-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
การเขียนหนังสือเป็นงานที่ต้องสมาธิ จดจ่อกับงาน เมื่อสมาธิรวมศูนย์ มันจะปรากฏคลื่นความคิดที่สาดซัดเข้าหาฝั่งแห่งแผ่นกระดาษ ระลอกแล้วระลอกเล่า
ความสามารถคุมคลื่นความคิดนี้คือความสุขอย่างหนึ่ง ราวกับผู้เขียนเป็นพระเจ้า ผู้เสกสรรค์ฉากและตัวละครจากความว่างเปล่า ให้มีชีวิต
สมาธิทำให้เราทำงานที่ดูยากเย็นสำเร็จ สมาธิทำให้เราโฟกัสเฉพาะจุดปัจจุบันที่เราอยู่ เหมือนแว่นขยายรับแสงแดด รวมศูนย์จนจุดจุดหนึ่งเกิดไฟลุกโพลง
เช่นเดียวกับการปฏิบัติธรรม สมาธิเป็นหัวใจของการรวมจิตให้แน่แน่ที่จุดจุดเดียว
ในทางอุตสาหกรรมมีการใช้พลังน้ำตัดเหล็ก ตัดหิน เรียก water jet
น้ำที่อ่อนโยน เมื่อถูกรวมกันด้วยแรงดันสูงสุด กลายเป็นลำน้ำที่มีพลังตัดเจาะวัตถุที่แข็งแกร่งกว่ามันได้
พลังสมาธิเมื่อใช้ให้ถูก สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้
จิตของคนเราก็เช่นกัน หากเรารวมแต่ความคิดที่ดี มันก็มีพลังทำให้ผ่านพ้นเรื่องร้ายๆ ความวิตกกังวลทั้งหลาย
และทำให้อุปสรรคแห่งชีวิตหายไป
วินทร์ เลียววาริณ
20 สิงหาคม 25680- แชร์
- 1
-
เล่าเรื่องของพี่เจ็งต่อดีมั้ย?
ลองตอบคำถามนี้ก่อน กองทัพมองโกลของ เจ็งกิส ข่าน บุกตะลุยยึดครองไปครึ่งโลก มีกำลังคนเท่าไร?
ห้าแสน? หนึ่งล้าน? สองล้าน?
คิดแบบสามัญสำนึกคือมองโกลต้องมีคนมากพอบุก เพราะแผ่นดินที่พวกเขาบุกยึดมีกำลังทหารมากมาย เช่น ซ่ง มีนับล้าน เปอร์เซีย รัสเซีย ก็มีทหารมาก
คำตอบของนักประวัติศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง เจ็งกิส ข่าน คือหนึ่งแสนคน บวกลบนิดหน่อย
หนึ่งแสนคนจุในสนามกีฬาใหญ่ๆ บางแห่งได้!
หนึ่งแสนคนบุกไปทั่วโลก
เจ็งกิส ข่าน รักษาขนาดของกองทัพไว้เล็กเสมอ
"Keep it small."
แต่กองทัพที่เล็กกว่าสามารถพิชิตกองทัพข้าศึกที่มีกำลังมากกว่า
เหตุผลคือการจัดการ การวางแผน
กองทัพมองโกลเป็นหน่วยรบที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลกเวลานั้น ทุกคนทุกหน่วยทำงานเต็มที่
นักรบมองโกลหนึ่งคนสามารถยิงเป้าหมายที่อยู่ห่างไปสองร้อยเมตร ขณะควบม้าที่ความเร็ว 60 กม./ชม.
