-
วินทร์ เลียววาริณ7 เดือนที่ผ่านมา
วันนี้ขอเสนอเลขมงคล ให้ฟรีๆ ไม่ต้องจ่ายให้ซินแสรายไหนสักบาทเดียว
เลขมงคลเหล่านี้ผู้ใดยึดไว้ใช้ ก็จะเกิดมงคลจริงแน่นอน เลขเหล่านี้ใช้แทงหวยไม่ได้ แต่ถูกล็อตเตอรีแห่งชีวิตได้ ใช้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือให้โชคดีไม่ได้ แต่เปลี่ยนโลกทัศน์ของชีวิตได้ ใช้เพื่อสิริมงคลไม่ได้ แต่มันให้มากกว่าสิริมงคลร้อยเท่า
เลข 1
คือการเกิดมาในรูปของเราคนเดียว ทั่วทั้งจักรวาลมีเราเพียงคนเดียวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบที่เราเป็น นี่ย่อมเป็นเลขมงคล เพราะเราพิเศษจังเลย!เลข 2
เรามีสองมือสองเท้า นับเป็นมงคลอย่างยิ่ง ดังนั้นทำงานให้เต็มที่ไปเลยเลข 3
ตัวเลขแห่งพระรัตนตรัย นำมงคลมาสู่ชีวิต หากเราให้หลักธรรมนำทางเลข 4
ตัวเลขแห่งอริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เคล็ดลับสู่ความสุขสงบสันติเลข 5
คือศีล 5 รักษาได้ ชีวิตก็เป็นมงคลเลข 6
ก็คือทิศหก บุคคลหกพวกที่เราเกี่ยวข้อง บิดา มารดา ครูอาจารย์ สามีภรรยา มิตรสหาย สมณะชีพราหมณ์ ลูกจ้างกับนายจ้าง ทำดีกับพวกเขา ชีวิตก็เป็นมงคลเลข 7
โชคดีจังที่เรามีเจ็ดวันต่อหนึ่งอาทิตย์! หกวันก็น้อยไป แปดวันก็มากไป เจ็ดวันกำลังดีเลข 8
คือศีล 8 รักษาไว้ย่อมเป็นมงคลเลข 9
คือจำนวนเดือนในท้องแม่ ระลึกถึงพระคุณแม่แล้วเป็นมงคลอย่างยิ่งเลข 10
เราเกิดมามีสิบนิ้ว ใช้ให้เต็มที่ ก็ย่อมเป็นมงคลเลข 24
คือจำนวนชั่วโมงในหนึ่งวัน เป็นมงคลจริง ๆ เพราะแทนที่โลกจะให้เรา 19 ชั่วโมงซึ่งน้อยไปนิด หรือ 28 ชั่วโมงซึ่งมากไปหน่อย โลกกลับใจดีให้เราถึง 24 ชั่วโมง มากพอจะทำการใด ๆ ได้เลข 50
ครึ่ง ๆ คือ 50 ทุกครั้งที่คิดหาคำตอบ จะมองสองทางเพื่อคานปัญญากัน มันเปิดโลกทรรศน์เราให้คิดอีกทางเสมอ ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆเลข 99
เป็นเลขมงคลตามที่ ธอมัส เอดิสัน ว่าชีวิตคือการทำงานหนัก 99% อีก 1% เป็นไอเดีย การทำงานหนักก็คือมงคลชีวิตอย่างหนึ่งเลข 100
เป็นเลขมงคลอย่างยิ่ง เพราะเมื่อเราทำงานเต็มร้อยทุกวัน ชีวิตก็มีโอกาสเจริญรุ่งเรืองเลข 101
งานตั้งเป้าที่ 100 แต่ทำเกินเป็น 101 ชีวิตย่อมมีแต่ดีขึ้น ๆ พัฒนาขึ้น เจริญขึ้นเลข 126
