-
วินทร์ เลียววาริณ2 ปีที่ผ่านมา
หนังแนวรบกัน ชิงอำนาจกันในสมัยกลาง สร้างมามากมาย ดีบ้างไม่ดีบ้าง ที่ใช้ได้ เช่น Centurion (2010) The King (2019) Outlaw King (2018) และที่ดีมาก เช่น Braveheart (1995)
ล่าสุดคือ Medieval (2022)
ก่อนดูก็เดาว่าน่าจะดูได้สัก 5-10 นาทีก่อนเหนี่ยวไกรีโมต คอนโทรล ฆ่าหนังทิ้งอย่างไม่ปรานี ก็เกือบกดเปลี่ยนเหมือนกัน แต่ความตื่นเต้นมาทันเวลา จึงดูไปจนจบ หนังมีพล็อตดึงความอยากรู้อยากเห็นของเราไปได้เรื่อยๆ
Medieval สร้างอิงจากบุคคลจริงคือ Jan Žižka (1360 – 1424) นักรบชาวเช็ค ได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษของชาวเช็ค ถูกสร้างเป็นหนังมาหลายครั้งแล้ว
Jan Žižka เวอร์ชั่นนี้รับบทโดย Ben Foster นักแสดงที่เล่นหนังมานาน แต่ดูเหมือนยังไม่ก้าวขึ้นไปแถว A-List สักที ทั้งที่มีหนังเด่นอยู่หลายเรื่อง เช่น Lone Survivor (2013) Hell or High Water (2016) ฯลฯ
นักแสดงรุ่นเก๋าที่มาสมทบก็คือ ไมเคิล เคน
แน่นอน ในเมื่อเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ ก็ใส่สีแต่งเติมเข้าไปให้มีรสชาติ
คอหนังที่ดูหนังแนวนี้มามาก อาจจำได้ว่าเคยดูท่อนนี้ท่อนนั้นมาแล้วจากที่ไหนสักแห่ง เช่น ฉากต่อสู้หลายส่วนคล้ายกับเรื่อง Braveheart เป็นต้น หนังเหมือนหยิบยืมซับพล็อตจากหนังอื่นๆ มาใส่พอประมาณ แต่หนังก็มีแก่นเรื่องของมันเอง
คะแนนหนังเรื่องนี้แทบทุกสำนักต่ำ หนังมีจุดอ่อนกระจายไปทั่ว แต่หากดูการเล่าเรื่อง พล็อต การรักษาจังหวะหนัง โทน อารมณ์ ก็ถือว่าจับเราอยู่ และโดยรวมดูสนุก อย่างน้อยก็สนุกกว่าหนังเรื่องศึกชิงประธานรัฐสภาอยู่หลายช่วง
7.9/10
Netflixวินทร์ เลียววาริณ 28-6-66
วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
0- แชร์
- 58
-
ลูกค้าคนนี้เป็นหญิงสาว หล่อนเป็นคนสวย ไม่ใช่สวยธรรมดา แต่สวยสะกดวิญญาณ หล่อนสั่ง flaming drink ก่อนหน้านี้สองแก้ว เปลวไฟบนเหล้าสว่างวาบ แสงกระทบใบหน้าหล่อนดูลี้ลับ
flaming drink คือค็อคเทลที่จุดไฟจริง ไม่ทุกวันที่มีลูกค้าขอให้ข้าพเจ้าปรุงค็อคเทลไฟ
ข้าพเจ้าถาม "เอาอีกแก้วไหมครับ?"