ในการเดินทัพ ทหารหนึ่งคนคุมม้าหลายตัว เพื่อไม่ให้ม้าเหนื่อยเกินไปเมื่อเดินทัพไกล และหากจำเป็นก็ฆ่าม้าเพื่อเป็นอาหารได้
ทหารมองโกลยุค เจ็งกิส ข่าน ฝึกขี่ม้าตั้งแต่เด็ก
ทารกสามขวบก็ขี่ม้าแล้ว โดยไม่มีอานม้า เพราะอานม้าใหญ่เกินไป
คนกับม้าผูกพันกัน
ทหารมองโกลรักม้า ไม่กระตุ้นม้าด้วยสเปอร์เหล็กอย่างที่คาวบอยตะวันตกใช้ เพราะมันทำร้ายม้า
องค์กรธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถใช้หลักของ เจ็งกิส ข่าน ได้ นั่นคือพัฒนาคนให้ทำงานเชื่อมกัน และมีประสิทธิภาพสูงสุด
องค์กรเล็ก แต่ทุกหน่วยทำงานสอดคล้องกัน ก็อาจได้ผลดีกว่าองค์กรใหญ่ที่เทอะทะ
ถ้า เจ็งกิส ข่าน มาเห็นการทำงานเช้าชามเย็นชามของระบบราชการในบางประเทศ มัวแต่ประชุมและตั้งคณะกรรมการศึกษา คงจับไปตัดหัวหมด
ทำงานช้าอย่างนี้ พี่เจ็งเค้าหงุดหงิด
วินทร์ เลียววาริณ
20-8-251 วันที่ผ่านมา -
พูดเรื่องเบื้องหลัง สี่ภพ อีกนิด
ปกติก่อนดูหนังเรื่องใดๆ ผมไม่อ่านรีวิวหนัง ไม่ดู trailer ไม่ต้องการแม้จะรู้ด้วยซ้ำว่าเป็นหนังเกี่ยวกับอะไร ผมต้องการความเซอร์ไพรซ์เต็มที่
ดังนั้นผมจึงมักไปดูหนังในวันแรก รอบแรก เพื่อไม่ให้ใครมาสปอยล์อะไรทั้งสิ้น
งาน สี่ภพ ก็เหมือนกัน นวนิยายเรื่องนี้หักมุมเป็นระยะๆ แต่จุดหักมุมใหญ่อยู่ในเล่ม 5 พลิกเรื่องไปอีกทิศหนึ่ง
เล่ม 6 ซึ่งเป็นเบื้องหลังการเขียนงานชิ้นนี้ อธิบายรายละเอียดของการหักมุมใหญ่นั้นในทางวิทยาศาสตร์ เพราะถ้าไม่อธิบาย ผู้อ่านอาจจะไม่เข้าใจหรือเห็นภาพรวม แต่ถ้าใส่รายละเอียดนั้นในนิยาย มันจะกลายเป็นส่วนเกิน นวนิยายจะกลายเป็นสารคดีไป
ถ้าอ่านเล่ม 6 ก่อน ก็เหมือนดูหนังเรื่อง The Sixth Sense โดยรู้ตอนจบก่อน จะเสียอรรถรสอย่างร้ายแรง
เรื่องบางเรื่องเชื่อผู้เขียนเถอะ ถ้าบอกว่าอย่าอ่านก่อน ก็อย่าอ่านก่อน มันมีเหตุผล
บางคนถามว่าขายแยกไหม ทำไม่ได้ เพราะจากประสบการณ์ มันคุมการพิมพ์ไม่ได้ ตัวอย่างเช่น เดือนช่วงฯ เล่ม 3 พิมพ์จำนวนเท่ากับเล่มอื่น แต่อยู่ๆ หายไปจากตลาด และหากผู้อ่านตัดสินใจไม่ซื้อเล่มหลังๆ ต้นทุนการผลิตจะเปลี่ยนไป ราคาจะสูงขึ้นทันที อีกประการ การพิมพ์ทั้งชุด ทำให้ต้นทุนลดลง (แม้ว่ายังสูงอยู่ เพราะพิมพ์น้อย)
ขอแจ้งให้ทราบว่า เราบริจาคงานชุดนี้เข้าห้องสมุดด้วย ท่านที่ไม่อยากซื้อทั้งชุด ก็สามารถไปหาอ่านได้ฟรีในห้องสมุด
ส่วนอีบุ๊คนั้น ยังไม่ได้ทำ รอให้จัดการฉบับหนังสือเรียบร้อยก่อน
