-
วินทร์ เลียววาริณ2 ปีที่ผ่านมา
ท่านพ่อค่อยๆ เรียนวิชาทำรองเท้าจนชำนาญ ทั้งตัดรองเท้าและซ่อมรองเท้าและเครื่องหนัง เก็บหอมรอมริบ แล้วเปิดร้านรองเท้าชื่อ ซิ้วเหงี่ยน (秀源) ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 113 ถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 หรือที่เรียกกันว่า สาย 1
เป็นร้านรองเท้าที่อยู่คู่หาดใหญ่นานหลายสิบปี ชาวหาดใหญ่รุ่นเก่ารู้จักดี
บ้านเลขที่ 113 เป็นตึกแถวไม้เก่าสองชั้น ด้วยงบจำกัดที่สุด จึงสร้างแบบ “เอาแบบถูกที่สุด” ผลก็คือพื้นไม้ชั้นสองไม่เท่ากันเลยทั้งชั้น เพราะไม่ได้ผ่านการไส คนที่ไม่เคยมาอาจสะดุดได้
เมื่อฝนตก น้ำฝนก็มักรั่วผ่านหลังคาสังกะสีลงมา เราต้องวางกระป๋องเปล่ารองน้ำที่รั่วลงมา บางครั้งก็ปรากฏกระป๋องกระจายไปทั่วบ้าน
เนื่องจากบ้านเก่ามีฝ้าสูงมาก นานๆ ที ก็มีค้างคาวบินเข้ามาขอร่วมพักอาศัยด้วย
แต่ลูกๆ ทุกคนก็อยู่ในบ้านพื้นไม่เรียบมาจนโต
ท่านพ่อพัฒนากระบวนท่าการทำรองเท้าจนชำนาญ ทำรองเท้าได้ทุกชนิด ซ่อมเครื่องหนังได้ทุกอย่าง สำนักงานของท่านพ่อคือท่อนซุงหนึ่งตอ วางเครื่องมือต่างๆ ระเกะระกะ ดินสอ มีดตัดรองเท้า หินลับมีด ด้าย ไข กระป๋องบุหรี่บรรจุกาวยาง กล่องไม้ใส่ตะปูขนาดต่างๆ ที่ขอบด้านหนึ่งของท่อนซุงติดซองหนังสำหรับใส่มีดตัดหนัง 3-4 เล่ม
มีชั้นวางม้วนหนังสัตว์ชนิดและสีต่างๆ และหุ่นเท้าไม้ บนพื้นสำนักงานวางฐานเหล็กสามแฉกไว้ตอกตะปูพื้นและส้นรองเท้า หน้าตาของฐานเหล็กนี้เป็นสามปลาย ปลายสองด้านเป็นเหล็กทรงแบนรูปเท้า ปลายที่สามเป็นเหล็กแบนสี่เหลี่ยมจตุรัส ไม่ว่าพลิกวางอย่างไรปลายด้านหนึ่งจะได้ฉากกับพื้นเสมอ
มีดทำรองเท้าเป็นใบมีดปลายเป็นแถบคม ทำด้วยเหล็กบาง ยาวราวหนึ่งฝ่ามือ กว้างประมาณสองนิ้ว ด้ามจับตั้งฉากกับใบมีด วิธีใช้มีดคือไสออกไป คล้ายๆกบไสไม้ ใช้ตัดขอบพื้นรองเท้า และอื่นๆ
วันหนึ่งผมใช้มีดชนิดนี้เหลาดินสอ แล้วไส้ดินสอแทงทะลุซอกนิ้ว เข้าไปฝังในเล็บ เมื่อไปหาหมอ หมอบอกว่ายังไม่ต้องทำอะไร รอให้หนองขึ้นก่อน ผมก็ทรมานอยู่นานกว่าภายในเล็บเป็นหนอง แล้วไปหาหมอ หมอก็ใช้กรรไกรคมกริบตัดเล็บฉับๆ เร็วจนไม่ทันร้อง ผมนึกในใจว่า ในเมื่อต้องเอาเล็บออกทั้งหมดแบบไม่ปรานีปราศรัยแบบนี้ ทำไมไม่เอาออกตั้งแต่เดือนที่แล้ว เพราะมีหนองในเล็บ ไม่ได้ช่วยให้ตัดเล็บออกง่ายขึ้นแต่อย่างไร แต่ผมก็ไม่กล้าถามหมอ ตลองเดือนต่อมาผมไปหาหมอทำแผลทุกวัน กว่าจะหายสนิทก็หลายเดือน หายซนไปนาน
หลังจากทำงานมาพักใหญ่ พ่อก็มีผู้ช่วยสองสามคน แบ่งงานกันทำ บ้างทำรองเท้าใหม่ บ้างก็ซ่อมอย่างเดียว
