-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
เจ็งกิส ข่าน ย่อมอยู่ในทำเนียบนักรบที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในโลก เขายาตราทัพครอบครองค่อนโลก ไม่มีอาณาจักรใดหาญต้านเขา เพราะทุกอาณาจักรที่ขวางทางเขาล้วนพินาศสิ้น
เวลานั้นในตะวันออกกลางมีอาณาจักรใหญ่แห่งหนึ่งชื่อควาเรซเมียน (Khwarazmian) ควาเรซเมียนก็คืออาณาจักรเปอร์เซีย ครอบครองพื้นที่ซึ่งปัจจุบันคือเอเชียกลาง อัฟกานิสถาน อิหร่าน ยาวนาน 154 ปี
ในราวปี ค.ศ. 1219-1220 เจ็งกิส ข่าน ส่งพ่อค้าชาวมองโกลกลุ่มใหญ่ไปผูกสัมพันธ์กับควาเรซเมียนเพื่อการค้า ควาเรซเมียนคิดว่าคนเหล่านี้เป็นสายลับ ก็สั่งฆ่าหมด
เจ็งกิส ข่าน โกรธ แต่ยังไม่สิ้นความพยายาม ส่งทูตสามคนไปเจรจารอบใหม่ ชาห์ มูฮัมเหม็ดที่ 2 ฆ่าทิ้งทูตหนึ่งคน ล้อเลียนทูตอีกสองคนกลางที่สาธารณะ เหตุการณ์นี้จุดไฟพิโรธ เจ็งกิส ข่าน พลุ่งพล่าน สำหรับมองโกล มันคือการประกาศสงคราม
จอมข่านทิ้งศึกที่เมืองจีนหันไปบุกควาเรซเมียนแทน
ทัพมองโกลสองหมื่นคนนำโดยโจชิและเจอเป ทะยานข้ามเทือกเขาเทียนซานลงใต้ มุ่งสู่อาณาจักรควาเรซเมียน กองทัพมองโกลฝ่าหิมะหนากลางฤดูหนาว ข้ามหุบเขาเฟอร์กานา ไปหยุดที่หน้าเมือง
ชาห์ตะลึงพรึงเพริด ไม่คาดฝันว่าทัพมองโกลจะเดินทางมาถึงและปรากฏตัวที่หน้าเมืองรวดเร็วขนาดนี้ได้ การเดินทางของมองโกลครั้งนี้เปรียบได้กับการข้ามภูเขาแอลป์สของจอมทัพฮันนิบาลเมื่อ 218 ปีก่อนคริสตกาล
ชาห์ มูฮัมเหม็ดที่ 2 คิดผิดใหญ่หลวงที่ไปแหย่รังแตน เพราะแตนมองโกลไม่เคยลืมความแค้น และวิธีล้างแค้นของพวกมองโกลคือทำลายทั้งอาณาจักรสิ้นซาก
ปีถัดมา เจ็งกิส ข่าน ส่งโตลุยบุตรชายไปสมทบที่ กองทัพโตลุยถล่มเมืองนิชาปุระและเมิร์ฟจนราบคาบ สังหารหมู่คนทั้งสองเมือง
อาณาจักรควาเรซเมียนถูกทำลายสิ้น เลือดนองแผ่นดิน ราษฎรผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถูกฆ่าตายหมดทั้งแผ่นดินเพราะผู้นำประเมินพลังศัตรูผิด และจุดชนวนสงคราม
อย่างไรก็ตาม กองทัพยิ่งใหญ่ของ เจ็งกิส ข่าน ก็พบความประหลาดใจและคาดไม่ถึง เพราะกลางซากพินาศของcผ่นดินศัตรู ก็ยังมีคนหาญสู้
จาลาล อัล-ดิน บุตรชายคนหนึ่งของชาห์ มูฮัมเหม็ดที่ 2 เมื่อรู้ว่าบิดาสิ้นแล้ว ก็ตั้งตนเป็นผู้นำ นำกำลังที่เหลือร่อยหรอต้านพวกมองโกล
จาลาล อัล-ดินเป็นนักรบผู้มากความสามารถ เกิดจากนางสนม โดยลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ไทยจะไม่ได้เป็นชาห์ แต่เนื่องจากอาณาจักรควาเรซเมียนสิ้นไปแล้ว เขาจึงขึ้นเป็นผู้นำ
จาลาล อัล-ดินรบกับพวกมองโกลอย่างกล้าหาญ ในยุทธการปาร์วันเขาพิชิตทัพมองโกลจนแตกอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับทัพมองโกลอันเกรียงไกร การแตกทัพเป็นสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในความคิดฝันของพวกเขา
เจ็งกิส ข่าน จึงนำทัพเอง ตามล่าจาลาล อัล-ดินที่มุ่งหน้าไปทางอัฟกานิสถานเพื่อตั้งหลักใหม่ ณ แม่น้ำสินธุที่ไหลมาจากทิเบต เกิดยุทธการครั้งสุดท้ายระหว่างจาลาล อัล-ดินกับ เจ็งกิส ข่าน
ยุทธการแห่งแม่น้ำสินธุ (Battle of the Indus)
จาลาล อัล-ดินต่อสู้อย่างกล้าหาญ เมื่อไพร่พลล้มตายไปมาก ตำนานเล่าว่าเขาต้องฆ่าแม่และภรรยาเพื่อไม่ให้ตกอยู่ในมือศัตรู
เขาเหลือทางเลือกสองทาง ตายด้วยมือศัตรูหรือตายด้วยมือตัวเอง
ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคน จาลาล อัล-ดินควบม้ากระโจนลงจากผา ร่วงลงไปในแม่น้ำสินธุ พลธนูมองโกลง้างคันธนูเตรียมยิง แต่ เจ็งกิส ข่าน เห็นความกล้าหาญของศัตรูแล้ว สั่งห้ามไว้
จาลาล อัล-ดินรอดชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ ข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งหนึ่ง
เจ็งกิส ข่าน กล่าวว่า "บิดาคนใดมีบุตรเช่นนี้ย่อมประเสริฐยิ่ง"
ประวัติศาสตร์การสิ้นอาณาจักรควาเรซเมียนสอนเราว่า ผู้นำที่ไร้วิสัยทัศน์สามารถทำลายชาติของตนได้อย่างไร
และผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดต่อสู้อริราช แม้แต่ศัตรูก็ยกย่อง
วินทร์ เลียววาริณ
15 สิงหาคม 25680- แชร์
- 2
-
ของเล่นสุดเท่ของเด็กยุคนี้อาจอยู่ในรูปดิจิตัล เกมต่างๆ แต่สำหรับเด็กรุ่นผม ยุค Baby boomers (หรือหลังจากนั้นอีกหน่อย) น่าจะคือหนังสติ๊ก
มันเป็นอาวุธพิฆาตนกกระจอก ยิงตายแล้วจับมาปิ้งกิน
นอกจากพิฆาตนกแล้ว ยังใช้เล่นเกม ยิงกระป๋องนมประลองความแม่น ฯลฯ
มันเป็นเกมเด็กๆ สนุกสนานไปตามเรื่อง
ไม่นึกว่าในยุคปัจจุบัน จะมีคนเอาหนังสติ๊กมาใช้เป็นเกมการเมืองระหว่างประเทศ
หมดกัน ภาพสวยงามวัยเด็กหายหมด
วินทร์ เลียววาริณ
13-8-252 วันที่ผ่านมา -
สี่ภพ เป็นนิยายจีนกำลังภายในก็จริง แต่เนื่องจากมันก็เป็นไซไฟที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลและดวงดาว ดังนั้นวิทยายุทธ์และอาวุธต่างๆ ในเรื่องจึงเกี่ยวข้องกับดวงดาวเสียมาก
ท่านที่เคยอ่านบทตัวอย่างฉบับแซมเปิ้ลที่แจกไปเมื่อปีก่อน จะพบว่าในบทที่ 3 นิยายเปิดตัวคัมภีร์หมื่นดาว
ชื่อก็บอกว่าเป็นวิชาเกี่ยวกับดวงดาวแน่ๆ
ตัวเลขหมื่นในภาษาจีนเป็นคำที่หมายถึงเยอะ
หมื่นดาวก็แสดงว่าดาวเยอะ จึงมีนัยของดาราจักร
ยิ่งเดินเรื่องไปไกลขึ้น ก็จะมีลมปราณ วิทยายุทธ์แปลกๆ ที่อิงดวงดาวและปรากฏการณ์ในจักรวาล ดังที่เคยเล่าเรื่องพลังดูดของซูเปอร์โนวามาก่อน
ไม่รู้เป็นอะไร ผมเขียนนิยายไม่ว่าตระกูลไหน เป็นหนีไม่พ้นฉากเกี่ยวกับดวงดาวและจักรวาล