หล่อนสั่นศีรษะ "ค็อคเทลธรรมดาดีกว่า ฉันเล่นกับไฟมาพอแล้ว"
ข้าพเจ้ายิ้ม คนสวยอย่างหล่อนเล่นกับไฟไม่ใช่เรื่องผิดคาด
หล่อนเบือนหน้าดูโทรทัศน์ในร้านแวบหนึ่งแล้วส่ายหน้า ข้าพเจ้าหันไปดูบ้าง เป็นข่าวพระต้องปาราชิกเพราะยุ่งเกี่ยวกับสตรี ข่าวที่เป็น talk of the town ในชั่วโมงนี้
ข้าพเจ้านึกในใจ กำแพงสุดท้ายที่นักบวชทุกศาสนาต้องข้ามให้พ้นคือความใคร่
ลูกค้าสาวเอ่ย "กำแพงสุดท้ายที่นักบวชทุกศาสนาต้องข้ามให้พ้นคือความใคร่"
ข้าพเจ้างันไป หล่อนอ่านใจข้าพเจ้าออกทะลุ อาจเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้
ข้าพเจ้าเห็นข่าวพระแล้วพลันนึกถึงค็อคเทลชื่อ พระบ้า - Mad Monk Monkey
หล่อนเอ่ย "ขอ Mad Monk Monkey ก็ดีเหมือนกันค่ะ"
ข้าพเจ้าสะดุ้ง นี่ไม่น่าเป็นเรื่องบังเอิญ
"คุณเป็นใคร? ทำไมอ่านใจผมออก?"
หล่อนยิ้ม กล่าวว่า "ในใจคุณกำลังคิดว่า ผู้หญิงที่อ่านใจชายออกนี่อันตราย"
ข้าพเจ้าสะดุ้งอีกครั้ง
"คุณอ่านใจคนออกจริงด้วย"
"ขอ Mad Monk ก่อนดีกว่าค่ะ"
ข้าพเจ้าปรุง Mad Monk Monkey ประกอบด้วย Hayman's London Dry Gin ผสม Green Chartreuse ผสม Giffard Banane du Brésil liqueur ผสม Luxardo Maraschino liqueur ผสม Amaro และน้ำมะนาว
หล่อนดื่มค็อคเทลพระบ้า แล้วยกนิ้วให้ "คุณเป็นหนึ่งในเจ็ดบาร์เทนเดอร์ที่ดีที่สุดในโลก"
"ทำไมคุณสรุปอย่างนี้?" ข้าพเจ้าถามในใจโดยไม่เอ่ย
"เพราะฉันผ่านโลกมานาน ดื่มเหล้ามาเยอะ"
"นาน? นานแค่ไหน?"
"นานเท่ากำเนิดมนุษย์"
ข้าพเจ้าหัวเราะ "คุณไม่ได้ล้อเล่น?"
สายตาหล่อนบอกว่าหล่อนไม่ใช่คนชอบล้อเล่น
"คุณเป็นใครกันแน่?"
"ฉันชื่อ ก. ก. ย่อมาจากกิเลสมาร"
"มารตัวแรกในมารทั้งห้าในพุทธศาสนา?"
"ใช่ค่ะ"
"คุณคือมารที่ขวางทางธรรมมานานหลายพันปีแล้ว?"
"ใช่ค่ะ มารคนนั้นแหละค่ะ"
มารสวยอย่างนี้ มิน่าเล่าจึงขวางทางธรรมของนักบวชหลายรูปได้สำเร็จ
ข้าพเจ้าถามมาร "ทำไมคนเราจึงผ่านด่านมารกิเลสไม่พ้น?"
"มันเป็นธรรมชาติของคนที่อ่อนแอเมื่อเจอกิเลส"
"แม้แต่นักบวช?"
"โดยเฉพาะนักบวช ทุกศาสนาก็มีนักบวชที่ผ่านด่านหญิงงามไม่พ้น คนเราต้องใจเข้มแข็งจริงๆ จึงจะบวชได้"
"ตามนิยายกำลังภายใน ด่านนางงามผ่านยากที่สุด"
"ใช่แล้วค่ะ"
"แล้วจะแก้ไขยังไง?"
"ขอค็อคเทลอีกแก้วก่อนดีกว่าค่ะ"
"ผมขอเสนอค็อคเทล Temptation (สิ่งยั่วยวน)"
"ดีค่ะ"
ค็อคเทลแห่งความยั่วยวนทำด้วย Blended whiskey ผสม Dubonnet Rouge ผสม Triple sec เปลือกส้ม เปลือกมะนาว
หล่อนดื่มแล้วบอกว่า "รสเยี่ยมค่ะ เมื่อกี้เราคุยถึงไหนแล้วคะ?"
