• วินทร์ เลียววาริณ
    2 วันที่ผ่านมา

    เรื่องท่านรัฐมนตรีรักชาติที่ลงต่อเนื่องนี้ ไม่เคยคิดเขียนเป็นซีรีส์มาก่อนเลย

    แรกๆ ผมก็เขียนเพื่อคลายเครียด เขียนเอาขำ เขียนเพื่อปลงเรื่องการเมืองไทย

    เขียนไปเขียนมา ก็เห็นว่ามีเรื่องให้ปลงอยู่ไม่หยุด มาเรื่อยๆ เหมือนน้ำก๊อก แรงบ้าง กะปริบกะปรอยบ้าง

    ท่านรัฐมนตรีรักชาติเป็นแค่ตัวละครสมมุตินะครับ ไม่ได้เขียนจำลองใครเป็นพิเศษ เป็นตัวแทนของคนประเภทหนึ่งที่เห็นการเมืองเป็นธุรกิจ

    เมื่อเป็นธุรกิจ ก็เป็นเรื่องการลงทุน การคืนทุน และกำไรสูงสุด

    แต่ธุรกิจการเมืองนี้มีโบนัสคืออำนาจ ซึ่งเป็นยาเสพติดอย่างแรง

    สมัยก่อนเรายังไม่ใช้คำว่า ธุรกิจการเมือง แต่ตอนนี้ก็รู้กันแล้วว่า หากจะเข้าสู่การเมือง ก็คือธุรกิจ

    เรามองการเมืองเป็นเรื่องเล่น ไม่งั้นเราคงไม่เรียกว่า 'เล่น' การเมือง

    ผมเขียนใน ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน บทสุดท้าย ตัวละคร ตุ้ย พันเข็ม เปรยกับตัวเองว่า

    "การเมืองไทยกำลังแปรโฉมเข้าสู่อีกยุค ยุคของนักธุรกิจนานาชาติ ใครน่ากลัวกว่ากัน นักธุรกิจที่เข้าสู่การเมืองเพื่อประโยชน์ขององค์กรของตน หรือนักการเมืองที่ใช้การเมืองเป็นฐานทำธุรกิจ?"

    บทนี้เขียนเมื่อปี 2536 หลังจากคณะรัฐประหาร ร.ส.ช. ยึดอำนาจในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 อ้างเรื่องธุรกิจการเมืองและสิ่งที่เรียกว่า บุฟเฟต์คาบิเนท ตามมาด้วยการประกาศยึดทรัพย์นักการเมืองที่ร่ำรวยผิดปกติ หลังจากนั้นเราก็ไม่เห็นนักการเมืองถูกตั้งข้อหานี้อีก เพราะไม่มีใบเสร็จ นักธุรกิจการเมืองทุกคนฉลาดขึ้น

    แล้วเราประชาชนจะทำยังไง ในเมื่อพวกนั้นไม่เห็นหัวเราเลย

    ก็ต้องปลงเป็นเรื่องขำๆ ด้วยประการฉะนี้

    ว่าแต่ว่าขำหรือเปล่าล่ะ เตง?

    วินทร์ เลียววาริณ
    2-7-25

    1
    • 0 แชร์
    • 31

บทความล่าสุด