-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
ในโพสต์ก่อน ผู้อ่านอาจสังเกตว่า ผมแจ้งว่าหนังสือเรื่อง ความฝันโง่ๆ หมดแล้วและจะไม่ตีพิมพ์อีก
นี่ก็เป็นไปตามที่เคยบอกว่า จะจำหน่ายหนังสือส่วนใหญ่จนหมด และไม่พิมพ์ใหม่
นอกจาก ความฝันโง่ๆ เล่มอื่นๆ เช่น เขียนไปให้สุดฝัน หัวกลวงในหลุมดำ ในหลุมรัก สมุดปกดำฯ ก็หมดแล้ว
เป็นสัญญาณว่าโรงละคร 113 เริ่มปิดม่าน
ตอนนี้มีหลายเล่มที่ใกล้หมด ดังนั้นถ้าจะเก็บก็เก็บตอนนี้ขณะที่ยังลดราคาอยู่ หลังจากนี้ถ้าอยากได้ ก็ต้องซื้อมือสองที่อาจแพงขึ้น
อ้อ! ชุดสุดคุ้ม ประวัติศาสตร์ที่เราลืม หกเล่มพันเดียว ก็ลดน้อยลงแล้ว ถ้าหมดแล้วก็ไม่พิมพ์อีก
ควักเงินตัวเองมาทำหนังสือก็ยี่สิบกว่าปีแล้ว เงินหมดแล้ว และเหนื่อยมาก ได้เวลาเกษียณจริงๆ แล้ว
วินทร์ เลียววาริณ
21-7-25ดูรายการหนังสือได้ที่เว็บ https://www.winbookclub.com/store และ Shopee
1- แชร์
- 21
-
คำตอบสำเร็จรูปของท่านรัฐมนตรีรักชาติ
ก. "เย็นไว้ๆ เดี๋ยวมันก็คลี่คลายเอง"
ข. "เราจะตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้"
ค. "ใจเย็นๆ เราขอศึกษาข้อมูลก่อน"
ง. "เรากำลังทำงานอยู่"
จ. "เรากำลังพิจารณาอย่างรอบคอบ"
ฉ. "ผมยังไม่ได้รับรายงาน"
ญ. "ขอตัวก่อนนะ ผมต้องไปทำงานเพื่อประชาชน"
...................................
นักข่าวสัมภาษณ์ท่านรัฐมนตรีรักชาติ
"ท่านครับ ท่านจะจัดการยังไงกับปัญหาเจ้าอาวาส มีข่าวฉาวไม่หยุดหย่อน"
(ตอบด้วยข้อ ก. "เย็นไว้ๆ เดี๋ยวมันก็คลี่คลายเอง")
"ตอนนี้เขมรกล่าวหาว่าไทยวางกับระเบิดเอง ท่านคิดว่าไงครับ?"
(ตอบด้วยข้อ ข. "เราจะตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้")
"ท่านจะจัดการอังเคิลยังไง? มากวนทุกวันเลย"
(ตอบด้วยข้อ ค. "ใจเย็นๆ เราขอศึกษาข้อมูลก่อน")
"ท่านจะคิดว่านายกฯยุบสภาดีหรือลาออกดี?"
(ตอบด้วยข้อ ง. "เรากำลังทำงานอยู่")
"ท่านจะจัดการ tariff ทรัมป์อย่างไร?"
(ตอบด้วยข้อ จ. "เรากำลังพิจารณาอย่างรอบคอบ")
"ท่านส่งใครไปเจรจาแล้วยัง?"
(ตอบด้วยข้อ ฉ. "ผมยังไม่ได้รับรายงาน")
"สรุปคือท่านไม่มีคำตอบในทุกเรื่อง?"