ตัวเลขเริ่มต้นของโรคเบาหวาน ตัวเลขนี้ช่วยเตือนให้เราระวังเรื่องการกิน คนโบราณไม่รู้เรื่องตัวเลขนี้จึงป่วยเป็นโรคร้ายนี้กัน ในเมื่อเรารู้ และรักษาระดับน้ำตาลในตัวเราไม่ให้เกินเลขนี้ ก็ย่อมเป็นมงคลแห่งชีวิตเลข 6-12-6
คือ C6H12O6 เป็นสูตรเคมีของน้ำตาล ต้องกินพอประมาณ ถ้ากินมากก็ออกกำลังกาย เผามันทิ้งเสีย เมื่อนั้นเลขนี้ก็คือมงคลเลข 4,600,000,000
เลขอายุของโลก เป็นมงคลจริง เพราะเราได้เกิดมาในโลกนี้ที่ตัวเลขนี้เลข 13,700,000,000
เลขอายุของจักรวาลเป็นมงคลยิ่ง เพราะน่าทึ่งที่เราได้เกิดมาในจักรวาลนี้ยังมีตัวเลขมงคลอีกมากมายรอชี้ทางสว่างให้เรา
นี่หมายความว่าในบรรดาตัวเลขนับไม่ถ้วน ไม่มีตัวเลขอัปมงคลเลยหรือ? คำตอบคือมีเลขเดียว นั่นคือเลข 0
หากท่านไม่ทำงาน รอแต่ชะตาฟ้าดิน ความรู้ของท่านก็จะเท่ากับศูนย์ ความเจริญก้าวหน้าก็เท่ากับศูนย์ เงินทองก็คือสูญ และนี่คือความอัปมงคลแห่งชีวิตซึ่งมีสองมือสองเท้า แต่เลือกไม่ทำอะไร รอความช่วยเหลือจากอำนาจเหนือธรรมชาติอย่างลม ๆ แล้ง ๆ
แต่อีกนั่นแหละ ทุกอย่างอยู่ที่มุมมอง เลข 0 ก็เป็นมงคลได้ หากมองว่า 0 คือความว่างเปล่า ชีวิตคือมายา ไม่มีสาระ ไม่มีมงคล ไม่มีอัปมงคล
ชีวิตก็ไหลไปเช่นนั้นเอง
สัตว์โลกเป็นไปตาม ‘กรรม’ นั่นคือไม่ทำงานก็ไม่ก้าวหน้า ไม่ขยันก็ไม่รุ่งเรือง ไม่ทำอะไรมงคลก็คือเลข 0 และชีวิตที่เกิดคือความสูญเปล่า
ตัวเลขทุกตัวเป็นมงคลหากมองให้เห็น มองให้เป็น
จากหนังสือ รอยยิ้มใต้สายฝน
วินทร์ เลียววาริณhttps://www.winbookclub.com/store/detail/139/รอยยิ้มใต้สายฝน
0- แชร์
- 46
-
สัปดาห์ก่อน หลังจากมีข่าวนายกรัฐมนตรีประกาศจะปรับ ครม. ท่านรัฐมนตรีรักชาติก็รีบออกตรวจตลาด ตั้งใจจะพบปะชาวบ้านเพื่อเรียกคะแนนนิยมสมฤทัย
ท่านเดินไปตามทางเท้า แลเห็นขอทานหลายคนนั่งบนพื้น บางคนมีลูกเล็กเด็กแดงประกอบฉาก ท่านรัฐมนตรีเปรยกับผู้ช่วย "นี่มันเมืองอะไร ขอทานเต็มเมือง"
"เมืองกรุงเทพฯครับ เมืองหลวงของประเทศไทย แดนศิวิไลซ์"
"แดนศิวิไลซ์อย่างนี้ใช้ไม่ได้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเห็นแล้ว จะเอาหน้าไปไว้ไหน"
"แปลว่า?"
"แปลว่าเราต้องรีบแก้ไข"
ท่านถามขอทานคนหนึ่ง "นี่ทำไมไม่ไปทำมาหากิน มาขอทานอยู่ได้"
"ผมมานั่งขอทานเพราะเศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจผมเจ๊งกะบ๊ง"
"แล้วคิดไหมว่าทำไมเศรษฐกิจถึงตกต่ำ?"
