-
วินทร์ เลียววาริณ5 เดือนที่ผ่านมา
เล่าเรื่องจอมพลสฤษดิ์ต่อ
ช่วงเวลาที่จอมพลสฤษดิ์ไปรักษาตัวในสหรัฐฯ พล.ท. ถนอม กิตติขจร ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี สถานการณ์การเมืองในไทยวุ่นวาย ทะเลาะกันจน พล.ท. ถนอม กิตติขจร ปวดหัว ไม่อยากเป็นนายกฯแล้ว เพราะคุมสถานการณ์ไม่อยู่
จอมพลสฤษดิ์บินกลับมาเมืองไทยเงียบ ๆ คุยกับนายกรัฐมนตรี ‘นอมินี’ พล.ท. ถนอม กิตติขจร “สภาผู้แทนฯวุ่นวาย คุมไม่อยู่ ส.ส. ยุ่งเหมือนยุงตีกัน ทะเลาะกันได้ทุกเรื่อง ส่วนหนังสือพิมพ์ก็ด่ารัฐบาลทุกวันด่าคุณด้วย”
“ยุ่งนักก็ยึดอำนาจ เปลี่ยนเป็นเผด็จการ”
วันจันทร์ที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ สถานีวิทยุกระจายเสียงประกาศข่าวการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ถนอม กิตติขจร จอมพลสฤษดิ์ขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุด
หลังยึดอำนาจครั้งนี้ สื่อต่าง ๆ ถูกปิดปากทันที ล่ามโซ่แท่นพิมพ์หลายแห่ง นักหนังสือพิมพ์จำนวนมากถูกจับกุม ทั้งหมดนี้ใช้เครื่องมือชิ้นสำคัญคือมาตราที่ ๑๗ แห่งธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๐๒ ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีสั่งการได้อย่างกว้างขวาง สามารถสั่งลงโทษประหารชีวิตโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม
ผมเกิดทันสมัยนั้น ได้ยินผู้ใหญ่บอกว่า จอมพลสฤษดิ์ปกครองได้สะเด็ดยิ่งนัก ยิงเป้าโจรเป็นว่าเล่น
จอมพลสฤษดิ์ชอบไปคุมการดับเพลิง เมื่อเกิดอัคคีภัย และมีมาตรการป้องกันไฟไหม้ที่ไม่เหมือนใครในโลก นั่นคือยิงเป้าผู้วางเพลิง ณ จุดเกิดเหตุ
เขาประกาศว่าใครก็ตามที่วางเพลิงจะต้องโทษอย่างสาสม
วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๑ ไฟไหม้ฝั่งธนบุรี นายซ้ง แซ่ลิ้ม เป็นผู้ต้องหาวางเพลิง จึงถูก ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’
คำสั่งยิงเป้าจบด้วยประโยค “ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจกระทำในครั้งนี้ และข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”
นายซ้งถูกยิงเป้าริมกำแพงวัดมหาธาตุ ด้านหอสมุดวชิรญาณ
ไม่ถึง ๔๘ ชั่วโมงต่อมา เกิดไฟไหม้ที่ตลาดพลู ผู้ต้องหาวางเพลิงคือสองพี่น้อง นายจำนง แซ่ฉิ่น และนายซิวหยิ่น แซ่ฉิ่น ถูกยิงเป้าที่ลานวัดอินทารามหรือวัดใต้
การยิงเป้ามือวางเพลิง หรือผู้ต้องสงสัยเป็นมือวางเพลิงดำเนินไปอีกหลายครั้ง
อัตราเพลิงไหม้ในประเทศลดต่ำลงทันตาเห็น
เวลานั้นกรุงเทพฯเต็มไปด้วยอันธพาล บางครั้งอยู่ในสังกัดของตำรวจ ด้วยหลัก ‘เลี้ยงโจรไว้ปราบโจร’
ไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังจากเป็นนายกฯเผด็จการ อันธพาลหายเกลี้ยงไปจากเมือง เมื่อถูก ‘อุ้ม’ ไป ‘อบรม’