"ผมถามว่าเราจะแก้ไขยังไง?"
"หมายถึงวงการศาสนาในไทย?"
"ครับ"
"วงการศาสนาที่นี่ออกจะหย่อนยานไปบ้าง บวกกับวัดมีเงินมากขึ้น ก็ย่อมดึงมารเข้าไปหา สมัยก่อนพระแตะเงินไม่ได้ เป็นเรื่องจริงจังมาก สมัยนี้พระบางรูปมีเงินเป็นพันล้าน เล่นพนันทีละหลายร้อยล้าน จึงเป็นเป้าหมายของมาร"
ข้าพเจ้าทำแก้วใหม่ Devil's Cocktail ทำด้วย Cockburn's Tawny Eyes Port ผสม Strucchi Dry Vermouth และน้ำมะนาว
หล่อนดื่มแล้วบอกว่า "เงินเป็นบ่อเกิดของกิเลส แต่มันเป็นค่านิยมของสังคมที่เชื่อว่าทำบุญมาก ก็จะได้ชาติหน้าที่ดีกว่านี้ บางทีประชาชนอาจต้องเปลี่ยนทัศนคติว่า การทำบุญไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปการบริจาคเงิน และเข้าใจว่าบริจาคเงินให้พระมากอาจส่งผลลบทางอ้อม ทำให้พระบรรลุธรรมยากขึ้น เพราะมันเพิ่มสิ่งยั่วยวน และดึงมารไปหา"
"ในโลก พ.ศ. นี้ จะมีนักบวชสักกี่คนสามารถฝ่าด่านมาร?"
มารสาวยิ้ม "แต่ไม่มีใครเอาปืนจี้คนคนหนึ่งให้บวชไม่ใช่หรือคะ?"
"บางทีควรมีกฎห้ามพระมีบัญชีส่วนตัว หรืออาจต้องตรวจสอบทรัพย์สินก่อนและหลังบวช เหมือนนักการเมือง"
"นั่นคือปลายเหตุไม่ใช่หรือคะ? การสังคายนาวงการต้องทำโดยทุกฝ่าย เพราะมันเป็นปัญหาเดิมเสมอมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และไม่ใช่ครั้งสุดท้าย"
ข้าพเจ้าลงมือทำค็อคเทลแก้วใหม่ ทำด้วยคอนยัค Elderflower liqueur ผสม Agave syrup และน้ำมะนาว
"รับค็อคเทลอีกแก้วไหมครับ?"
หล่อนสบตาข้าพเจ้า "ค็อคเทล Desire (ปรารถนา)"
หล่อนสั่นศีรษะ "คุณดื่มเองเถอะค่ะ"
"คุณจะกลับแล้ว?"
