• วินทร์ เลียววาริณ
    2 วันที่ผ่านมา

    วันนี้เป็นวันปิยมหาราช ตั้งแต่เด็กเรียนในโรงเรียนและทึ่งว่า พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์นี้ทรงทำเรื่องต่างๆ มากมาย เลิกทาส รถไฟ ไปรษณีย์ โทรเลข การประปา ปฏิรูปการปกครอง ฯลฯ

    แต่ก็เป็นภาพกว้างๆ มองในมุมเด็ก

    จนเมื่อศึกษาประวัติศาสตร์ไทยช่วงลัทธิล่าอาณานิคมของตะวันตก ก็เพิ่งรู้ว่าทรงทำเรื่องยากเย็นหลายอย่างที่ทำให้เมืองไทยยังรักษาเอกราชไว้ได้ เป็นเรื่องไม่ธรรมดาที่เรารอดเหยี่ยวนักล่าตะวันตกหลายตัวมาได้ หมิ่นเหม่ต่อการเสียกรุงครั้งที่สามอย่างยิ่ง

    ในมุมของการเมืองโลก (geopolitics) เราฉลาดที่สร้างพันธมิตรรัสเซีย ในมุมของหมากรุก เราเดินหมากฉลาดที่ยอมเสียดินแดนบางส่วนเพื่อแลกกับเอกราชของทั้งชาติ (เสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต)

    สยามจึงเป็นประเทศเดียวในถิ่นนี้ที่ไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใคร นี่ไม่ใช่งานง่าย และเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง

    คนรุ่นใหม่หลายคนที่ไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ท่อนนี้ ก็อาจมองต่างมุม ไม่เห็นความเสียหายของการเป็นเมืองขึ้น หรือกระทั่งเห็นความเท่ของการเป็นเมืองขึ้น

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ พระราชสมัญญานามว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช" มีความหมายว่า พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน

    บันทึกของนายช่างเยอรมัน ลูอิส ไวเลอร์ ที่มาสร้างรถไฟไทย ในอนุทินส่วนตัวของเขาหลังจากได้ยินข่าวรัชกาลที่ 5 สวรรคต ดังนี้

    (26 ตุลาคม 2453)

    “ข่าวนี้สะเทือนใจผมมาก ในราชอาณาจักรเล็กๆ ของพระองค์ พระองค์ทรงปกครองดั่งบิดาที่ใส่ใจบุตร พระองค์ทรงรู้จักข้าราชการระดับสูงเป็นการส่วนพระองค์ทุกคน และเป้นพระมหากษัตริย์ที่พระทัยดีและปรารถนาดีต่อพวกเราชาวยุโรป พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ด้วยเหตุนี้จึงทรงพยายามอยู่เสมอที่จะทรงหลีกเลี่ยงเรื่องราวทุกสิ่งที่อาจจะทำให้เรารู้สึกน้อยใจ พระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงความมีพระเมตตาและทรงมีความปรารถนาดีต่อตัวผม จนทำให้ผมเคยชินที่จะมองพระองค์เป็นเสมือนมิตรและผู้อุปถัมภ์ ถึงแม้พระองค์จะทรงรู้สึกนึกคิดแบบชาวสยามอย่างแท้จริง แต่พระองค์ก็ทรงเข้าพระราชหฤทัยและทรงตระหนักเห็นลักษณะนิสัยของชาวยุโรปได้อย่างถ่องแท้ อีกทั้งยังโปรดให้พวกเขามาช่วยทำงานเพื่อพัฒนาประเทศของพระองค์อีกด้วย ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงมีเหตุผลหลายประการที่จะทรงขุ่นเคืองชาวยุโรป...

    "พระองค์ทรงสืบสันตติวงศ์ปกครองพระราชอาณาจักรอันยิ่งใหญ่บริเวณคาบสมุทรอินโดจีนมาจากสมเด็จพระบรมราชชนก และเพื่อนบ้านชาวยุโรปผู้ละโมบอยากครอบครองพื้นที่ได้ขโมยแผ่นดินของพระองค์ไปสามส่วน พวกเขายื่นคำขาดให้พระองค์ทรงลงพระปรมาภิไธยในสนธิสัญญาที่ดูหมิ่นพระเกียรติยศและศักดิ์ศรีของพระองค์ ผู้ทรงเป็นกษัตริย์ของเอเชียผู้ซึ่งพระราชปณิธานของพระองค์เท่านั้นที่อยู่เหนือสิ่งอื่นใด แต่พระองค์ทรงสามารถข่มพระราชหฤทัยและทรงมีขันติธรรมอันเป็นคุณลักษณะที่ยิ่งใหญ่ จึงทำให้ทรงสามารถประกอบพระราชภารกิจอันยิ่งใหญ่ให้แก่ประเทศ ซึ่งย่อมมีผลดีกว่าการทรงปฏิบัติพระองค์แบบไม่โอนอ่อนผ่อนตาม แข็งกร้าวต่อศัตรูผู้มีอำนาจเหนือกว่า”

    (จากหนังสือ กำเนิดการรถไฟในประเทศไทย ลูอิส ไวเลอร์ เขียน แปลโดย ถนอมนวล โอเจริญ และ วิลิตา ศรีอุฬารพงศ์)

    เหตุการณ์สำคัญในรัชสมัยของพระองค์คือการเปลี่ยนแปลงของเพื่อนบ้านสยาม สยามกลายเป็นเป้าหมายของการล่าอาณานิคมของยุโรป ทรงตระหนักว่าพระองค์ทรงมีหน้าที่ต้องรักษาอธิปไตยของชาติให้จงได้ โดยเปิดประตูสู่วัฒนธรรมยุโรป แต่ขณะเดียวกันก็รักษาความเป็นไทยไว้ ทรงเชื่อว่านี่เป็นหนทางของเรา

    สมควรที่เราคนไทยยุคหลังจะเดินตามรอยนี้

    วินทร์ เลียววาริณ
    23 ตุลาคม 2568

    ป.ล. นอกเรื่องนิดหน่อย ผมกำลังเขียนนิยายนักสืบที่ใช้ฉากรัชกาลที่ 5 เพื่อเล่าประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในรัชสมัยนี้ เจตนาก็คล้ายการเขียน ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน คือเล่าประวัติศาสตร์ แต่เดินเรื่องด้วยตัวละครนักสืบ เขียนไปได้สองตอนแล้ว ยังน่าจะอีกนานกว่าจะเสร็จ

    ตอนแรกจะลงในชุดรวมเรื่องสั้นนักสืบของสมาคมนักเขียนในปีหน้า

    1
    • 0 แชร์
    • 34

บทความล่าสุด