ถัดจากนั้นก็ถึงคิวปราบฝิ่น ท่านผู้นำสั่งให้ยุบร้านค้าจำหน่ายฝิ่นทั้งหมดภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๐๒
ขีดเส้นตายวันฝิ่นหมดสิ้นจากแผ่นดินไทยคือ ๑ กรกฎาคม ๒๕๐๒
ไม่มีใครกล้าสวนคำสั่งนี้ เพราะกลัวประโยค “ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว”
จอมพลสฤษดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า การเลิกฝิ่นทำให้ประเทศเสียรายได้ปีละนับร้อยล้านบาท แต่จำเป็นต้องทำ
“เราต้องทำเพราะเกี่ยวกับเกียรติภูมิของคนไทยทั้งชาติ อับอายขายหน้าเขาเหลือเกิน ฝรั่งมาเมืองไทย ที่ดี ๆ มีถม ไม่ยักกะถ่ายรูป กลับไปถ่ายรูปคนนอนโรงยาฝิ่นไปลงหนังสือพิมพ์ ดูคล้ายกับว่าเป็นของแปลก ทำให้เข้าใจกันว่าคนไทยทั้งชาติมัวเมางมงายอยู่กับยาเสพติด บ้านเมืองชาติอื่นเขาเจริญก้าวหน้าไปถึงไหน ๆ แล้ว เราจะมาหมกมุ่นอยู่กับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร”
การลดฝิ่นค่อย ๆ ทำไป จนถึงเส้นตาย ๑ กรกฎาคม ๒๕๐๒ นายกรัฐมนตรีก็ประกาศว่า หากพ้นคืนนี้ไปแล้ว ยังมีคนยุ่งกับฝิ่น จะจัดการสถานหนัก
‘สถานหนัก’ ของจอมพลสฤษดิ์แปลว่าลูกปืน
ท่านผู้นำสั่งให้รวบรวมฝิ่นและอุปกรณ์สูบที่ยึดมากองพะเนินกลางท้องสนามหลวง แล้วจุดไฟเผาให้สิ้นซาก
ช่วงที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ บริหารประเทศ ไม่มีพ่อค้าคนใดกล้ากักตุนหรือขึ้นราคาสินค้า เพราะเกรงกลัวการขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวของท่านผู้นำ
ประเทศไทยยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มีความเปลี่ยนแปลงหลายเรื่อง ทั้งด้วยวิธีการปกครองแบบเฉพาะตัวของนายกฯ และปัจจัยจากภายนอก นั่นคือการแพร่ระบาดของลัทธิคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคนี้
เวลานั้นเวียดนามถูกแบ่งเป็นเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ด้วยเส้นขนานที่ ๑๗ องศาเหนือ สหรัฐอเมริกาเชื่อเรื่องทฤษฎีโดมิโน นั่นคือหากเวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์ ประเทศที่เหลือในคาบสมุทรแหลมทองจะกลายเป็นพื้นที่สีแดงทั้งหมด
ประเทศไทยจึงเป็นกันชนสำคัญที่สุด สหรัฐฯจึงต้องการตั้งฐานทัพในประเทศไทย และการพัฒนาชาติให้เจริญเป็นภาคบังคับ ด้วยความเชื่อว่า หากประเทศเจริญขึ้น คอมมิวนิสต์จะไม่มีข้อแม้ในการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ผลที่ตามมาคือแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ ๑ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๐๔ – ๒๕๐๙ กระจายความเจริญออกไปสู่ภูมิภาค สร้างถนนหนทางใหม่ ๆ สนามบิน ท่าเรือ เขื่อนผลิตไฟฟ้า สาธารณูปโภค สาธารณูปการ พัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อทดแทนการนำเข้า ส่งเสริมการลงทุน ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว
ปรากฏคำโฆษณาชวนเชื่อว่า “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี มีงานทำ”
สิ่งสำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นในยุคจอมพลสฤษดิ์อาจคือแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ มันเป็นแผนแม่บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน
ในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๐๔ รัฐบาลออกพระราชบัญญัติสภาการศึกษาแห่งชาติ ประกาศขยายการศึกษาภาคบังคับของชาติ จากชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เป็นชั้นประถมศึกษาปีที่ ๗
นี่ทำให้โดยภาพรวม ประเทศไทยในยุคจอมพลสฤษดิ์มีการพัฒนามากในระดับหนึ่ง
จอมพลสฤษดิ์ออกประกาศยกเลิกรถจักรยานสามล้อรับจ้างในจังหวัดพระนครและธนบุรี เนื่องจากปัญหาการจราจรและความสะอาดเรียบร้อย สั่งนำเข้ารถยนต์สามล้อยี่ห้อไดฮัทสุจากประเทศญี่ปุ่นมาทดลองใช้เป็นครั้งแรกในย่านเยาวราช มันกลายเป็นต้นแบบของรถตุ๊กตุ๊ก
หนังสือพิมพ์ Newsweek เขียนถึงจอมพลสฤษดิ์ว่า เขาบริหารประเทศในแนวเดียวกับ ฟีออร์เรลโล ลา กัวร์เดีย (Fiorello H. La Guardia) อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ผู้มีชื่อเสียงเรื่องเป็นผู้ขยันสร้างความเจริญให้นิวยอร์กมากที่สุด
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรีเผด็จการจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ ด้วยโรคไตพิการเรื้อรัง อายุ ๕๕ ปี รวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ๔ ปี ๙ เดือน ๒๘ วัน
ยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยังเป็นที่กล่าวขานถึงจนปัจจุบัน เพราะเป็นตัวอย่างของการใช้อำนาจเผด็จการรูปแบบเฉพาะตัวปกครองประเทศ
ถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี ยังเป็นเครื่องหมายคำถามอีกนานแสนนาน
............................
จาก ประวัติศาสตร์ที่เราลืม / วินทร์ เลียววาริณ
โปรโมชั่นสุดคุ้ม สั่งทาง Shopee https://shope.ee/30QSjhDgNg?share_channel_code=6
สั่งทางเว็บ https://www.winbookclub.com/store/detail/176/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%20%E0%B9%91-%E0%B9%95%20+%20%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A9
0- แชร์
- 67
-
นวนิยาย สี่ภพ มีหกเล่ม ส่วนที่เป็นนวนิยายมี 5 เล่ม ประกอบด้วย 5 ภาค (เป่ย หนาน ตง ซี เทียน)
เล่มที่ 6 เป็นสารคดี เรียกว่า บันทึกสี่ภพ
ทำไมต้องมีสารคดี?
ตอบสั้นๆ คือผู้อ่านขอมา