(ตอบด้วยข้อ ญ. "ขอตัวก่อนนะ ผมต้องไปทำงานเพื่อประชาชน")
วินทร์ เลียววาริณ
22-7-251 วันที่ผ่านมา -
เมย์ฟลาย (Mayfly) หรือแมลงชีปะขาว เป็นสัตว์ที่มีอายุสั้นที่สุดชนิดหนึ่งในโลก จัดอยู่ในกลุ่มแมลง Ephemeroptera (มาจากคำกรีก ephemeros แปลว่าอายุสั้น, pteron แปลว่าปีก) สายพันธฺุ์นี้มีบรรพบุรุษร่วมกับตระกูลแมลงปอ ในโลกมีราว 2,500 สปีชีส์
เราพบเมย์ฟลายตามแหล่งน้ำทั่วไป เช่น หนอง บึง ลำธาร ทะเลสาบ แม่น้ำ เป็นแมลงที่มีคุณสมบัติไวต่อการสัมผัสรู้สารพิษ จึงใช้เป็นดัชนีวัดคุณภาพของแหล่งน้ำได้
เมย์ฟลายชอบอาศัยอยู่ตามก้อนหินกลางน้ำที่ไหลแรง มันมีแผ่นเหงือกที่ประกอบด้วยหนามแหลมขนาดเล็กจำนวนมาก ช่วยให้เกาะก้อนหินตามลำธารได้ดี ไม่ถูกกระแสน้ำพัดหลุดลอยไป
ที่ว่าอายุสั้น สั้นแค่ไหน?
พวกมันเกิด อยู่ สืบพันธุ์ และตายในวันเดียว!
ก่อนลืมตาดูโลก พวกมันเป็นตัวอ่อนในน้ำ เมื่อถึง ‘วันเกิด’ พวกมันจะลอกคราบบินโผล่จากผิวน้ำสู่โลกเป็นวันแรกและวันสุดท้าย ในวันเดียวของชีวิตบนโลกใบนี้ พวกมันไม่กินอะไร ทุกตัวเกิดมาทำงานแล้วตายไป ทำทุกอย่างจบในวันสั้น ๆ หนึ่งวัน
หนึ่งวันน่ะหรือสั้น?
การใช้เวลาอย่างสุรุ่ยสุร่ายทำให้คนหลายคนผ่านชีวิตถึงวันสุดท้ายแล้วพบว่าตนเองยังไม่ได้ทำอะไรที่มีคุณค่าเลยสักอย่าง แคนวาสแห่งชีวิตยังว่างเปล่า บางคนนอกจากไม่เคยทำเรื่องดีแล้ว ยังทำแต่เรื่องชั่ว ๆ
คนที่ผ่านการทำงานในวงการที่ให้เวลาทำงานน้อยมานานพอ มักพบสัจธรรมว่าเวลาน้อยไม่เป็นอุปสรรคในการสร้างสรรค์งานดี ๆ งานสร้างสรรค์ดี ๆ จำนวนมากในโลกเกิดขึ้นในเวลาสั้นแสนสั้น
ดังนั้นเมื่อได้รับงานสักชิ้น ก่อนเอ่ยประโยค “เวลาไม่พอ” ลองนึกถึงเจ้าเมย์ฟลาย เรามีสมอง อย่าให้อายแมลง หากผ่านไปหนึ่งวันโดยไม่ได้ทำอะไร
ลองนึกดูว่า หากเรามีชีวิตเพียงวันเดียวอย่างเจ้าเมย์ฟลาย เราจะทำอะไรบ้าง ทำอะไรก่อน ทำอะไรทีหลัง
หากเราให้ผู้แทนราษฎรอภิปรายในสภาได้คนละนาทีเดียว เราคงได้สาระมากกว่านี้มากนัก เพราะเวลาจำกัดขนาดนั้นจะบังคับให้พูดเฉพาะสาระของเรื่องจริง ๆ
การรู้ว่ามีเวลาน้อยยังทำให้เราไม่เสียเวลาไปกับการวิตกกังวล ทะเลาะกัน อิจฉากัน นินทากัน เพราะรู้ว่าเหลือเวลาน้อย ทำเรื่องใหญ่กว่านั้นดีกว่า
บางทีมีเวลาน้อยก็ดีเหมือนกันนะ!