"คืนนี้ฉันมีงานต้องทำค่ะ"
กิเลสมารสาวสวยออกจากร้านไปแล้ว ข้าพเจ้ายกแก้ว Desire ขึ้นดื่ม
บางทีคนเราไม่เคยต้องการหนีพ้นจากความปรารถนา
วินทร์ เลียววาริณ
18-7-25
..................หมายเหตุ เหล้าทั้งหมดนี้มีจริง
พับผ่า! บาร์เทนเดอร์ (The Bartender Series 1) มีจำหน่ายแล้วในรูปอีบุ๊ค สนใจดูได้ในเว็บ winbookclub.com หรือ The Meb
1 วันที่ผ่านมา -
ทุกวันคุณได้รับดินเหนียวก้อนหนึ่งหรือสองก้อน บางทีคุณเดินไปสะดุดมันเข้า บางทีมีคนโยนมาให้ ทำให้ตัวคุณเปื้อนเลอะเทอะ
คุณเรียกมันว่า ‘ปัญหา’
คุณอาจบ่นเมื่อมันเลอะมือเลอะตัว “สกปรกฉิบหาย” หรือ “ซวยจริง ๆ”
แต่ถ้าคุณปั้นแต่งมันเป็นรูป แล้วเผาไฟ จากดินสกปรกเลอะเทอะ กลายเป็นประติมากรรมแสนงดงาม และมีค่าขึ้นมา
ก้อนดินก้อนเดียวกัน มองเป็นก้อนดินสกปรก มันก็เป็นก้อนดินสกปรก มองเป็นประติมากรรมมีค่า มันก็เป็นประติมากรรมมีค่า
เรื่องเดียวกัน มองให้เป็นปัญหา มันก็เป็นปัญหา
ปัญหาเดียวกัน มองเป็นก้อนหิน มันก็เป็นก้อนหิน มองเป็นสำลี มันก็เป็นสำลี หนักเบาขึ้นกับการมอง
ชีวิตเป็นอย่างไรขึ้นกับการมอง
และขึ้นอยู่ที่เราจะปั้นก้อนดินสกปรกในมือให้เป็นอะไร
วินทร์ เลียววาริณ
18-7-25จาก ความสุขเล็ก ๆ ก็คือความสุข
57 บทความกำลังใจสั้นและยาว ราคาเพียง 190 บาท = บทความละ 3.3 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/165/ความสุขเล็ก%2520ๆ%20ก็คือความสุข1 วันที่ผ่านมา -
หลังจากแต่งงานมานานปี คุณบริสุทธิ์ก็ต้องพึ่งบริการจิตแพทย์ แน่นอนปรึกษาเรื่องชีวิตคู่
จิตแพทย์ทักคุณบริสุทธิ์ “คุณบริสุทธิ์มีปัญหาอะไรอีกล่ะวันนี้?”
“ปวดหัวมากครับ” คุณบริสุทธิ์ตอบ
“ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ของคุณตอนนี้เป็นยังไง?”
“ชีวิตคู่กับใคร?”
“ถามใหม่ก็แล้วกัน ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ของคุณกับภรรยาตามกฎหมายตอนนี้เป็นยังไง?”
“น็อต โซ เวลล์” (Not so well.)
“แปลว่า?”
“น็อตแปลว่าเครียดอัดแน่นเหมือนขันน็อต โซแปลว่าโซเซเหมือนนักมวยเมาหมัด เวลล์แปลว่าเหมือนกำลังชดใช้เวรกรรมแห่งชีวิตคู่”
“ถึงขั้นเวรกรรมเลยหรือ?”
“ไม่เวรกรรมได้ไง เมียผมขู่ว่าจะวางยาพิษผมครับ”
“คุณเป็นคนเจ้าชู้ เธอก็คงพูดเป็นเชิงปรามคุณไม่ให้คุณออกไปเที่ยวข้างนอก”
“ไม่ใช่ครับ เธอคิดวางยาพิษผมจริง ๆ เธอขู่ผมหลายครั้ง บอกว่าซื้อยาพิษมาแล้วด้วย”
“จริงเรอะ?”
“จริงซีครับ ภรรยาวางยาพิษสามีนี่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายนะครับ”
“คุณบริสุทธิ์ คุณมาหาผมทุกทีก็บ่นเรื่องเมียตลอด บอกตรง ๆ ผมไม่ค่อยเชื่อว่าเมียคุณแย่อย่างนั้น ผมเข้าใจนะ คุณเครียดก็บ่น แต่ระวังอย่าบ่นเรื่องไม่จริงจนมันกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา”
“ถ้าคุณหมอไม่เชื่อผม ก็ลองคุยกับเมียผมดู เผื่อเธอจะเปลี่ยนใจ แล้วกลับมาดูแลผมดี ๆ เหมือนตอนเพิ่งแต่งงานกัน”
“ก็ได้ ผมจะลองคุยกับเมียคุณดู คุณให้เบอร์มา แล้วไปนั่งรอข้างนอก ผมคุยกับภรรยาคุณเสร็จแล้วค่อยเรียกคุณ”
“ขอบคุณครับ”
ผ่านไปชั่วโมงกว่า หมอคุยนานกว่าที่คุณบริสุทธิ์คิด ในที่สุดจิตแพทย์ก็เรียกเขาไปพบ
“คุณหมอคุยกับเมียผมแล้วใช่มั้ยครับ?”