นวนิยาย สี่ภพ เป็นการเดินทางนานกว่ายี่สิบปี เริ่มต้นที่คอนเส็ปต์ในรูปของการอำในปี 2545 แต่ในบทอำนั้น ก็วางกระดูกสันหลังของเรื่องเรียบร้อยแล้ว
การโยงนิยายกำลังภายในกับนิยายไซไฟไม่ใช่ของใหม่แล้วใน พ.ศ. นี้ แต่ในปี 2545 เมื่ออำเรื่องนี้นั้น ยังไม่ค่อยเห็นกัน
สี่ภพ จึงเป็นการทดลองทางวรรณกรรม นำนิยายตระกูลกำลังภายในเข้าไปสู่อีกพื้นที่หนึ่ง และข้ามพ้นกรอบคิดเดิมของนิยายตระกูลนี้
เนื่องจากกระบวนการทำงานยุ่งยากมาก ผู้อ่านหลายคนก็เสนอว่าควรเล่าที่มาที่ไป เพื่อประโยชน์ของนักอ่าน และเป็นกรณีศึกษาของนักเขียน
ผมเห็นด้วย เห็นสมควรบันทึกไว้เป็นตัวอย่างศึกษา นอกจากเล่าที่มาที่ไป ยังถือโอกาสให้ความรู้เรื่องจักรวาลวิทยาที่นำมาใช้ในเรื่องด้วย
บันทึกสี่ภพ ประกอบด้วย
ภาค 1 เบื้องหลังการทำงาน มี 9 บท เช่น Master Plan การออกแบบฉาก ฉากสงคราม การออกแบบอาวุธ การสร้างตัวละคร ฉากและซับพล็อตที่ไม่ได้ใช้ ประวัติศาสตร์จริง และการออกแบบรูปเล่ม ภาค 2 คือไดอารีการทำงาน แต่ละวัน แต่ละช่วงคิดอะไร พัฒนาพล็อตอย่างไร รวมถึงเกร็ดกำลังภายในที่คนรุ่นใหม่อาจไม่รู้
เป็นเล่มความรู้ล้วนๆ
คำเตือนคือ ห้ามอ่านเล่ม 6 ก่อนอ่านนวนิยายโดยเด็ดขาด มันจะเป็นสปอยเลอร์ระดับมหากาฬ และทำลายรสชาติการอ่านหมดสิ้น
วินทร์ เลียววาริณ
19-8-25อ่านที่มาของงานชุดนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/photo/?fbid=1348523389969682&set=a.208269707328395
อ่านรายละเอียดหนังสือได้ที่
https://www.facebook.com/photo?fbid=1352241359597885&set=a.208269707328395ตอนนี้พิมพ์จริงแล้ว สั่งซื้อ คลิก https://www.winbookclub.com/store/detail/254/4%20%E0%B8%A0%E0%B8%9E
ในหน้า pre-order สามารถคลิกอ่านตัวอย่าง 2 บทได้ฟรี
ท่านที่จอง pre-order แล้วยังไม่ได้ชำระเงิน โปรดทราบว่า ราคา pre-order (2,200.-) นี้จะยืนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 หลังจากนั้นจะเปลี่ยนไปใช้ราคาปก (2,400.-) และอาจมีค่าส่ง
1 วันที่ผ่านมา -
ผู้ชายที่แต่งงานแล้วหลายคนชอบบ่นเรื่องชีวิตคู่ (ก็คือนินทาเมียนั่นแหละ) เฮ้อ! อ่อนหัดจริงๆ ช่างไม่รู้เรื่องอะไรซะเลย
ความจริงเข้าใจผู้หญิงไม่ยากเลย หลักการมีแค่ไม่กี่ข้อ
สิ่งที่ผู้หญิงต้องการคือ
- การเอาใจใส่ดูแล
- รับฟังเธอระบาย
- รู้จักสร้างความเซอร์ไพรซ์บ้าง
- ยอมให้เธอชนะทั้งหมดนี้ไม่ยาก
ที่ยากคือเราไม่รู้ว่าต้องทำแต่ละข้อเมื่อไร
จบแค่นี้พอนะ ต้องไปซักผ้าแล้ว
ว.ล.
18-8-251 วันที่ผ่านมา -
(ขออภัยที่ช่วงนี้ต้องขายยาบ่อยๆ จำเป็นต้องหาเงินไปจ่ายโรงพิมพ์ ถ้าได้ครบล้านเล่มเมื่อไร จะเลิกป้ายยา)
สี่ภพ เป็นนิยายจีนกำลังภายใน เขียนโดยคนไทยผู้เติบโตในยุคที่เมืองไทยเฟื่องฟูด้วยนิยายจีนกำลังภายใน
