนี้ก็ยังเป็นพื้นที่ที่ยังปลอดภัยจากรังสีปรมาณูสำหรับมนุษย์ผู้ที่ยังไม่ได้ทำการแต่งยีนต้านรังสี อย่างน้อยที่สุดใต้ดินก็เป็นสถานที่อบอุ่นกว่านรกบนดิน

    เขาถาม "สงครามโลกครั้งที่สามเกิดเมื่อไหร่?"

    ชาวิชว่า "สงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้นในปี 2058 เป็นการรบด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เสียหายไปครึ่งโลก ต้องใช้เวลากว่าห้าสิบปีจึงฟื้นฟูทุกอย่างกลับมาสู่สภาพเดิม โชคดีที่วิทยาการทั้งหลายไม่ได้สูญหายไปเพราะสงคราม"

    "มีคนตายเท่าไหร่?"

    "สงครามโลกครั้งที่สามฆ่าคนตายไปสองพันล้านคน สงครามโลกครั้งที่สี่ร่วมสามพันล้านคน ส่วนสงครามโลกครั้งที่ห้าหรือครั้งนี้ ผมคาดว่าประชากรอาจตายเกือบหมดโลก จากข้อมูลที่ผมดักฟังจากคลื่นวิทยุ ตอนนี้ส่วนหนึ่งของทวีปอเมริกาและยุโรปหายไปจากผืนโลกแล้วอย่างถาวร"

    "อะไรคือสาเหตุของสงครามครั้งนี้?"

    "ก็เหมือนสาเหตุของสงครามทุกครั้ง เรื่องเดิม ๆ ของมนุษย์ นี่เองที่ทำให้ผมไม่เคยเข้าใจมนุษย์ หลังสงครามโลกครั้งที่สาม ชาวโลกก็คุยกันเรื่องการกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ แต่ผ่านไปไม่ถึงยี่สิบปี แต่ละชาติก็ครอบครองอาวุธปรมาณูมากกว่าเดิม งบประมาณก้อนใหญ่ของแต่ละชาติยังคงเป็นการพัฒนาอาวุธ สงครามโลกครั้งที่สี่เกิดขึ้นสามสิบปีหลังสงครามโลกครั้งที่สาม ตามมาด้วยครั้งที่สี่และครั้งที่ห้า ราวกับว่าพวกมนุษย์ไม่มีความสามารถเรียนรู้จากบทเรียนเดิม"

    เขาเห็นรอยยิ้มแรกของชาวิช

    "ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ คุณกำลังคิดว่าผมไม่ควรกู้ชีวิตคุณคืนมา"

    "ช่างมันเถอะ ถึงตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว"

    ........................

    ท่อนหนึ่งจากนิยาย มนุษย์แช่แข็ง ในชุด ยามดึกนึกหนาวหนาว เขนยแนบ แอบเอย

    (หนังสือหมดไปนานแล้ว เหลือแต่อีบุ๊ค)
    https://www.winbookclub.com/store/detail/66/ยามดึกนึกหนาวหนาว%20เขนยแนบ%20แอบเอย 

    1
    • 0 แชร์
    • 19
    Regnarts
    "ยามดึกนึกหนาวหนาว เขนยแนบแอบเอย" เป็นเล่มเดียวที่ผมไม่มี จากชุดนิยายวิทยาศาสตร์ 4 เล่ม "เดือนช่วงดวงเด่นฟ้า ดาดาว จรูญจรัสรัศมีพราว พร่างพร้อย ยามดึกนึกหนาวหนาว เขนยแนบ แอบเอย เย็นฉ่ำน้ำค้างย้อย เยือกฟ้าพาหนาว" 😢
    ดูความเห็น 1 รายการ ...

บทความล่าสุด