วินทร์ เลียววาริณ
22-7-25ย่อความจาก ท้องฟ้าไม่ปิดทุกวัน
36 บทความกำลังใจ ราคาเพียง 175 บาท = บทความละ 4.86 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
https://www.winbookclub.com/store/detail/110/ท้องฟ้าไม่ปิดทุกวัน1 วันที่ผ่านมา -
ฉากการพบสิ่งทรงภูมิปัญญาที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในโลกภาพยนตร์
Contact จากนวนิยายของ คาร์ล เซเกน กำกับโดย Robert Zemeckis"You're an interesting species, an interesting mix. You are capable of such beautiful dreams, and such horrible nightmares. You feel so lost, so cut off, so alone. Only you're not. See, in all our searching, the only thing that we've found that makes the emptiness bearable... is each other."
1 วันที่ผ่านมา -
ผมดู Superman เวอร์ชั่นหนังครั้งแรกเป็นฉบับของ ริชาร์ด ดอนเนอร์ แม้ว่าก่อนหน้านั้นมีคนสร้างเรื่องนี้เป็นหนังมาตั้งแต่ปี 1941
ฉบับของ ริชาร์ด ดอนเนอร์ ซูเปอร์แมนแสดงโดย คริสโตเฟอร์ รีฟ โด่งดังมากในบ้านเรา ทุกคนหลงรัก คริสโตเฟอร์ รีฟ เทคนิคภาพหวือหวามาก แต่ยังไม่ใช่ดิจิตัล เป็น optical
ทันใดนั้นมันก็สร้างตลาดซูเปอร์ฮีโรขึ้นมา
หลังจากนั้นก็มี Superman อีกหลายเวอร์ชั่น (หลายโครงการไม่ได้เกิด เช่น ฉบับที่กะให้ นิโคลาส เคจ เป็นซูเปอร์แมน)
ฉบับต่อมาที่ผมดูคือเวอร์ชั่น Bryan Singer (ผู้กำกับ The Usual Suspects) ฉบับนี้ค่อนข้างกร่อย ตามมาด้วยฉบับ Zack Snyder (ผู้กำกับ 300) ซูเปอร์แมนเล่นโดย เฮนรี คาวิลล์
ฉบับล่าสุดสร้างโดย เจมส์ กันน์ ฉายในโรงอยู่ตอนนี้
Superman เวอร์ชั่น 2025 เป็นหนังสนุก ให้ความบันเทิงสูง แต่ไม่มีอะไรใหม่ แทบทุกอย่างที่ทำ มาร์เวลทำมาแล้ว (ยกเว้นหมา?)
หนังมีความเป็นแฟนตาซีปนไซไฟ ปนการ์ตูน เด็กๆ คงชอบ มันก็ยังวนเวียนในกรอบเดิมของหนังซูเปอร์ฮีโร
ดังนั้นอย่าให้คะแนนดีกว่า เพราะคงไม่สูง หนังดูได้ถ้าไม่คิดมาก เป็นหนังคลายเครียดดี
........................