50 ปีก่อนคือยุคทองของนิยายจีนกำลังภายในภาคภาษาไทย วางเกลื่อนแผงหนังสือ ทั้งหมดเป็นพ็อคเก็ตบุ๊คบาง ๆ เล่มละ 3-6 บาท พ็อคเก็ตบุ๊คเหล่านี้วางแผงทุกสัปดาห์
นวนิยายหนึ่งเรื่องอาจมีพ็อคเก็ตบุ๊คหลายสิบเล่มไปจนร้อยเล่ม ปกหน้าทั้งหมดเป็นรูปวาดลายเส้น ลงสีน้ำ เนื่องจากงานที่ผลิตจำหน่ายมีมาก จิตรกรจึงต้องทำงานเร็ว สไตล์การวาดจึงมีลักษณะงานสเก็ตช์ กลายเป็นเอกลักษณ์ เป็นหมุดหมายของวงการพาณิชย์ศิลป์ไทย
นวนิยาย สี่ภพ เดินตามรอยงานเขียนในยุคนั้น เป็นงาน love letter (คืองานแสดง ความรักความลุ่มหลงต่องานเก่า) ระลึกถึงตลาดนิยายจีนกำลังภายในในเมืองไทยเมื่อ 50 ปีก่อน ดังนั้นการออกแบบปกนวนิยาย สี่ภพ จึงใช้คอนเส็ปต์ nostalgia การอ่านนิยายจีนของคนไทยในยุคนั้น
ผมลอกลายเส้นเดิมของปกเก่า ๆ มาดัดแปลงใหม่ รักษาสีสันและสไตล์หนังสือในยุคนั้น แต่ปรับเป็นยุคปัจจุบัน ยังคงใช้สไตล์สีน้ำ แต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ แต่ไม่ใช้ AI
มีการใช้ภาพถ่ายมาผสมบ้าง เพื่อให้มีกลิ่นของความร่วมสมัย แต่ยังคงพยายามรักษาอารมณ์ของงานยุคก่อน
การใช้ฟอนต์ชื่อเรื่องก็จำลองสไตล์การออกแบบชื่อเรื่องในสมัยนั้น เป็นอักษรประดิษฐ์เฉพาะตัว อารมณ์เชยๆ นิดหน่อย
การออกแบบโลโก้มาจากคอนเส็ปต์หลักของเรื่อง ต้องอ่านเรื่องจึงจะเข้าใจ
จุดเดียวที่แตกต่างจากปกแบบเก่าคือ การทำให้ภาพทั้งหกปกเรียงร้อยเป็นภาพเดียวกัน คล้ายงานจิตรกรรมฝาผนังตามวัด
งานออกแบบชุดนี้อาจไม่ใช่ original ที่มีความสดใหม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ไอเดียคือการจำลองบรรยากาศการอ่านนิยายจีนกำลังภายในในยุคครึ่งศตวรรษก่อน เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ปกชุดนี้จึงทำหน้าที่คล้ายสะพานเชื่อมคนรุ่นใหม่กับรุ่นเก่าที่กำลังลาจากไป
นี่เองคือเหตุผลที่งานชุดนี้เป็นงานสะสม
วินทร์ เลียววาริณ
18 สิงหาคม 2568อ่านที่มาของงานชุดนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/photo/?fbid=1348523389969682&set=a.208269707328395
อ่านรายละเอียดหนังสือได้ที่
https://www.facebook.com/photo?fbid=1352241359597885&set=a.208269707328395ตอนนี้พิมพ์จริงแล้ว สั่งซื้อ คลิก https://www.winbookclub.com/store/detail/254/4%20%E0%B8%A0%E0%B8%9E
ในหน้า pre-order สามารถคลิกอ่านตัวอย่าง 2 บทได้ฟรี
ท่านที่จอง pre-order แล้วยังไม่ได้ชำระเงิน โปรดทราบว่า ราคา pre-order (2,200.-) นี้จะยืนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 หลังจากนั้นจะเปลี่ยนไปใช้ราคาปก (2,400.-) และอาจต้องคิดค่าส่ง
1 วันที่ผ่านมา -
ไอน์สไตน์เป็นคนฉลาด ทั้งในด้านวิชาการและการใช้ชีวิต
