• วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    ข่าวอดีตนายกฯถูกศาลพิพากษาจำคุกในวันนี้ ไม่ใช่ประเด็นที่จะคุย แต่ที่เขียนถึงเรื่องนี้เพราะมีคนให้ข้อมูลว่า นี่เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่นายกฯเข้าคุก

    ข้อมูลนี้ไม่จริง นายกฯคนแรกที่เข้าคุกคือจอมพล ป. พิบูลสงคราม ข้อหาอาชญากรสงคราม

    จอมพล ป. เป็นผู้นำประเทศเมื่อไทยประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร หลังจากสงครามมหาเอเซียบูรพายุติ ญี่ปุ่นแพ้สงคราม ก็ถึงเวลาคิดบัญชี

    เวลาตี่สี่ วันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ทหารหลายคนนำโดย พ.ท. จำรัส รุ่งแสง ไปเคาะประตูบ้านจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่หลักสี่ ผู้เปิดประตูคือ ร.อ. อนันต์ พิบูลสงคราม บุตรชายอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ขอเวลาหน่อยนะ คุณพ่อยังไม่ตื่น รอให้ท่านตื่นก่อนเถอะ แล้วค่อยเอาตัวไป”

    ไม่นานนัก จอมพล ป. ตื่นนอน และได้รับแจ้ง ก็กล่าวว่า

    “อ้อ! เขามากันแล้วหรือ พ่อก็พร้อมแล้วเหมือนกัน”

    นายทหารบกคนที่มาเชิญตัวคุกเข่ากราบจอมพล ป. น้ำตาคลอ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาเท่านั้น”

    จอมพล ป. พยักหน้าแสดงความเข้าใจ

    ก่อนฟ้าสาง ประสงค์ พิบูลสงคราม ลูกชายคนที่สองก็ขับรถพาพ่อ ตามหลังรถทหารไป

    จอมพล ป. ติดคุกอยู่ ๑๕๙ วันก็เป็นอิสระ

    ในวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ ศาลฎีกาคดีอาชญากรสงคราม พิพากษาให้ยกฟ้อง ปล่อยจำเลยทั้งหมดพ้นข้อหาไป เหตุผลคือพระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม พุทธศักราช ๒๔๘๘ ที่บัญญัติย้อนหลังให้การกระทำความผิดก่อนวันที่ใช้พระราชบัญญัติเป็นความผิด ขัดกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๔ และเป็นโมฆะตามมาตรา ๖๑

    นักประวัติศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญการเมืองไทยหลายคนวิเคราะห์ว่า ผู้ที่วางแผนช่วยเหลือจอมพล ป. ก็คือ ปรีดี พนมยงค์ นั่นเอง ด้วยแผนที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

    ข้อหนึ่ง การออกกฎหมายอาชญากรสงครามทำให้คนไทยไม่ถูกส่งไปดำเนินคดีในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้เสียเปรียบในการเจรจาหลังสงคราม เท่ากับยอมรับว่าไทยเป็นประเทศแพ้สงคราม

    ข้อสอง เป็นการช่วยเหลือจอมพล ป. พิบูลสงคราม ให้พ้นโทษอย่างละมุนละม่อม

    นักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่า ไม่ว่าจะเห็นต่างทางการเมืองอย่างไร จอมพล ป. พิบูลสงคราม และ ปรีดี พนมยงค์ ก็เป็นเพื่อนร่วมตายมาแต่ครั้งเปลี่ยนแปลงการปกครอง นอกจากนี้ผู้ต้องหาคดีอาชญากรสงครามก็ล้วนเป็นคนรู้จักกันทั้งนั้น

    หนึ่งปีถัดมา กลุ่มจอมพล ป. ก็ก่อรัฐประหาร จอมพล ป. หวนคืนสู่อำนาจสูงสุด คราวนี้อยู่ยาวไปสิบปี ก่อนถูกรุ่นน้องจอมพลสฤษดิ์โค่น หนีไปลี้ภัยที่ญี่ปุ่น  .......................
    สองกรณีนี้คือคุกทางกายภาพ

    หากนับคุกทางใจด้วย เพราะการลี้ภัยก็คือการติดคุกชนิดหนึ่ง ก็มีนายกฯไทยมากกว่าสองคนที่เข้าข่ายนี้

    คนแรกคือพระยามโนปกรณ์นิติธาดา ถูกหลวงพิบูลสงคราม (จอมพล ป.) และพวก ขับออกไปในปี ๒๔๗๖ และตายในต่างแดน

    ปรีดี พนมยงค์ ก็ถูกกลุ่มจอมพล ป. ขับ ต้องลี้ภัย และตายในต่างแดน

    จอมพล ถนอม กิตติขจร ลี้ภัยต่างแดน แต่ยังได้กลับมาตายบ้าน

    ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ยังลี้ภัยอยู่ต่างแดน

    ดังนั้นตามประวัติศาสตร์ ก็มีนายกฯสองคนที่โดนทั้งคุกทางกายและทางใจ

    ประวัติศาสตร์โลกบอกว่า คนที่มีอำนาจสูงสุด ตกสูงกว่า  

    วินทร์ เลียววาริณ

    ๙-๙-๒๕๖๘

    อ่านรายละเอียดทั้งหมดและเกร็ดประวัติศาสตร์ไทยอื่นๆ ได้จาก ประวัติศาสตร์ที่เราลืม เล่ม 1-5 (5 เล่ม)

    สั่งทาง Shopee https://shope.ee/30QSjhDgNg?share_channel_code=6 

    สั่งทางเว็บ https://www.winbookclub.com/store/detail/176/%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%84%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%20%E0%B9%91-%E0%B9%95%20+%20%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A9 

    0
    • 0 แชร์
    • 15

บทความล่าสุด