"เศรษฐกิจตกต่ำอย่างนี้เพราะรัฐมนตรี ข้าราชการโกงกินบ้านเมือง คอร์รัปชั่นจนเป็นอย่างนี้"
"ดีนะที่ไม่ใช่ผม"
ท่านรัฐมนตรีรักชาติเดินต่อไป พูดกับขอทานอีกคนหนึ่ง "นี่ทำไมไม่ไปทำมาหากิน น่าอายจริงๆ"
"ขอทานดีกว่าโกงเขานะคะ"
"อืม! ดีนะที่ไม่ใช่ผม"
ท่านรัฐมนตรีถามขอทานคนที่สาม "คุณล่ะ?"
"ท่านอย่าว่าผมเลย ผมยอมตากหน้ามาขอทาน เพราะมันทนไม่ได้จริงๆ ได้โปรด ขอข้าวกินหน่อยครับ ขอร้องละ..."
ท่านรัฐมนตรีเดินกลับไปที่รถยนต์ บอกผู้ช่วย "ช่วยต่อสายถึงเบื้องบนหน่อย"
ครู่เดียวเสียงปลายสายก็ดังขึ้น "ว่าไงคุณรักชาติ?"
"เอ้อ! ตำแหน่งรัฐมนตรีที่ผมขอ ไม่ทราบว่าท่านคิดยังไง?"
"กำลังพิจารณาอยู่"
"ท่านครับ ผมไม่เรื่องมากหรอกครับ ขอตำแหน่งรัฐมนตรีเกรดเอ เกรดบีก็ได้ครับ ผมอยากทำงานเพื่อประชาชน ตอนนี้ขอทานเต็มบ้านเต็มเมือง ผมเห็นแล้วเศร้าระทม ผมอยากแก้ปัญหาครับ ผมยอมตากหน้ามาขอตำแหน่ง เพราะมันทนไม่ได้จริงๆ อยากช่วยประชาชน ได้โปรด ขอซักตำแหน่งนะครับ ขอร้องละ..."
วินทร์ เลียววาริณ
2-7-250 วันที่ผ่านมา -
หลังจากไอน์สไตน์มีชื่อเสียงจากทฤษฎีของเขา ทุก ๆ ปีเขาต้องไปพูดปาฐกถา เล็กเชอร์ตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ปีละหลายสิบครั้ง ไอน์สไตน์เป็นนักคิด ไม่ใช่คนชอบพูดมาก ดังนั้นบ่อยครั้งเขาก็เบื่อ เขาอยากทำงานเงียบ ๆ มากกว่า แต่ก็ต้องไปตามหน้าที่
วันหนึ่งไอน์สไตน์นั่งรถเพื่อไปพูดที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และบ่นกับคนขับรถว่า "ผมเบื่อพูดเล็กเชอร์แล้ว"
คนขับรถพูดว่า "งั้นทำไมไม่ให้ผมขึ้นพูดแทนล่ะครับ?"
ไอน์สไตน์แปลกใจ เอ่ยว่า "คุณน่ะหรือ?"
"ใช่ครับ หน้าตาผมก็คล้ายท่าน ใส่หนวดสวมวิกผมฟู ๆ ก็เหมือนแล้ว"
"แล้วคุณจะพูดเรื่องฟิสิกส์ได้หรือ?"
คนขับตอบว่า "ทำไมจะไม่ได้? ผมฟังท่านเล็กเชอร์มาหลายสิบหนแล้ว ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ความเร็วแสง การบิดเบี้ยวของ space-time"
"แล้วคนฟังจะเชื่อหรือ?"
"โธ่! ท่านพูดแต่ละเรื่อง ก็ไม่มีใครเข้าใจหรอก แต่พวกเขาก็ปรบมือให้ทุกที"
ไอน์สไตน์บอกว่า "เป็นความคิดที่ดี ผมจะได้พักบ้าง"
ทั้งสองไปหาซื้อหนวดและวิก เปลี่ยนชุดกัน แล้วเดินทางไปสถานที่เล็กเชอร์ คนขับรถขึ้นเวทีไปพูดแทนเจ้านาย ขณะที่ไอน์สไตน์หลบอยู่ในที่นั่งแถวท้ายห้องประชุม
คนขับรถพูดเหมือนไอน์สไตน์ทุกประการ คนฟังปรบมือเป็นระยะโดยไม่รู้ว่าคนพูดเป็นไอน์สไตน์ตัวปลอม เมื่อจบเล็กเชอร์ นักฟิสิกส์คนหนึ่งก็ยกมือถาม เป็นคำถามยาก ไอน์สไตน์ตกใจ ความคงจะแตกคราวนี้แน่
คนขับรถเงียบไปครู่หนึ่ง ก็ตอบว่า “คำถามนี้มันง่ายเสียจนใคร ๆ ก็น่าจะตอบได้ ผมจะให้คนขับรถของผมที่นั่งอยู่ด้านท้ายห้องตอบก็แล้วกัน”
สวัสดีวันพุธ ขอให้มีความสุขครับ
.....................