แต่คำแนะนำของผมคือ หากไม่ได้อยู่ต่างประเทศ ก็น่าจะซื้อฉบับหนังสือ เพราะราคาจะไม่ต่างกันมาก เนื่องจากอีบุ๊คเดี๋ยวนี้ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น ค่า app มาก โดนกินทุกขั้นตอน หากถามผม ซื้อหนังสือน่าจะคุ้มกว่า เพราะท้ายที่สุดก็ยังขายต่อได้
วินทร์ เลียววาริณ
19-8-251 วันที่ผ่านมา -
วันก่อนเห็นข่าวนายกฯสิงคโปร์กำลังจะทำให้การสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีโทษเท่ายาเสพติด
ในหลายมุมโลก เชื่อกันว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้า (Vaping) ปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่ แต่,ีข้อมูลทางวิชาการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆว่า มันเป็นอันตราย
นายกฯสิงคโปร์ให้เหตุผลว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นแค่อุปกรณ์ อันตรายอยู่ที่สารที่ใส่ในนั้น
ปัจจุบันมีคนใส่สาร Etomidate วันพรุ่งนี้จะใส่สารอะไร ก็ไม่รู้
รัฐก็ต้องจ่ายค่าปัญหาสุขภาพของคนติดบุหรี่ไฟฟ้าอีกมหาศาล เอาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ย
ตัดไฟแต่ต้นลมก็แล้วกัน ขี้เกียจตามแก้ปัญหาของวันพรุ่งนี้
วันนี้สิงคโปร์เริ่มบทปรับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถไฟฟ้าและรถเมล์ คือสองพันเหรียญ
ที่นำข่าวมาเล่าก็เผื่อใครไปที่สิงคโปร์ อย่าเผลอควักบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบในที่สาธารณะล่ะ
และอย่าเผลอนำกัญชาเสรีจากเมืองไทยไปสูบที่นั่น ถ้าเอากัญชาไปนิดหน่อย โทษคือจำคุกสิบปี เฆี่ยนด้วยหวาย ถ้านำเข้าเพื่อจำหน่ายเกินครึ่งกิโลคือประหารชีวิต ไม่ได้พูดเล่น มีคนโดนมาแล้ว
ถามว่าสิงคโปร์จะขจัด Vaping สำเร็จไหม
คำตอบก็ลองดูว่าการแบนหมากฝรั่งที่ไม่มีสารเสพติดสำเร็จไหม
สมัยนั้นคนชอบทิ้งหมากฝรั่งที่เคี้ยวแล้วตามที่นั่งและที่สาธารณะต่างๆ ลีกวนยูก็แก้โดยแบนมันเลย
หลายประเทศร้องจ๊าก บอกว่า นี่มันเผด็จการชัดๆ เคี้ยวหมากฝรั่งก็ไม่ได้
ลีกวนยูบอกว่า เผด็จการหรือไม่เผด็จการอั๊วไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้ไม่มีหมากฝรั่งบนที่นั่งรถเมล์อีกแล้ว(ว่ะ)
มาถึงบรรทัดนี้หลายคนคงอยากถาม ตกลงประเทศสิงคโปร์ปกครองด้วยระบอบอะไรกันแน่
คำตอบคือ เปลือกนอกเป็นระบอบประชาธิปไตย (ไม่งั้นชาติตะวันตกจะเรียงหน้าด่า) แต่ในภาคปฏิบัติคือระบอบ Pragmatism
แปลว่าอะไรก็ได้ ถ้าดีก็ทำ
วินทร์ เลียววาริณ
19-8-251 วันที่ผ่านมา -
เคยสงสัยไหมว่าทำไมไดโนเสาร์จึงมีตัวใหญ่เท่าตึก?
