• วินทร์ เลียววาริณ
    3 วันที่ผ่านมา

    สมัยเป็นเด็ก ผมใช้ชีวิตในห้องสมุดประชาชนเสมือนหนึ่งเป็นบ้านหลังที่สอง ผมไปห้องสมุดทุกวันที่มันเปิด ห้องสมุดอนุญาตให้ยืมหนังสือกลับบ้านได้วันละสองเล่ม ผมรู้สึกว่าน้อยไป บ่อยครั้งจึงอ่านเล่มที่ 3 4 5... ในห้องสมุด นอกเหนือจากสองเล่มที่ยืมกลับบ้าน

    วันหนึ่งขณะนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุด วัยรุ่นแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามาหา ถามผมว่า “เวลาอ่านหนังสือ อ่านคำนำหรือเปล่า?”

    ผมตอบว่า “เปล่า” เพราะไม่เคยอ่านคำนำ

    วัยรุ่นแปลกหน้าก็นั่งลงสอนการอ่านหนังสือให้ถูกวิธี ชี้ให้เห็นความสำคัญของการอ่านคำนำ การอ่านคำนำทำให้เราเข้าใจว่ามันเป็นหนังสือเกี่ยวกับอะไร การอ่านสารบัญก็ทำให้เรารู้ขอบเขตเนื้อหาของหนังสือเล่มนั้น ว่าคนเขียนต้องการเสนออะไร ฯลฯ

    ผมเป็นเด็กขี้อาย ไม่เคยชินกับการสนทนากับคนแปลกหน้า ก็อือ ๆ ออ ๆ แล้วรีบกลับบ้าน

    บ่ายนั้นวัยรุ่นแปลกหน้าคนเดิมก็ตามมาหาผมถึงบ้าน เชื่อว่าเขาได้ที่อยู่ผมมาจากบรรณารักษ์ เขาบอกว่าบทเรียนที่ห้องสมุดยังไม่จบ ก็ตามมาสอนต่ออีกรอบหนึ่ง!

    เป็นครั้งแรกที่มีครูมาสอนถึงบ้านโดยไม่ได้เชิญ

    เป็นครั้งแรกที่แลเห็นความเมตตาและความปรารถนาดีของคนแปลกหน้าคนหนึ่ง

    คนบางประเภทมีความเมตตาสูง และหวังดีต่อคนแปลกหน้า อยากให้คนอื่นพัฒนาตนเองดีขึ้น

    ผมยังเคยผ่านประสบการณ์คนแปลกหน้าช่วยเหลืออีกหลายครั้ง เช่น ครั้งหนึ่งฝนตกหนัก คนแปลกหน้ากางร่มไปส่ง เคยถามทางจากคนแปลกหน้า แล้วเขาก็นำทางเราไปถึงที่หมาย

    ครั้งหนึ่งผมว่ายน้ำในสระสาธารณะแห่งหนึ่ง ผมไม่เคยชอบว่ายน้ำ แต่จำเป็นต้องออกกำลังกาย ก็ว่ายไปแค่ให้รู้ว่าไปว่ายน้ำมาแล้ว

    ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเห็นวิธีว่ายน้ำของผมแล้ว ก็เข้ามาหา แล้วสอนวิธีว่ายน้ำที่ถูกต้องให้ผม

    แม้สอนอยู่นาน และไม่ค่อยเข้าหัวคนที่ไม่ชอบออกกำลังกายเท่าไร แต่ก็แลเห็นว่าเขาเป็นคนมีเมตตา

    แม่เพื่อนสนิทผมเป็นโรคอัลไซเมอร์ ครั้งหนึ่งนางไปงานเลี้ยงและคุยกับคนแปลกหน้าที่ร่วมโต๊ะ นางเล่าเรื่องเดิมซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง เนื่องจากจำไม่ได้ว่าเล่าแล้ว คนแปลกหน้าฟังดูแล้ว พอคาดว่านางเป็นอัลไซเมอร์ ก็นั่งฟังนางเล่าอย่างตั้งใจ เหมือนฟังเป็นครั้งแรก ไม่เอ่ยท้วงว่า เคยฟังแล้ว

    โลกมีตัวอย่างของคนแปลกหน้าที่ดีมากมาย

    และโชคดีที่มันเป็นเรื่องจริง

    ..........................

    เราอาจได้รับการสั่งสอนจากผู้ใหญ่ว่าให้ระวังคนแปลกหน้า ซึ่งอาจจะคิดร้ายกับเรา แต่มันไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัว เพราะคนแปลกหน้าที่ดีก็มี คนใกล้ตัวที่แย่ ๆ ก็มีมาก

    สิ่งหนึ่งที่ผู้ใหญ่ควรสอนก็คือการรู้จักวิเคราะห์ประเมินว่า คนแปลกหน้าคนหนึ่งหวังดีหรือร้าย

    บ้านเราสมัยก่อนมีธรรมเนียมการวางตุ่มน้ำและกระบวยที่หน้าบ้าน สำหรับคนแปลกหน้าเดินผ่านไปมาสามารถดื่ม นี่ก็เป็นธรรมเนียมที่สะท้อนว่าคนเราไม่ได้แบ่งกันที่คนแปลกหน้ากับคนไม่แปลกหน้า

    แต่แบ่งที่คนมีน้ำใจกับคนไม่มีน้ำใจ

    บางครั้งคนแปลกหน้าที่มีน้ำใจก็ต้องหงายหลัง ชายคนหนึ่งขับรถผ่านสี่แยก แลเห็นชายชราคนหนึ่งยืนอยู่ริมถนน หันรีหันขวาง เหมือนคนป่วยโรคอัลไซเมอร์ที่หลงทาง เขาจึงจอดรถ จูงคนแก่ไปขึ้นรถ แล้วบอกคนแก่ว่า จะขับไปส่งที่บ้าน

    เขาขับรถออกไปขณะถามคนแก่ว่า “บ้านตาอยู่ตรงไหนก็ชี้ด้วย”

    คนแก่มีสีหน้าตกใจ ชี้มือไปข้างหน้า ทำท่าจะพูด แต่พูดไม่ออก คนขับยิ่งเชื่อว่าชายชราเป็นคนป่วยโรคอัลไซเมอร์ที่หลงทาง ก็ขับรถต่อไป บอกคนแก่ว่า “ใจเย็น ๆ ลองนึกดูว่าบ้านตาสีอะไร อยู่ตรงไหน”

    คนแก่บอกว่า “บ้านกูก็อยู่ตรงจุดที่กูยืนอยู่เมื่อกี้นั่นแหละ กูกำลังรอใส่บาตรพระ มึงก็เสือกลากกูมา ไอ้เปรต...”

    โชคดีที่มันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นแค่เรื่องขำขัน

    วินทร์ เลียววาริณ
    4-6-25 ................................... จากหนังสือ มากกว่าสามสิบสอง

    49 บทความกำลังใจ ราคาเพียง 250 บาท = บทความละ 5.10 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
    หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว

    https://www.winbookclub.com/store/detail/195/มากกว่าสามสิบสอง 

    https://s.shopee.co.th/9UlyhN6c1q 

    โปรโมชั่นคอมโบ https://www.winbookclub.com/store/detail/196/แพคเกจพิเศษ%203%20in%201 

    Shopee https://s.shopee.co.th/9UlyhN6c1q 
    โปรโมชั่นคอมโบ https://s.shopee.co.th/8zpi6W2V3T 

    ทำไมควรซื้อหนังสือเล่มนี้: https://www.facebook.com/photo/?fbid=1207283390760350&set=a.208269707328395 

    0
    • 0 แชร์
    • 14

บทความล่าสุด