ผมมักมองดูพ่อและคนงานทำรองเท้า การดูจอมยุทธ์ที่ชำนาญงานทำรองเท้าเป้นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่ง ทุกจุดต้องผ่านการฝึกฝน ผมดูท่านพ่อเริ่มทำรองเท้าตั้งแต่วัดขนาดเท้าของลูกค้า โดยให้ลูกค้าวางเท้าบนกระดาษขาว ขณะที่พ่อใช้ดินสอลากไปตามขอบเท้า ใช้สายวัดแบบอ่อนวัดความหนาส่วนต่างๆ ของเท้า หน่วยเป็นนิ้ว จดรายละเอียดขนาดเท้าลงบนกระดาษ หลังจากนั้นก็ตัดหนังตามแบบ ‘blue print’ ที่ออกแบบไว้ ดัดแปลงขนาดไปตามเท้าของลูกค้าแต่ละคน ตัดหนัง เย็บหนัง เข้าหุ่น ปะพื้น เย็บพื้น จะกระทั่งสำเร็จ
ผมเก็บรายละเอียดเหล่านี้ในเรื่องสั้นชื่อ รักกันหนึ่งร้อยปี บรรยายทุกอย่างจากภาพจริง
ในวัยเด็ก ของเล่นของผมก็คือเครื่องมือและอุปกรณ์ในที่ทำงานของท่านพ่อนี่เอง เช่น กาว
การเล่นกาวย่อมมิใช่การสูดดมกาว แต่คือการเล่นกับกระป๋องกาวยางที่ท่านพ่อทำเอง
กาวยางชนิดนี้ทำโดยใช้เศษยางพาราใส่กระป๋องนมขนาดใหญ่ เทน้ำมันก๊าดเข้าไปและทิ้งไว้สักหลายวันจนยางละลายเหลวเป็นเนื้อเดียวกัน ก็นำมาใช้ได้ ทางใต้มียางพารามากมาย เศษยางพารานี้ได้มาจากร้านขายยางแผ่นซึ่งมักทิ้งขี้ยางที่เหลือ เราจึงไปขอมาทำกาว เราไม่เคยขาดแคลนกาวชนิดนี้
กาวยางดูเหมือนเป็นกาวที่ไม่ติดแน่น แต่มีเทคนิคหนึ่งที่ทำให้มันเพิ่มพลังประหนึ่งกาวตราช้าง นั่นคือทากาวบางๆ บนวัสดุทั้งสองชิ้นที่จะติด รอให้กาวแห้ง แล้วนำมาประกบกัน วิธีนี้จะติดแน่นสนิทนาน
ผมชอบเล่นกาวยาง โดยการคว่ำกระป๋องปล่อยให้กาวเหนียวหนึบไหลอืดลงมาอย่างเชื่องช้า เมื่อย้อยลงมาได้สักสองสามนิ้ว ก็ตวัดกระป๋องกลับ ผืนกาวบางๆ ที่ถูกพลิกกลับจะสมานกับเนื้อกาวในกระป๋อง กักฟองอากาศภายในกาวยางนั้น อากาศภายในขยายตัวทำให้ผืนกาวพองตัวออกเหมือนหญิงท้องแก่ และระเบิดออกมาเบาๆ เป็นภาพที่น่าตื่นเต้นสำหรับเด็กที่ไม่มีของเล่นอื่น
ผมดูท่านพ่อทำรองเท้าด้วยความทึ่ง เพราะท่านพ่อทำรองเท้าเหมือนที่ผมบรรยายในเรื่องสั้น รักกันหนึ่งร้อยปี “เย็บรองเท้าทุกส่วนอย่างบรรจงราวกับประติมากรที่กำลังสลักเสลาประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่”
หลังจากท่านพ่อจากโลกไป ร้านรองเท้าเลขที่ 113 ก็หายไปตามสัจธรรมความเปลี่ยนแปลงของโลกและจักรวาล
และเกิดสำนักพิมพ์ 113 ขึ้นมา ด้วยหลักปรัชญาการทำงานที่เหมือนกัน
(ยังมีต่อ)
15- แชร์
- 674
Tiggerซิ้วเหงี่ยน แปลว่าอะไรครับ
-
เมื่อพูดถึงซูเปอร์แมนในหนัง ก็ต้องพูดถึงซูเปอร์แมนตัวจริง