เล่าใหม่จากขำขันที่ได้ยินมา รวมอยู่ในหนังสือนวนิยาย เรื่องรักของคุณบริสุทธิ์ฯ
(นวนิยายแนวใหม่ที่นำขำขันตลกๆ ระดับ ‘ขำกลิ้ง’ 400 เรื่องมายำเป็นนวนิยาย)ค่าคลายเครียดแค่ 330 บาท เฉลี่ยขำละ 80 สตางค์ หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
โปรโมชั่น https://www.winbookclub.com/store/detail/196/แพคเกจพิเศษ%203%20in%201
Shopee เดี่ยว https://s.shopee.co.th/1VjWGyXzed
0 วันที่ผ่านมา -
ตอนเช้าลงเรื่อง guilty pleasure หมายถึงสิ่งที่คนอื่นเห็นว่าไม่ดี หรือไร้รสนิยม แต่เราเสพด้วยความสุข สำหรับหลายคนรวมนิยายวายเข้าไปด้วย
เสพเงียบๆ ไม่บอกใคร
สำหรับคนที่ไม่รู้จริงๆ ว่าอะไรคือนิยายวาย นิยายวายก็คือนิยายชายรักชาย ประมาณ Fifty Shades of Grey ที่ตัวละครทั้งคู่เป็นชาย
หลายปีนี้ นิยายวายในบ้านเราเบ่งบาน ทั้งหนังสือและหนัง จนประเทศไทยน่าจะเป็น Y-hub ในโลกแล้วกระมัง
แต่ถ้าจะนิยามนิยายวายว่า soft power ก็อาจตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย
ที่น่าสนใจคือผู้เขียนและผู้อ่านมักเป็นสตรี
ได้ยินผู้หญิงหลายคนบอกว่า ชายรักชาย "น่ารักดี"
เอาละ ข่าววันสองวันนี้คือ ทางการจีนบอกว่าไม่รู้สึกน่ารักด้วย
ว่าแล้วก็เชิญตัวนักเขียนนิยายวายชาวจีนราวสามสิบคนไปโรงพัก (เกือบทั้งหมดเป็นนักเขียนสตรี) ทำประวัติ สอบสวน ฯลฯ เหมือนอาชญากร
โทษอาจเป็นการจำคุกถึงสิบปี ข้อหา "ผิดมาตรฐานชุมชน" จีน
นิยายวายในจีนเรียกว่า ตันเหม่ย (耽美) นิยายวายเหล่านี้ไม่ได้เผยแพร่ในจีนโดยตรง ส่วนมากผ่านเว็บในไต้หวัน เช่น Haitang Literature City
ทำไมจีนจึงปราบนิยายวาย?
เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะประชากรชาวจีนลดลงเรื่อยๆ จะเป็นมหาอำนาจของโลกต้องมีประชากรมากพอด้วย นิยายวายอาจเป็นอุปสรรคขวาง เพราะมันอาจสร้างค่านิยมและรสนิยมที่สวนทางกับเป้าหมายรวม
ยังโชคดีนะที่ไม่ได้อยู่ในบางสังคมของโลกซึ่งโทษของวายคือประหารชีวิต
สำหรับเมืองไทย คงเป็นแหล่งผลิตตันเหม่ยไปได้อีกนาน เพราะในเมืองไทยทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
วินทร์ เลียววาริณ
1-7-251 วันที่ผ่านมา -
วันนี้ท่านรัฐมนตรีรักชาติไปออกรายการข่าวการเมือง ถกเถียงกับฝ่ายค้านคอเป็นเอ็น แล้วเกิดอาการหน้ามืดล้มลง ผู้จัดรายการรีบพาท่านไปส่งที่โรงพยาบาล
หมอประจำตัวท่านตรวจอาการแล้ว พบว่าท่านรัฐมนตรีรักชาติไม่เป็นอะไรมาก
"ท่านไม่ได้เป็นอะไร น่าจะทำงานหนักไป"
ท่านรัฐมนตรีรักชาติพยักหน้าหงึกๆ "จริงครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้พัก มัวแต่ทำงานเพื่อประชาชน แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่เชื่อ มาด่าผม ผมเถียงกลับ ความดันจึงพุ่ง"
"อย่าไปใส่ใจเสียงนกเสียงกาเลย ว่าแต่ว่าท่านมีอาการอื่นไหมครับ?"