“ใช่ครับ”
“ตกลงหมอแนะนำว่าไงครับ?”
จิตแพทย์กุมขมับ ถอนหายใจเบา ๆ กล่าวว่า “ผมว่าคุณกินยาพิษไปเถอะ”
วินทร์ เลียววาริณ
17-7-25.....................
เล่าใหม่จากขำขันที่ได้ยินมา รวมอยู่ในหนังสือนวนิยาย เรื่องรักของคุณบริสุทธิ์ฯ
(นวนิยายแนวใหม่ที่นำขำขันตลกๆ ระดับ ‘ขำกลิ้ง’ 400 เรื่องมายำเป็นนวนิยาย)
ค่าคลายเครียดแค่ 330 บาท เฉลี่ยขำละ 80 สตางค์ หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้วโปรโมชั่น https://www.winbookclub.com/store/detail/196/แพคเกจพิเศษ%203%20in%201
Shopee เดี่ยว https://s.shopee.co.th/1VjWGyXzed
2 วันที่ผ่านมา -
ในนวนิยายของกิมย้งเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร จอมยุทธ์ฝ่ายอสูรกลุ่มหนึ่งถูกฝ่ายธัมมะลวงเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่งแล้วปิดตายถ้ำนั้น พวกที่ถูกขังใช้อาวุธทลายผนังถ้ำ ด้วยคมอาวุธหลายชิ้นบวกกับพลังภายในระดับสูง พวกเขาเจาะถ้ำไปได้มาก แต่แล้วพวกเขาก็ล้มตายสิ้นเพราะหมดแรง เมื่อตัวละครเอก ‘เหล็งฮู้ชง’ ไปสำรวจถ้ำนั้นนานปีให้หลัง เขาพบว่าจอมยุทธ์เหล่านั้นทลายกำแพงถ้ำไปจวนสำเร็จแล้ว เหลือเพียงนิ้วสองนิ้วก็ทะลุ แต่พวกเขาตายเสียก่อน
พวกเขาอาจตายเพราะหมดกำลังกาย หรืออาจหมดกำลังใจที่จะเดินหน้า เพราะภายในถ้ำมืดพวกเขาไม่มีทางรู้ว่าทลายกำแพงไปได้มากเพียงไรแล้ว หากพวกเขารู้ว่าเหลืออีกเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น พวกเขาก็ย่อมมีกำลังใจทลายมันออกไปได้เพราะรู้ว่าอยู่ใกล้จุดหมาย
ในชีวิตคนเรา มีหลายเรื่องที่เราทำจวนถึงจุดหมาย แต่ล้มเลิก โดยไม่รู้ว่าอีกนิดเดียวเท่านั้นก็สำเร็จแล้ว
หากเราประสบเรือแตกกลางมหาสมุทร ลอยคออยู่เดียวดาย เรามีสองทางเลือกคือ หนึ่งลอยตัวอยู่ในน้ำจนความช่วยเหลือมาถึงหรืออาจไม่มาเลย และสองปล่อยตัวจมน้ำตายไปเลย เพราะว่ายไปก็เสียแรงเปล่า ในเมื่อจะต้องตายอยู่แล้ว มิสู้ตายให้พ้นทุกข์ไปเลยดีกว่า
แต่เราก็ไม่มีทางรู้ว่าจะมีเรือมาช่วยหรือไม่ และถ้ามี เรือที่มาช่วยอยู่ใกล้หรือไกลแค่ไหน
เราต้องตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือยอมแพ้ ซึ่งตัดสินใจได้ยากมากในสภาพมืดแปดด้าน
ในการวิ่งแข่ง นักวิ่งคนหนึ่งเห็นคนอื่นวิ่งแซงหน้าตนไปทีละคน ๆ จนเขารั้งท้าย เขาอาจคิดว่าไม่มีทางชนะแล้ว ก็ไม่ต้องดิ้นรนอะไรอีก แต่ความจริงอาจเป็นว่านักวิ่งคนอื่นก็กำลังหมดแรงและคิดยอมแพ้เช่นกัน ในกรณีนี้ คนที่คิดยอมแพ้ทีหลังสุดเป็นผู้ชนะ