หมายเหตุนอกเรื่อง จุดหนึ่งในหนัง ซูเปอร์แมนบอกว่าเขาจำเป็นต้องได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์เหลือง (yellow star) หมายถึงพระอาทิตย์ของเรา
ความจริงแล้วนักดาราศาสตร์แบ่งประเภทดาวออกตามความร้อน ซึ่งประกอบด้วยดาวแบบ M, K, G, F, A, B, O โดยที่ดาวแบบ M ร้อนน้อยที่สุด ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงดาวแบบ O ซึ่งร้อนที่สุด
พระอาทิตย์ของเราเป็นแบบ G เรามองเห็นเป็นสีเหลือง แต่จริงๆ มันเป็นสีขาว เหตุที่เราเห็นเป็นสีเหลืองเพราะชั้นบรรยากาศของเรา ซูเปอร์แมนบินข้ามจักรวาล น่าจะมองเห็นสีจริง เอ้า! ไม่เห็นก็ไม่เห็น พระบ้านเราหลายรูปก็มองไม่เห็นสีจริง เห็นแต่สีกา
วินทร์ เลียววาริณ
21-7-25วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
1 วันที่ผ่านมา -
แอริค วีเลนไมเยอร์ เกิดมาพร้อมโรค Retinoschisis ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมหายากที่ทำให้เขาตาบอดตอนอายุสิบสาม พ่อของเขารู้ดีว่าลูกชายไม่มีวันหนีพ้นสภาพตาบอดแน่นอน และเตรียมตัวรับมือมันเนิ่น ๆ พ่อว่า "สิ่งที่แย่ที่สุดที่คุณทำคือการเลี้ยงเด็กตาบอดแบบไข่ในหิน" ดังนั้นพ่อจึงส่งเสริมให้เขากล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ยาก ๆ กล้าเสี่ยงในสิ่งที่พอรับมือได้
ก่อนอายุสิบสาม ภาพรอบตัวของเขาเริ่มหายไปทีละสิ่ง ทางเดิน ตัวหนังสือ ทุกอย่างค่อย ๆ เลือนหายไป วันหนึ่งเขาเดินตกลงไปในหนองน้ำ และรู้ตัวว่าเขากลายเป็นคนตาบอดแล้ว
แอริคไม่มีทางเลือกนอกจากจะเริ่มเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับการเป็นคนตาบอด แทนที่จะครุ่นคิดในสิ่งที่เขาทำไม่ได้ เขาหันไปเพ่งกับสิ่งที่เขาทำได้ แม้ชีวิตจะไม่มีวันเหมือนเดิม แต่ทัศนคติที่ว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นการผจญภัยอีกครั้ง เป็นสิ่งที่เขาต้องมีก่อนที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้ เขาเลือกทาง 'น้ำเต็มครึ่งแก้ว' แทนที่จะเป็น 'น้ำพร่องครึ่งแก้ว'
หลังแม่ตาย ครอบครัวของเขาไปเดินป่าในเปรู แอริคเดินป่าระยะทาง 27 ไมล์โดยใช้ไม้เท้า และติดใจการผจญภัยในป่าแต่นั้นมา ต่อมาพวกเขาก็เดินท่องสเปน ปากีสถาน ปาปัวนิวกินี การเดินป่าด้วยกัน เป็นทางหนึ่งที่ช่วยยึดครอบครัวที่ไม่มีแม่เข้าด้วยกัน ผ่านมาหลายปี ชายตาบอดก็ออกเดินทางไปปีนเขาที่สูงที่สุดในโลก - เอเวอเรสต์
ความจริงการป่ายปีนขึ้นเอเวอเรสต์ครั้งนี้เป็นทั้งเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม องค์กรสหพันธ์คนตาบอดแห่งชาติอยากจะประชาสัมพันธ์ให้คนในประเทศรู้ว่า 70% ของคนตาบอดในอเมริกาว่างงาน แอริคเข้าใจความขมขื่นและอุปสรรคของคนตาบอด จึงยินดีเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ แต่บางทีเขาอาจพิสูจน์ว่ากำลังใจมนุษย์อยู่เหนือความทุพพลภาพ