"ผมเจ็บตรงชายโครงครับ"
"ข้างไหน?"
"ทั้งสองข้างครับ"
"ออกกำลังกายผิดท่าหรือเปล่าครับ?"
"เปล่าครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย มัวแต่ทำงานเพื่อประชาชน"
"บิดตัวแรงไปหรือเปล่าครับ?"
"เปล่าครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง มัวแต่ทำงานเพื่อประชาชน"
"แล้วตอนอาบน้ำหกล้มกระแทกกับอะไรบ้างหรือเปล่า?"
"ผมจำไม่ได้ ผมจำได้แต่ว่ามัวแต่ทำงานเพื่อประชาชน"
"งั้นผมส่งท่านไปเอ็กซเรย์นะครับ"
"เอ็กซเรย์นานมั้ย? ผมต้องรีบไปทำงานเพื่อประชาชน"
"เพื่อประชาชน เราจะรีบทำให้เร็วที่สุดเลยครับ"
.....................
ท่านรัฐมนตรีรักชาติปรากฏตัวที่ห้องเอ็กซเรย์ เจ้าหน้าที่มองสูทที่ท่านสวม บอกว่า "ท่านไปถอดเสื้อออกแขวนในห้องนั้น เดี๋ยวผมเอ็กซเรย์คนไข้คนนี้เสร็จ ท่านเป็นคิวต่อไป"
"ได้"
ท่านรัฐมนตรีรักชาติถอดเสื้อออกแขวนแล้ว ก้าวออกจากห้อง สวนทางกับคนไข้ที่เพิ่งเอ็กซเรย์เสร็จ
คนไข้คนนั้นมองชายโครงของท่านแล้วถาม "เจ็บซี่โครงใช่ไหม?"
"ใช่ครับ"
"หมอให้มาเอ็กซเรย์หรือ?"
"ใช่ครับ"
คนไข้คนนั้นหัวเราะ บอกว่า "โอ๊ย! อย่างคุณรักชาติไม่ต้องเอ็กซเรย์แล้ว"
"คุณรู้จักผม?"
"ใช่"
"ทำไมคุณบอกว่าผมไม่ต้องเอ็กซเรย์แล้ว?"
"เพราะอาการอย่างนี้ไม่ต้องเอ็กซเรย์ให้เสียเวลา"
"คุณไม่ใช่หมอ คุณรู้ได้ยังไง? ผมเป็นอะไร?"
"สีข้างของคุณมันถลอกมากเลย ผมดูรายการที่คุณรักชาติออกบ่อยๆ ทั้งรายการโทรทัศน์ การแถลงในรัฐสภา คุณรักชาติแถบ่อยจนสีข้างถลอก หยุดแถเมื่อไหร่ก็หายครับ"
วินทร์ เลียววาริณ
1-7-251 วันที่ผ่านมา -
เคยไหมที่คุณไม่กล้าบอกเพื่อนว่า ชอบดูหนังน้ำเน่าเรื่องหนึ่งมาก ดูซ้ำหลายรอบ และมักดูตอนอยู่คนเดียว
เคยไหมที่คุณแอบออกจากห้องนอนตอนดึก เปิดตู้เย็นคว้าไอศกรีมกระปุกใหญ่มากินเงียบ ๆ และไม่บอกใคร
นี่คือพฤติกรรมที่เรียกว่า guilty pleasure
guilty pleasure เป็นสำนวน หมายถึงสิ่งที่คนอื่นเห็นว่าไม่ดี หรือไร้รสนิยม แต่เราเสพด้วยความสุข
และมักแอบทำ!