มีหลายทฤษฎี
ยุคที่เหล่าไดโนเสาร์ครองโลกคือ Triassic, Jurassic และ Cretaceous ราว 250 ล้านปีก่อนจนถึงราว 65 ล้านปีก่อน เป็นช่วงที่อากาศอุ่นกว่าโลกในวันนี้มาก ระดับคาร์บอน ไดออกไซด์ สูงกว่าปัจจุบันถึงสี่เท่า ทำให้พืชเติบโตและมีมากมาย ไดโนเสาร์ที่กินพืชมีอาหารอุดมสมบูรณ์
นี่เป็นทฤษฎีหนึ่ง
อีกทฤษฎีหนึ่งคือระดับออกซิเจนในโลกสมัยนั้นสูงกว่าตอนนี้ ทำให้สัตว์โตกว่าปกติ ทำให้ไดโนเสาร์ตัวใหญ่มาก เหมือนยุค Carboniferous ซึ่งเป็นยุคก่อนมีไดโนเสาร์ ราวสามร้อยล้านปีก่อน ช่วงเวลานั้นระดับออกซิเจนสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าปัจจุบันคือราว 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สัตว์ในยุคนั้นโตมาก แมลงและสัตว์ขาปล้องโบราณมีขนาดใหญ่มาก
แต่ทฤษฎีนี้ถูกยิงตก เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เผยว่า ระดับออกซิเจนในสมัยไดโนเสาร์ครองโลกไม่ได้สูงกว่าโลกของเราในวันนี้
หลักฐานยังพบว่าไม่ใช่ไดโนเสาร์ทุกพันธุ์ที่ตัวใหญ่ ไดโนเสาร์ที่กินพืชตัวเล็ก เช่น Heterodontosaurus และไดโนเสาร์นักล่าตัวเล็ก เช่น Coelophysis
ความจริงคือ ไดโนเสาร์หลายสายพันธุ์ตัวเล็ก ตัวยาวแค่ 12-17 ฟุตเท่านั้น
ทำไมสัตว์โลกจึงมีขนาดต่างกันมากขนาดนี้ ใหญ่ยักษ์และเล็กจิ๋ว?
ในหลักวิวัฒนาการ ชีวิตบนโลกปรับตัวตามสิ่งแวดล้อม บางสายพันธุ์มีขนาดใหญ่ บ้างมีขนาดเล็ก
ธรรมชาติยุติธรรมกับทั้งสัตว์ใหญ่และเล็ก ไม่ว่ามีขนาดใหญ่หรือเล็ก ก็อยู่ในโลกได้ตามวิถีของพวกมัน
โลกมีสัตว์น้ำเล็กจิ๋ว เช่น ปลาซิว ปลาเข็ม และมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่ เช่น วาฬ เล็กหรือใหญ่ก็ว่ายน้ำได้เหมือนกัน นกขนาดใหญ่ เช่น อินทรี และขนาดเล็กจิ๋ว เช่น ฮัมมิงเบิร์ด ขนาดแค่ 2-5 นิ้ว ใหญ่หรือเล็กก็บินได้เหมือนกัน
ความแตกต่างระหว่างสัตว์ทั่วไปกับมนุษย์คือ ในสัตว์ทั่วไป ขนาดใหญ่หรือเล็กขึ้นกับความจำเป็นและความอยู่รอด แต่ใหญ่หรือเล็กในสังคมมนุษย์อาจมาจากการเลือกและค่านิยมของสังคม
ในสังคมที่แข่งขันกัน เราก็แข่งในเรื่องใหญ่โตโดยปริยาย เพราะความใหญ่เป็นเครื่องแสดงสถานะทางสังคมและมาตรวัดความสำเร็จ การแสดงที่ชัดเจนที่สุดคือผ่านวัตถุ เช่น บ้าน รถยนต์ ของประดับ
การอาศัยอยู่ในบ้านใหญ่ 50 ห้องไม่ใช่เรื่องแปลก หากจำเป็นต้องใช้งาน แต่หากทำเพื่อสนองอีโก้ตนเอง ห้องที่เกินมาก็เป็นแค่ ‘เครื่องประดับ’
ใช้โถส้วมทองคำแล้วมีความสุข ก็เป็นเรื่องดี แต่ถ้าใช้อวดความรวย มันก็เป็นแค่เครื่องประดับ
ถ้าเราสามารถแยกแยะได้ว่า อะไรในชีวิตของเราเป็นของจำเป็น อะไรเป็นเครื่องประดับ เราก็อาจเข้าใจตัวเองมากขึ้น และอาจปล่อยวางง่ายขึ้น ผลที่ตามมาก็มีความสุขทางใจมากขึ้น
วินทร์ เลียววาริณ
19-8-25จาก เหตุผลที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า
56 บทความกำลังใจ ราคาเพียง 200 บาท = บทความละ 3.5 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/187/เหตุผลที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า1 วันที่ผ่านมา -
นวนิยาย สี่ภพ มีหกเล่ม ส่วนที่เป็นนวนิยายมี 5 เล่ม ประกอบด้วย 5 ภาค (เป่ย หนาน ตง ซี เทียน)
เล่มที่ 6 เป็นสารคดี เรียกว่า บันทึกสี่ภพ
ทำไมต้องมีสารคดี?