คริสโตเฟอร์ รีฟ ผู้ที่ชาวโลกรู้จักดีที่สุดในบท 'ซูเปอร์แมน' บนจอเงิน ประสบอุบัติเหตุตกจากหลังม้า เป็นอัมพาตตั้งแต่ลำคอลงมา
ในชั่วข้ามคืน เขากลายเป็นคนพิการที่ต้องพึ่งพารถเข็นไปตลอดชีวิต
ก่อนมาเป็นดาราภาพยนตร์นั้น เขาเคยเป็นนักแสดงละครบรอดเวย์คู่กับนักแสดงรุ่นใหญ่ แคธรีน เฮพเบิร์น
เฮพเบิร์นคงมองเห็นแววนักแสดงของเขา และพูดล้อเล่นว่ารีฟ "จะดูแลฉันตอนฉันแก่"
รีฟกล่าวว่า "ผมไม่คิดว่าผมจะอยู่นานขนาดนั้นหรอกครับ มิสเฮพเบิร์น"
เขาคิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ภรรยาของเขาบอกว่า "ฉันยังรักคุณไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไรก็ตาม คุณยังเป็นตัวคุณ"
คำกล่าวนี้ทำให้เขามีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป และยังคงทำงานในด้านต่าง ๆ รวมทั้งการแสดงและการกำกับภาพยนตร์ อีกทั้งก่อตั้งมูลนิธิเพื่อคนเป็นอัมพาต หาเงินมาเป็นทุนวิจัยงานด้าน สเตม เซลล์ เพื่อช่วยคนพิการผ่านทางวิทยาศาสตร์
ภาพที่ชาวโลกเห็นคือชายที่นั่งในรถเข็น พูดเสียงแหบอู้อี้ ร่างกายร่วงโรยทางกายลงไปทุกวัน แต่จิตใจแข็งประหนึ่งหินผา ทำงานไม่หยุดหย่อน
คริสโตเฟอร์ รีฟ กล่าวว่า "ความฝันของเรามากมายดูเป็นไปไม่ได้ในทีแรก แล้วมันก็ดูเหมือนไม่น่าจะเกิดขึ้น และแล้ว... เมื่อเรามุ่งมั่นแน่วแน่ มิช้ามันก็กลายเป็นสิ่งที่หนีไม่พ้นที่จะกลายเป็นจริง"
วันที่เขาลาโลกไปนั้น ชาวโลกต่างยอมรับว่า เขาเป็นซูเปอร์แมนตัวจริง
มนุษย์เราพานพบอุปสรรคทุกวัน คนที่พ่ายแพ้คือคนที่ใจยอมแพ้ก่อนที่จะสู้
ความเจ็บปวด ความขมขื่น ความยากลำบากของอุปสรรคเป็นด่านที่ขวางทางเราทุกคน ช้าหรือเร็วเราก็ต้องพานพบมัน
คนชนะไม่ได้ชนะเพราะเก่งกว่า แต่เพราะไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
เราทุกคนเป็นซูเปอร์แมนได้ ถ้าตั้งใจที่จะ 'บิน' ให้ได้
วินทร์ เลียววาริณ
22-7-25จาก อาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก
48 บทความกำลังใจ ราคาเพียง 165 บาท = บทความละ 3 บาท+ (ไม่คิดค่าส่ง)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/85/อาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก0 วันที่ผ่านมา -
คำตอบสำเร็จรูปของท่านรัฐมนตรีรักชาติ
ก. "เย็นไว้ๆ เดี๋ยวมันก็คลี่คลายเอง"
ข. "เราจะตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้"
ค. "ใจเย็นๆ เราขอศึกษาข้อมูลก่อน"
ง. "เรากำลังทำงานอยู่"
จ. "เรากำลังพิจารณาอย่างรอบคอบ"
ฉ. "ผมยังไม่ได้รับรายงาน"
ญ. "ขอตัวก่อนนะ ผมต้องไปทำงานเพื่อประชาชน"
...................................
