• วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    ผมชอบเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก สมัยนั้นโรงเรียนรัฐบาลไม่สอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ ป. 1 ผมเข้าโรงเรียนเอกชน จึงโชคดีได้เรียนตั้งแต่เด็ก โรงเรียนแสงทองมีครูฝรั่งหลายคน เน้นภาษาอังกฤษค่อนข้างมาก

    ผมเรียนภาษาอังกฤษจากครูบาทหลวงหลายปี มีอยู่ปีหนึ่ง ครูสอนเป็นคนไทย แกมัวแต่เล่าประสบการณ์ทางเซ็กซ์ ผลคือเทอมนั้นเราไม่ค่อยได้ความรู้ภาษาอังกฤษเพิ่ม แต่เอาเถอะ ได้ความรู้อีกเรื่องหนึ่ง!

    นอกจากเรียนในโรงเรียน พ่อยังสั่งให้ไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ  ครูสอนภาษาอังกฤษเป็นคนจีน ชื่อครูซิ้วหมิ่น ภาษาอังกฤษของแกเป็นที่เลื่องลือในหาดใหญ่ แกเปิดบ้านสอนภาษาอังกฤษอย่างเดียว สอนเป็นชั้น ในตอนหัวค่ำมีนักเรียนจำนวนมากไปเรียน

    ตำราที่ครูสอนคือ Oxford Progressive English for Adult Learners ของ A.S. Hornby ก็เรียนไปหลายเล่ม ผมพัฒนาภาษาอังกฤษจากสำนักครูซิ้วหมิ่นมาก เรียนมาหลายกระบวนท่า

    ทุกอาทิตย์ผมซื้อหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนมาอ่าน ชื่อ Student Weekly (ชื่อเดิม Kaleidoscope) ของ Bangkok Post คอลัมน์ที่ผมชอบคือเกม crossword ผมพัฒนาเรื่องคำศัพท์จากการเล่นปริศนาอักษรไขว้มากทีเดียว เพราะมันบังคับให้ต้องเปิดหาคำจากพจนานุกรม

    แต่พอไปถึงกรุงเทพฯ เข้าคณะสถาปัตย์ฯ จุฬาฯ ปรากฏว่าเห็นเพื่อนหลายคนพูดภาษาอังกฤษเป็นไฟ มารู้ทีหลังว่าเรียนอัสสัมฯบ้าง มาแตร์ฯบ้าง

    โห! กระบวนท่าที่เราเรียนมานี่สู้เด็กกรุงเทพฯไม่ได้เลย

    เพื่อนผมคนหนึ่งภาษาอังกฤษดี เขาฝึกโดยฟังเพลงฝรั่ง แกะคำเอา ผมเคยลองดู ก็ยากเหมือนกัน

    ตอนผมไปทำงานที่สิงคโปร์ปี 1980 ไปเรียนภาษาอังกฤษภาคค่ำ อาจารย์ก็ให้ฟังเพลง ของวง Air Supply แล้วถอดคำออกมา ปรากฏว่าแทบสอบตก ศิษย์สำนักสำนักครูซิ้วหมิ่นหมดความมั่นใจไปเลย

    ตอนที่อยู่สิงคโปร์ ดูหนังฝรั่งบ่อย หนังที่นั่นไม่มีซับไตเติลไทย มีแต่ซับไตเติลภาษาจีน ผมก็อ่านซับฯจีน!

    อ้าว! แล้วกัน อย่างนี้เมื่อไรจะเก่งเล่า!

    ครั้นไปเรียนและทำงานที่อเมริกา วันหนึ่งเพื่อนร่วมงานชื่อคีธทักผม "What's up?" ผมทำหน้างงๆ เขาหัวเราะ บอกว่า "ที่แท้ไม่เข้าใจ" แล้วอธิบายให้ฟัง

    วันหนึ่งเราไปสำรวจพื้นที่ก่อสร้าง พบหนังสือโป๊เล่มหนึ่งตกอยู่บนพื้น เขาหัวเราะบอกว่า "wet stuff" ผมพยักหน้า เฮ้ย! เรื่องนี้ไม่ต้องอธิบาย เข้าใจ! (ก็เรียนมาตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนเก่า!)

    ผมทำงานที่สำนักงานสถาปนิกที่นิวยอร์กร่วมปี วันหนึ่งเจ้านายอเมริกันพูดฟุดฟิดฟอไฟใส่ผมเป็นชุด ฟังไม่รู้เรื่อง แต่พยักหน้าหงึกๆ พอสิ้นอาทิตย์เขียนใบเบิกค่าเงินเดือน แกก็เรียกไปถามว่า ที่บอกว่าขึ้นเงินเดือนให้ ทำไมยังไม่ปรับ

    อ้าว! เพิ่งรู้ว่าขึ้นเงินเดือนให้

    ศิษย์สำนักสำนักครูซิ้วหมิ่นหมดความมั่นใจไปอีกรอบ

    โชคดีที่ผมชอบอ่านหนังสือ เมืองนอกมีหนังสือมือสองขายเยอะ นิยายไซไฟ หนังสือทางดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ก็อ่านและเรียนจากหนังสือพวกนี้ อีกอย่างได้พูดภาษาอังกฤษทุกวัน ผ่านไปหลายปี ภาษาก็ดีขึ้น ก็เรียนภาษาอังกฤษถูลู่ถูกังมาอย่างนี้

    กลับมาเมืองไทย ผมก็อ่านแต่หนังสือภาษาอังกฤษ ต่อเนื่องกันหลายปี ก็พัฒนาไปอีกขั้น

    ทุกอย่างคงอยู่ที่การฝึก ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ละคนคงต้องหาวิธีที่ตนเองชอบ

    ภาษาอังกฤษสำคัญมาก ตะวันตกมีหนังสือจำนวนมากที่ไม่มีในไทย ไม่ทุกเล่มแปลเป็นไทย ดังนั้นหากสามารถอ่านตรงได้ จะช่วยพัฒนาสมอง ได้เปรียบกว่าคนอื่นที่อ่านวงแคบ

    คำแนะนำของผมคือ ไหนๆ เราไม่อาจหนีจากภาษานี้ได้ในชาตินี้ ก็เรียนให้ดีไปเลย จริงไหม?

    วินทร์ เลียววาริณ
    3 ดีเซ็มเบอร์ 2025

    0
    • 0 แชร์
    • 4

บทความล่าสุด