ในภาคหนึ่ง ตัวละครจางฝานไปผจญภัยที่เปอร์เซีย และพบว่ามันเป็นแหล่งความรู้ด้านดาราศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อารยธรรมอาหรับในสมัยนั้นก้าวหน้าที่สุดในโลก ตำราดาราศาสตร์ปัจจุบันได้รับอิทธิพลจากเปอร์เซีย ชื่อดาวส่วนใหญ่บนฟ้าเป็นภาษาอาหรับ
แสดงให้เห็นว่าวิทยาการด้านดาราศาสตร์ของเปอร์เซียเวลานั้นก้าวหน้ามาก
พวกลัทธิไฟเม้งก่าก็มาจากเปอร์เซีย ในเมื่อท่านกิมย้งเล่นกับเม้งก่าของเปอร์เซียใน ดาบมังกรหยก ผมก็เดินรอยตาม แต่เปลี่ยนไปเล่นดาราศาสตร์เปอร์เซียก็แล้วกัน
ดังนั้นเรื่อง สี่ภพ แม้จะเป็นนิยายจีนกำลังภายใน ผู้เขียนก็อดที่จะเสียบวิชา Cosmology 101 เข้าไปไม่ได้
วินทร์ เลียววาริณ
8-8-25ป.ล. ท่านที่จอง pre-order แล้วยังไม่ได้ชำระเงิน โปรดทราบว่า ราคา pre-order 2,200.- นี้จะยืนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 เท่านั้น หลังจากนั้นจะเปลี่ยนไปใช้ราคาปก 2,400.- ดังที่เคยแจ้ง และอาจมีค่าส่ง
อ่านที่มาของงานชุดนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/photo/?fbid=1348523389969682&set=a.208269707328395
อ่านรายละเอียดหนังสือได้ที่
https://www.facebook.com/photo?fbid=1352241359597885&set=a.208269707328395ตอนนี้พิมพ์จริงแล้ว สั่งซื้อ คลิก https://www.winbookclub.com/store/detail/254/4%20%E0%B8%A0%E0%B8%9E
ในหน้า pre-order สามารถคลิกอ่านตัวอย่าง 2 บทได้ฟรี
2 วันที่ผ่านมา -
ชาเรียนเป็นนักบินอวกาศ ได้รับการว่าจ้างจากบริษัทเพชรแห่งหนึ่งไปทำลายดาวเคราะห์ดวงหนึ่งชื่อ ซีตา 712 ดาวเคราะห์ในระบบดาวซีตา ห่างจากโลกที่เขาอยู่ยี่สิบสองปีแสง
ซีตา 712 เคยเป็นดาวเคราะห์ขนาดยักษ์โคจรรอบดาวซีตา แต่เมื่อดวงอาทิตย์ของมันดับ ทิศทางการโคจรของมันก็เปลี่ยนไป มันกลายเป็นซากดาวเคราะห์ซึ่งเดินทางไปโดยไม่โคจรรอบดวงอาทิตย์ดวงใด บริษัทเพชรค้นพบว่า ซีตา 712 กำลังวิ่งตรงเข้าหาดาวเอรากอน หนึ่งในดาวเคราะห์ที่พวกเขาใช้ทำเหมืองเพชร และจะชนโลกเหมืองเพชรแห่งนั้นในอีกสิบสองปีข้างหน้า จึงต้องทำลายดาวเคราะห์ดวงนี้
ชาเรียนขับยานไปวางระเบิดดาวเคราะห์ดวงนั้น และพบว่า ซีตา 712 เป็นดาวเคราะห์ที่เป็นเพชรทั้งดวง เขาจึงรู้เหตุผลที่แท้จริงของการทำลายดาวเคราะห์ดวงนั้น ซีตา 712 มีปริมาณเพชรมากพอที่จะขุดออกมาใช้ได้นานหลายพันปี ดาวเคราะห์ดวงนี้จะทำให้ราคาเพชรตกต่ำลงอย่างฮวบฮาบจนแทบไร้ค่า บริษัทฯจึงต้องทำลาย ซีตา 712 เพืื่อรักษาราคาเพชรในตลาดตามที่พวกเขากำหนด
นี่เป็นนิยายไซไฟชื่อ คนเสเพล (รวมเรื่องสั้นชุด จรูญจรัสรัศมีพราว พร่างพร้อย) ซึ่งผมเขียนเมื่อ 20 ปีก่อน ทว่าไม่นานมานี้ในโลกของความจริง นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวเคราะห์ที่เป็นเพชรจริง ๆ !