ยกตัวอย่างเช่น หนังน้ำเน่าที่ใคร ๆ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าแย่มาก แต่เราดูแล้วชอบ มีความสุข
ดนตรีขยะที่ไร้รสนิยม แต่เราฟังแล้วสบายใจ
หนังสือเรทเอ็กซ์บางเล่มถูกสังคมว่าไม่ดี เลวร้ายอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เราชอบ
ดูรายการเรียลิตี ทีวี ที่ไร้สาระมาก ๆ ที่ไร้สาระโดยสิ้นเชิง แต่ดูแล้วคลายเครียด มีความสุข
เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่ารสนิยมเราไม่เหมือนคนอื่น จึงแอบเสพงานเหล่านี้คนเดียว เวลาอยู่กับคนอื่น เราจะไม่มีวันบอกว่าเราชอบงานชิ้นนั้น ๆ
กลัวคนอื่นจะตัดสินเรา
งานที่เป็น guilty pleasure ส่วนมากเป็นเรื่องนานาจิตตัง เป็นแค่รสนิยมต่างกัน ไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูก
ผมเองก็ชอบดูหนังบู๊แย่ ๆ ของฮอลลีวูด ยิงกันสนั่นหวั่นไหว ไม่มีสาระโดยสิ้นเชิง แต่การดูทำให้ผ่อนคลาย สมองไม่ต้องคิด เพราะมันไม่มีพล็อตหรือสาระให้ต้องคิด แค่ดูเขายิงกัน จบแล้วก็ผ่อนคลายในระดับหนึ่ง
พูดง่าย ๆ คือ guilty pleasure ก็คือการปิดสวิตช์สมองส่วนตรรกะชั่วคราว ปล่อยให้หัวใจนำทางชีวิต เพราะบางครั้งบางห้วงยาม เราไม่ต้องการเหตุผล แค่อยากทำสิ่งที่อยากทำ
ช่วงบ่ายถึงเวลาเข้างานแล้ว แต่เราหลบไปดื่มกาแฟหรือไอศกรีมสักถ้วย
ถึงคิวออกกำลังกาย ก็หลบไปกินเบอร์เกอร์สักชิ้น เอ้า! ไหน ๆ ก็กินแล้ว ตามด้วย เฟรนช์ ฟราย สักถุงก็แล้วกัน ตบท้ายด้วยน้ำดำที่เขาว่ามีน้ำตาลเยอะ กินก่อน ไปแก้ปัญหาน้ำตาลเกินทีหลัง
หรือออกกำลังกายเสร็จ ก็ฟาดไอศกรีมไปทั้งกระปุกใหญ่
ชีวิตเราทุกคนย่อมมี guilty pleasure สักอย่าง สองอย่าง หรือหลายอย่าง
เรามีเสรีภาพในการทำเรื่องส่วนตัวต่าง ๆ หากชอบก็ทำ ไม่ชอบก็ไม่ต้องทำ ไม่จำเป็นต้องเดินเส้นทางชีวิตตามใจคนอื่น ไม่ต้องให้คำตัดสินของคนอื่นอยู่เหนือชีวิตเราทุกอย่าง
ผมมีคนรู้จักหลายคนที่ชอบอ่านนิยายน้ำเน่า ซ้ำ ๆ กัน ไม่เคยมีความคิดจะหานิยายที่มีความลุ่มลึกมาอ่าน
อ่านแล้วมีความสุข ก็ตามสบาย ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องไปตัดสินเขาหรือเธอ
แต่ระวังอย่าเพลินไปกับ guilty pleasure ที่เป็นอาหารขยะบ่อยนัก เพราะเส้นรอบเอวหนาขึ้นแล้ว แก้ไขยากจริง ๆ
ถึงตอนนี้ guilty pleasure หายไป เหลือแต่ guilty อย่างเดียว
วินทร์ เลียววาริณ
1-7-25.................
จาก เหตุผลที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า
56 บทความกำลังใจ ราคาเพียง 200 บาท = บทความละ 3.5 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/187/เหตุผลที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าShopee https://s.shopee.co.th/60Bx1VKarm
Shopee โปรโมชั่นคู่กับยุทธจักรวาลกิมย้ง https://s.shopee.co.th/6pl417244u
2 วันที่ผ่านมา