ตอบสั้นๆ คือผู้อ่านขอมา
นวนิยาย สี่ภพ เป็นการเดินทางนานกว่ายี่สิบปี เริ่มต้นที่คอนเส็ปต์ในรูปของการอำในปี 2545 แต่ในบทอำนั้น ก็วางกระดูกสันหลังของเรื่องเรียบร้อยแล้ว
การโยงนิยายกำลังภายในกับนิยายไซไฟไม่ใช่ของใหม่แล้วใน พ.ศ. นี้ แต่ในปี 2545 เมื่ออำเรื่องนี้นั้น ยังไม่ค่อยเห็นกัน
สี่ภพ จึงเป็นการทดลองทางวรรณกรรม นำนิยายตระกูลกำลังภายในเข้าไปสู่อีกพื้นที่หนึ่ง และข้ามพ้นกรอบคิดเดิมของนิยายตระกูลนี้
เนื่องจากกระบวนการทำงานยุ่งยากมาก ผู้อ่านหลายคนก็เสนอว่าควรเล่าที่มาที่ไป เพื่อประโยชน์ของนักอ่าน และเป็นกรณีศึกษาของนักเขียน
ผมเห็นด้วย เห็นสมควรบันทึกไว้เป็นตัวอย่างศึกษา นอกจากเล่าที่มาที่ไป ยังถือโอกาสให้ความรู้เรื่องจักรวาลวิทยาที่นำมาใช้ในเรื่องด้วย
บันทึกสี่ภพ ประกอบด้วย
ภาค 1 เบื้องหลังการทำงาน มี 9 บท เช่น Master Plan การออกแบบฉาก ฉากสงคราม การออกแบบอาวุธ การสร้างตัวละคร ฉากและซับพล็อตที่ไม่ได้ใช้ ประวัติศาสตร์จริง และการออกแบบรูปเล่ม ภาค 2 คือไดอารีการทำงาน แต่ละวัน แต่ละช่วงคิดอะไร พัฒนาพล็อตอย่างไร รวมถึงเกร็ดกำลังภายในที่คนรุ่นใหม่อาจไม่รู้
เป็นเล่มความรู้ล้วนๆ
คำเตือนคือ ห้ามอ่านเล่ม 6 ก่อนอ่านนวนิยายโดยเด็ดขาด มันจะเป็นสปอยเลอร์ระดับมหากาฬ และทำลายรสชาติการอ่านหมดสิ้น
วินทร์ เลียววาริณ
19-8-25อ่านที่มาของงานชุดนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/photo/?fbid=1348523389969682&set=a.208269707328395
อ่านรายละเอียดหนังสือได้ที่
https://www.facebook.com/photo?fbid=1352241359597885&set=a.208269707328395ตอนนี้พิมพ์จริงแล้ว สั่งซื้อ คลิก https://www.winbookclub.com/store/detail/254/4%20%E0%B8%A0%E0%B8%9E
ในหน้า pre-order สามารถคลิกอ่านตัวอย่าง 2 บทได้ฟรี
ท่านที่จอง pre-order แล้วยังไม่ได้ชำระเงิน โปรดทราบว่า ราคา pre-order (2,200.-) นี้จะยืนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 หลังจากนั้นจะเปลี่ยนไปใช้ราคาปก (2,400.-) และอาจมีค่าส่ง
2 วันที่ผ่านมา