บางครั้งชัยชนะก็มาจากความอดทน รอให้คนอื่นยอมแพ้ก่อน
จิตวิญญาณในการต่อสู้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนจะสู้ตายจนถึงนาทีสุดท้าย บางคนจะประเมินและตัดสินยอมแพ้เมื่อถึงจุดที่เขาคิดว่าควรยอมแพ้ เรื่องนี้ย่อมไม่มีใครผิดใครถูก โง่หรือฉลาด มันเป็นเพียงทัศนคติการมองโลกและชีวิตเท่านั้น
โลกกีฬาเห็นสัจธรรมของเรื่องนี้ชัดเจน บ่อยครั้งที่ฝ่ายหนึ่งรั้งท้าย ดูท่าพ่ายแพ้แน่นอน กลับตีตื้นขึ้นมานำชัยได้ เพราะการกัดไม่ปล่อย สู้ไม่ถอย
บางทีก่อนยอมแพ้ นึกให้ดีก่อนว่า อาจเหลือกำแพงอีกเพียงนิ้วเดียวเท่านั้นที่ขวางเรากับความสำเร็จ
เราไม่รู้ว่าเหล่าจอมยุทธ์ในถ้ำลงแรงทลายถ้ำจนนาทีสุดท้ายของชีวิตหรือไม่ หากพวกเขาสู้จนจุดสุดท้าย พวกเขาก็เพียงพ่ายแพ้ในเกมนั้น แต่หัวใจของพวกเขาชนะเรียบร้อยแล้ว
วินทร์ เลียววาริณ
17-7-25..................
จาก 1 เปอร์เซ็นต์ของความเป็นไปได้
61 บทความ 190.- บทความละ 3.1 บาท
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/150/1%20เปอร์เซ็นต์ของความเป็นไปได้2 วันที่ผ่านมา -
ช่วงนี้เจอใคร มีแต่คนชวนคุยเรื่อง Colour Crow เฮ้อ! เหนื่อยใจ
ความจริงพูดถึงเรื่องพระ สตรี และโลกีย์ ผมเคยเขียนเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งชื่อ โลกีย-นิพพาน เรื่องพระกับหมอนวด
เรื่องสั้นเรื่องนี้จัดว่าแรงและหมิ่นเหม่ในยุคนั้น ผมเองก็กลัวว่าตีพิมพ์ที่ไหน อาจโดนด่า หาว่าเป็นมารศาสนา
ลังเลอยู่นาน แต่ในที่สุดก็ส่งออก ได้รับตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารช่อการะเกด (2535)
ก็ค่อยสบายใจหน่อยว่าคงไม่โดนด่าแล้วละ
ต่อมาเรื่องสั้นเรื่องนี้ได้รับรางวัลช่อการะเกดยอดนิยมประจำปี 2535 ยิ่งโล่งใจเมื่อรวมในชุด อาเพศกำสรวล (2537) ก็ได้รับรางวัลรวมเรื่องสั้นดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ปี 2538 แล้วเข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ปี 2539
แม้เรื่องสั้นจะแตะประเด็นหมิ่นเหม่ แต่จัดเป็นงานศิลปะแนวทดลอง เป็นเรื่องแรกที่ผมใช้กราฟิกมาผสมวรรณกรรม
ส่วนประเด็นหมิ่นเหม่นั้น มาถึง พ.ศ. นี้ถือว่าอ่อนมาก
วินทร์ เลียววาริณ
16-7-252 วันที่ผ่านมา