ดาวเคราะห์ดวงนี้อยู่ห่างจากโลกเราประมาณสี่พันปีแสง โคจรรอบดาวนิวตรอนดวงหนึ่ง หนึ่งรอบกินเวลาสองชั่วโมงสิบนาที มันเป็นดาวเคราะห์มวลสูง ประกอบด้วยคาร์บอนอัดแน่นมหาศาล นักวิทยาศาสตร์คำนวณความหนาแน่นแล้วเชื่อว่าธาตุคาร์บอนในดาวเคราะห์ดวงนี้ตกผลึกเป็นเพชร
เช่นเดียวกับในนิยาย ถ้าเราขุดเพชรจากดาวเคราะห์ขนาดยักษ์ดวงนี้มาได้เมื่อไร ราคาเพชรในตลาดโลกก็คงมีค่าพอกับกรวดทราย เพราะใคร ๆ ก็หาเพชรมาประดับได้ง่าย ๆ
ทว่ามองอีกมุมหนึ่ง คงไม่มีใครคิดเอาเพชรไร้ค่ามาประดับตัว เหมือนกับที่ไม่มีใครเอากรวดมาประดับตัวในตอนนี้ เหตุผลเดียวคือของยิ่งมีมาก ค่ายิ่งน้อย เมื่อได้มาง่าย ๆ ก็ไร้ค่า
จะเห็นว่า ‘ราคา’ ขึ้นกับซัพพลาย มีน้อยราคาก็สูง
ราคาไม่เกี่ยวกับ ‘ดี’ เสมอไป
ความจริงเพชรก็เป็นเพียงธาตุคาร์บอนที่บังเอิญอยู่ใต้ดินชั้นที่ลึกมาก ๆ แรงกดดันมหาศาลและความร้อนทำให้คาร์บอนอัดแน่นจนเป็นเพชร (เพราะมันอัดแน่น มันจึงเป็นธาตุที่แกร่งที่สุดในโลก)
เมื่อเกิดภูเขาไฟระเบิด ลาวาใต้โลกก็ผลักเพชรข้างล่างพุ่งขึ้นมาบนผิวโลก วันดีคืนดีก็มีคนขุดมาขาย แย่งกันฆ่ากันตายเพื่อมัน ทั้งที่ใช้กินก็ไม่ได้ มันมีค่าก็เพราะมันหายาก
การผลิตเหรียญใช้ในประเทศ รัฐบาลจะระวังไม่ให้ค่าของเหรียญสูงกว่ามูลค่าเหรียญ ยกตัวอย่างเช่น เหรียญหนึ่งบาทต้องทำด้วยโลหะมูลค่าไม่เกินหนึ่งบาท
หากค่าของเหรียญเกินมูลค่าของมัน ก็จะมีคนเอาเหรียญไปหลอมเป็นโลหะขายได้กำไรดีกว่า
สมัยผมเป็นเด็ก มีคนหัวใสเอาเหรียญ 50 สตางค์มาหลอมไปขาย เพราะราคาโลหะสูงกว่าตัวเลขบนเหรียญ
คนจำนวนมากมองไม่ออกว่า ของดีกับของแพงไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งเดียวกัน สินค้า ‘เลอค่า’ อาจมีราคาสูงเพราะปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่คุณภาพสินค้า ภาพเขียนบางภาพแพงเพราะมันเป็นของเก่า ไม่ใช่คุณค่าทางศิลปะ
คุณค่าของสิ่งของจึงอยู่ที่การสมมุติ
วินทร์ เลียววาริณ
14-8-25ท่อนหนึ่งจาก รอยยิ้มใต้สายฝน
35 บทความกำลังใจ ราคาเพียง 190 บาท = บทความละ 5 บาทเศษ
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/139/รอยยิ้มใต้สายฝน
https://s.shopee.co.th/8Ke0htOJcm2 วันที่ผ่านมา -
ท่านรัฐมนตรีรักชาติเพิ่งได้มอเตอร์ไซค์คันใหม่สัญชาติอเมริกัน ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ด้วยความตื่นเต้น ท่านขี่จักรยานยนต์คันใหม่ตระเวนไปทั่วเมือง
ท่านรัฐมนตรีขี่ฮาร์ลีย์-เดวิดสันไปตามซอยเล็กซอยน้อย ผู้คนมองทั้งคนและรถด้วยความทึ่ง ท่านรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อผ่านซอยสายหนึ่ง มอเตอร์ไซค์คันใหม่เกิดอาการสั่นกระตุก ตอนนั้นรถในซอยกำลังติด ท่านมองซ้ายมองขวา เห็นข้างๆ ท่านมีมอเตอร์ไซค์เก่าๆ คันหนึ่ง คนขี่และคนซ้อนท้ายเป็นชายหนุ่ม สวมเสื้อเก่าขาด
ท่านหันไปถามคนทั้งสองว่า "นี่น้อง รู้จักฮาร์เล่ย์มั้ย?"