นักข่าวสัมภาษณ์ท่านรัฐมนตรีรักชาติ
"ท่านครับ ท่านจะจัดการยังไงกับปัญหาเจ้าอาวาส มีข่าวฉาวไม่หยุดหย่อน"
(ตอบด้วยข้อ ก. "เย็นไว้ๆ เดี๋ยวมันก็คลี่คลายเอง")
"ตอนนี้เขมรกล่าวหาว่าไทยวางกับระเบิดเอง ท่านคิดว่าไงครับ?"
(ตอบด้วยข้อ ข. "เราจะตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้")
"ท่านจะจัดการอังเคิลยังไง? มากวนทุกวันเลย"
(ตอบด้วยข้อ ค. "ใจเย็นๆ เราขอศึกษาข้อมูลก่อน")
"ท่านจะคิดว่านายกฯยุบสภาดีหรือลาออกดี?"
(ตอบด้วยข้อ ง. "เรากำลังทำงานอยู่")
"ท่านจะจัดการ tariff ทรัมป์อย่างไร?"
(ตอบด้วยข้อ จ. "เรากำลังพิจารณาอย่างรอบคอบ")
"ท่านส่งใครไปเจรจาแล้วยัง?"
(ตอบด้วยข้อ ฉ. "ผมยังไม่ได้รับรายงาน")
"สรุปคือท่านไม่มีคำตอบในทุกเรื่อง?"
(ตอบด้วยข้อ ญ. "ขอตัวก่อนนะ ผมต้องไปทำงานเพื่อประชาชน")
วินทร์ เลียววาริณ
22-7-251 วันที่ผ่านมา -
ฉากการพบสิ่งทรงภูมิปัญญาที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในโลกภาพยนตร์
Contact จากนวนิยายของ คาร์ล เซเกน กำกับโดย Robert Zemeckis"You're an interesting species, an interesting mix. You are capable of such beautiful dreams, and such horrible nightmares. You feel so lost, so cut off, so alone. Only you're not. See, in all our searching, the only thing that we've found that makes the emptiness bearable... is each other."
1 วันที่ผ่านมา -
ผมดู Superman เวอร์ชั่นหนังครั้งแรกเป็นฉบับของ ริชาร์ด ดอนเนอร์ แม้ว่าก่อนหน้านั้นมีคนสร้างเรื่องนี้เป็นหนังมาตั้งแต่ปี 1941
ฉบับของ ริชาร์ด ดอนเนอร์ ซูเปอร์แมนแสดงโดย คริสโตเฟอร์ รีฟ โด่งดังมากในบ้านเรา ทุกคนหลงรัก คริสโตเฟอร์ รีฟ เทคนิคภาพหวือหวามาก แต่ยังไม่ใช่ดิจิตัล เป็น optical
ทันใดนั้นมันก็สร้างตลาดซูเปอร์ฮีโรขึ้นมา
หลังจากนั้นก็มี Superman อีกหลายเวอร์ชั่น (หลายโครงการไม่ได้เกิด เช่น ฉบับที่กะให้ นิโคลาส เคจ เป็นซูเปอร์แมน)
ฉบับต่อมาที่ผมดูคือเวอร์ชั่น Bryan Singer (ผู้กำกับ The Usual Suspects) ฉบับนี้ค่อนข้างกร่อย ตามมาด้วยฉบับ Zack Snyder (ผู้กำกับ 300) ซูเปอร์แมนเล่นโดย เฮนรี คาวิลล์
ฉบับล่าสุดสร้างโดย เจมส์ กันน์ ฉายในโรงอยู่ตอนนี้
Superman เวอร์ชั่น 2025 เป็นหนังสนุก ให้ความบันเทิงสูง แต่ไม่มีอะไรใหม่ แทบทุกอย่างที่ทำ มาร์เวลทำมาแล้ว (ยกเว้นหมา?)