แอริค วีเลนไมเยอร์ ยืนอยู่ระหว่างกลางแผ่นดินกับสวรรค์ เขามองไม่เห็นอะไร แต่สัมผัสความเวิ้งว้าง ความเย็นเยือกของอากาศรอบตัว และเสียงแห่งภูผา เขานึกถึงอุปสรรคมากมายที่เขาฟันฝ่ากว่าจะมายืนอยู่ตรงจุดนี้ และมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ไกลออกไป
หลายคนถามเขา "ทำไมถึงปีนเขาในเมื่อคุณมองไม่เห็นอะไรเลย?" เขาบอกว่า "คุณไม่ได้ปีนเขาเพื่อดูวิว ไม่มีใครทรมานตัวเองบากบั่นปานนี้เพื่อขึ้นไปดูวิว ความสวยงามที่แท้จริงของชีวิตอยู่ที่ข้างภูเขา ไม่ใช่บนยอด"
เขาเคยดิ่งพสุธาเดี่ยวมากว่าห้าสิบครั้ง เคยเป็นนักมวยปล้ำ วิ่งมาราธอน เป็นนักสกี นักดำน้ำ แต่คนตาบอดที่ปีนภูเขาที่สูงที่สุดในโลก? มันเป็นเรื่องตลก หลายคนว่าเป็นความบ้า ความโง่เง่าที่สุด
นานหลายปีก่อนขึ้นเอเวอเรสต์ เขาเริ่มจากวิ่งขึ้นบันไดตึกสูงห้าสิบชั้นโดยแบกเป้หนัก 70 ปอนด์ที่หลัง เขาฝึกฝนอย่างหนักหน่วง หลังจากนั้นก็ไต่เขาทีละลูก ภูเขาแม็คคินลีย์ที่อะแลสกา ภูเขาอคอนคากัวที่อาร์เจนตินา ภูเขาวินสันที่แอนตาร์คติกา ภูเขาคิลิมันจาโรที่แทนซาเนีย
อันตรายของการไต่ภูเขาแม็คคินลีย์คือพื้นหิมะบางที่บดบังหล่มลึกเบื้องล่าง ชายตาบอดใช้ไม้เท้าจิ้มหาความหนาของหิมะก่อนก้าวไปข้างหน้า เรียนรู้การสร้างถ้ำจากหิมะ ให้นักปีนเขานัยน์ตาดีที่เดินหน้าเขาแขวนกระดิ่งขนาดเล็ก ทำให้เขาสามารถตามทางไปได้โดยไม่พลาด ไม้เท้านี้ยังช่วย 'มอง' รอยเท้าที่นักเดินเขาก่อนหน้าเขาทิ้งไว้
สันเขาที่แคบที่สุดของภูเขาแม็คคินลีย์กว้างเพียงไม่กี่ฟุต ด้านหนึ่งเป็นเหวลึกหนึ่งพันฟุต อีกด้านหนึ่งเป็นเหวลึกเก้าพันฟุต การเดินทางสำหรับคนตาดีนับว่ายาก มิพักเอ่ยถึงคนตาบอด การก้าวพลาดเพียงก้าวเดียวอาจหมายถึงความตาย แอริคผ่านด่านนั้นมาได้ และทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น
ทัศนคติของเขาต่อการปีนเขาไม่ใช่เพื่อเอาชนะ แอริคบอกว่า "คุณไม่เอาชนะภูเขา คุณเป็นส่วนหนึ่งของมัน คุณปีนป่ายขึ้นไปเงียบ ๆ เมื่อมันหลับใหล ถ้าคุณไม่ยอมรับและทำตามกติกา คุณจะถูกมันบดขยี้ ผมชอบความคิดนี้ ผมชอบที่จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ไม่ใช่แปลกแยกจากมัน"
วันที่ 25 พฤษภาคม 2001 แอริค วีเลนไมเยอร์ เป็นคนตาบอดคนแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่ก้าวขึ้นไปถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
แอริค วีเลนไมเยอร์ แสดงให้เราเห็นว่า "ไม่มีอะไรในโลกที่เป็นไปไม่ได้จริง ๆ"
วินทร์ เลียววาริณ
21-7-25จากหนังสือ ความฝันโง่ ๆ
(หนังสือหมดแล้ว และจะไม่ตีพิมพ์อีก)1 วันที่ผ่านมา