คนบนมอเตอร์ไซค์เก่าทั้งสองชะงัก หันมามองท่าน
คนหนึ่งร้อง "เอ๊ะ! นี่ท่านรักชาตินี่นา"
ท่านรัฐมนตรีตอบ "ใช่ ผมเอง นี่น้องรู้จักฮาร์เล่ย์มั้ย?"
คนขี่มอเตอร์ไซค์ที่ซ้อนท้ายก้าวลงจากรถ เอ่ยว่า "หนอย! ดูถูก"
ว่าแล้วก็ถีบฮาร์ลีย์-เดวิดสันของท่านล้มดังโครม ท่านรัฐมนตรีหล่นไปนอนกองบนพื้น สีหน้าตกใจ
ท่านรัฐมนตรีร้อง "คุณทำร้ายผมทำไม?"
"ไอ้รัฐมนตรีเฮงซวย พวกกูขี่มอ'ไซค์ญี่ปุ่นถูกๆ เก่าๆ ส่วนท่าน เอ๊ย! มึงขี่ฮาร์เล่ย์แล้วเสือกดูถูกคนระดับล่าง เหี้ย!"
จบคำเท้าก็อัดใส่สีข้างท่านรัฐมนตรีอีกที แล้วขึ้นมอเตอร์ไซค์หายไป
ชาวบ้านตรงมามุงดูท่าน "เอ๊ะ! นี่ท่านรักชาตินี่นา"
คนหนึ่งถาม "ท่านถูกอัดเพราะดูถูกคนจนนี่นา"
ท่านรัฐมนตรีรักชาติเอ่ย "เปล่า พวกนั้นเข้าใจผิด หาว่าผมดูถูกคนจน ความจริงมอเตอร์ไซค์ผมมีปัญหา เครื่องสั่นกระตุกทำท่าจะดับ ผมจึงถามพวกนั้นว่ารู้จักฮาร์เล่ย์มั้ย จะได้รู้วิธีแก้"
วินทร์ เลียววาริณ
13-8-25(ขอบคุณภาพจาก Harley-Davidson)
(ดัดแปลงจากเรื่องที่เคยได้ยินมา ต้นฉบับเป็นรถเวสปา)
2 วันที่ผ่านมา -
แจ้งข่าวให้ทราบว่า ผมได้ส่งอาร์ตเวิร์ก สี่ภพ เข้าโรงพิมพ์แล้ว
แปลว่าหากไม่เกิดแผ่นดินไหวขนาดยักษ์ ภูเขาไฟผุดขึ้นกลางกรุง ดาวหางชนโลก ก็อดซิลลาทำลายกรุงเทพฯ มนุษย์ต่างดาวบุกทำลายโรงพิมพ์ ฯลฯ งานก็สมควรrิมพ์เสร็จตามกำหนด
และน่าจะส่งให้ผู้สั่งซื้อได้ราวกลางเดือนกันยายน (บวกลบ)
งานนี้อาจจะช้าที่กล่อง เพราะต้องหุ้มทีละใบด้วยมือ แต่งานเดินหน้าแน่นวล เอ๊ย! แน่นอน
วินทร์ เลียววาริณ
13-8-25ท่านที่จอง pre-order แล้วยังไม่ได้ชำระเงิน โปรดทราบว่า ราคา pre-order (2,200.-) นี้จะยืนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 หลังจากนั้นจะเปลี่ยนไปใช้ราคาปก (2,400.-) และอาจมีค่าส่ง
2 วันที่ผ่านมา