เขาไม่ตกอยู่ในกับดักของกฎเกณฑ์ใดๆ ใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระจริงๆ
ไอน์สไตน์มีมุมมองว่า ชีวิตไม่ควรมีกรอบอะไรมาบังคับ
คำว่า 'กรอบ' ไม่ได้หมายถึงกฎจราจรหรือกฎหมายที่จำเป็นต่อความสงบของสังคม แต่หมายถึงกฎสังคม ค่านิยม ฯลฯ เช่น ต้องแต่งตัวแบบนี้จึงจะเป็นสุภาพบุรุษ ต้องกินแบบนั้นจึงจะเป็นสุภาพชน ต้องมีเงินทองเท่านี้จึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นต้น
ไอน์สไตน์ถือหลักว่าไม่ต้องเชื่อใคร คิดก่อนเสมอ
ไอน์สไตน์บอกว่าเขามีความสุขเพราะไม่เคยอยากได้อะไร ไม่อยากได้เงินทอง ยศ ชื่อเสียง คำยกย่อง
เขาบอกว่า "ผมมีความสุขเพราะผมไม่ต้องการอะไรจากใคร"
ขณะที่โลกมีคนฉลาดจำนวนมากดิ้นรนหาเงินทอง เพราะเชื่อว่ามันนำความสุขมาให้ ไอน์สไตน์มองว่านั่นคือกรอบอย่างหนึ่ง มันเป็นการมองโลกที่คับแคบ
คนฉลาดจริงรู้จักหาความสุขจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เป็นความสุขทางใจ ไม่ใช่วัตถุ
ไอน์สไตน์ไม่สนใจเงินทอง ตำแหน่งเกียรติยศไม่มีความหมายอะไรต่อเขา
เขาใช้ชีวิตง่ายๆ ไม่ยึดติดกับวัตถุ อยู่แบบง่ายๆ และพอเพียง
เขาพบความสงบในเรื่องเล็กๆ งานที่เขาทำ ดนตรี การแล่นเรือใบ ทั้งหมดเป็นความสุขเล็กๆ
คนยิ่งใหญ่มักทำตัวเล็ก
วินทร์ เลียววาริณ
18 สิงหาคม 25681 วันที่ผ่านมา -
Mercy for None (광장) เป็นหนังแอ็คชั่นนัวร์เกาหลี มันเป็นหนังที่ไม่มีอะไรใหม่ในเชิงพล็อต เรื่องการชิงอำนาจของพวกนักเลง
แต่จุดเด่นของเรื่องอยู่ที่ความเหนือจริง คล้ายอีกจักรวาลหนึ่ง เหมือนอีกโลกหนึ่ง โลกที่ปืนไม่มีบทบาทหลัก นักเลงสู้กันด้วยหมัดและมีด
หนังยืมและดัดแปลงบางองค์ประกอบของ John Wick มาใช้ หนังมีกลิ่น Oldboy สู้กันเลือดสาดทั้งเรื่อง
หนังยังใช้เทคนิคการเล่าเรื่องโดยเบรกท่อนพิเศษแยกออกมา (ผมเคยใช้เทคนิคนี้ในงานวรรณกรรมเรื่อง ปีกแดง โดยขยายความในรูปล้อมกรอบ)
เทคนิคการใช้ท่อนพิเศษนำเรื่องนี้ใช้ใน Breaking Bad และใช้มากขึ้นใน Better Call Saul ท่อนพิเศษนี้อาจอธิบายขยายความรายละเอียดของเรื่องที่เรายังไม่เข้าใจจนกว่าจะดูจบตอนนั้น เช่น ตอนที่ที่เปิดฉากเรื่องด้วยรถยนต์จากัวร์ XJ8 จอดริมทะเลในตอน Point and Shoot หรือดอกไม้สีน้ำเงินในตอน Rock and Hard Place
แต่ใน Mercy for None ท่อนพิเศษจะตบท้ายเรื่อง ทำให้เรื่องเล่านั้นน่าสนใจขึ้น
จุดเด่นของ Mercy for None ไม่ใช่เนื้อเรื่อง (ซึ่งบ่อยครั้งไม่มีเหตุผลหรือความสมจริง) แต่อยู่ที่วิธีการเล่าเรื่อง หนังรักษาจังหวะจะโคน โทนเรื่องได้ดี
และหนังมันเป็นบ้า!
วินทร์ เลียววาริณ
17-8-258/10
ฉายทาง Netflixป.ล. หนังรุนแรงมาก เลือดท่วมจอ ไม่เหมาะกับทุกคน
วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
2 วันที่ผ่านมา