หนังมีความเป็นแฟนตาซีปนไซไฟ ปนการ์ตูน เด็กๆ คงชอบ มันก็ยังวนเวียนในกรอบเดิมของหนังซูเปอร์ฮีโร
ดังนั้นอย่าให้คะแนนดีกว่า เพราะคงไม่สูง หนังดูได้ถ้าไม่คิดมาก เป็นหนังคลายเครียดดี
........................
หมายเหตุนอกเรื่อง จุดหนึ่งในหนัง ซูเปอร์แมนบอกว่าเขาจำเป็นต้องได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์เหลือง (yellow star) หมายถึงพระอาทิตย์ของเรา
ความจริงแล้วนักดาราศาสตร์แบ่งประเภทดาวออกตามความร้อน ซึ่งประกอบด้วยดาวแบบ M, K, G, F, A, B, O โดยที่ดาวแบบ M ร้อนน้อยที่สุด ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงดาวแบบ O ซึ่งร้อนที่สุด
พระอาทิตย์ของเราเป็นแบบ G เรามองเห็นเป็นสีเหลือง แต่จริงๆ มันเป็นสีขาว เหตุที่เราเห็นเป็นสีเหลืองเพราะชั้นบรรยากาศของเรา ซูเปอร์แมนบินข้ามจักรวาล น่าจะมองเห็นสีจริง เอ้า! ไม่เห็นก็ไม่เห็น พระบ้านเราหลายรูปก็มองไม่เห็นสีจริง เห็นแต่สีกา
วินทร์ เลียววาริณ
21-7-25วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
1 วันที่ผ่านมา -
ในโพสต์ก่อน ผู้อ่านอาจสังเกตว่า ผมแจ้งว่าหนังสือเรื่อง ความฝันโง่ๆ หมดแล้วและจะไม่ตีพิมพ์อีก
นี่ก็เป็นไปตามที่เคยบอกว่า จะจำหน่ายหนังสือส่วนใหญ่จนหมด และไม่พิมพ์ใหม่
นอกจาก ความฝันโง่ๆ เล่มอื่นๆ เช่น เขียนไปให้สุดฝัน หัวกลวงในหลุมดำ ในหลุมรัก สมุดปกดำฯ ก็หมดแล้ว
เป็นสัญญาณว่าโรงละคร 113 เริ่มปิดม่าน
ตอนนี้มีหลายเล่มที่ใกล้หมด ดังนั้นถ้าจะเก็บก็เก็บตอนนี้ขณะที่ยังลดราคาอยู่ หลังจากนี้ถ้าอยากได้ ก็ต้องซื้อมือสองที่อาจแพงขึ้น
อ้อ! ชุดสุดคุ้ม ประวัติศาสตร์ที่เราลืม หกเล่มพันเดียว ก็ลดน้อยลงแล้ว ถ้าหมดแล้วก็ไม่พิมพ์อีก
ควักเงินตัวเองมาทำหนังสือก็ยี่สิบกว่าปีแล้ว เงินหมดแล้ว และเหนื่อยมาก ได้เวลาเกษียณจริงๆ แล้ว
วินทร์ เลียววาริณ
21-7-25ดูรายการหนังสือได้ที่เว็บ https://www.winbookclub.com/store และ Shopee
1 วันที่ผ่านมา