-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
(ความจริงดูหนังและรีวิวเรื่องนี้มาตั้งแต่วันแรกที่ฉาย แต่มัวติดพันเรื่องการเมืองโลกอยู่หลายวัน ค่อยมานำลงวันนี้)
28 Years Later เป็นเรื่องที่สามต่อจาก 28 Days Later และ 28 Weeks Later
และเป็นภาคต้นของ 28 Years Later ตอนต่อไป (ฉายต้นปีหน้า)
นี่เป็นงานเขียนบทของ Alex Garland คนทำหนังไซไฟดีๆ หลายเรื่อง เช่น Ex Machina, Annihilation ไปจนถึงเรื่องล่าสุดที่เราดูคือ Civil War
ทั้งสามเรื่องนี้ดี ดังนั้นคอหนังจึงมีความคาดหวังพอสมควรสำหรับ 28 Years Later
และจะว่าไปแล้ว ก็ไม่ผิดหวัง
ไม่ผิดหวังกับความแปลกใหม่นะครับ ไม่ได้บอกว่านี่เป็นหนังดีเลิศเมื่อเทียบกับ 28 Days Later หรือ Ex Machina
เหตุที่ว่าแปลกใหม่ก็เพราะ 28 Years Later ตอน 1 พาหนังซอมบี้เข้าไปในพื้นที่ของปรัชญา และเสนอมุมมองอื่นที่น่าขบคิด เช่น การเกิดและการตาย ฯลฯ ทำให้มันดูเหมือนหลุดจากหนังซอมบี้ทั่วไป
แกนของเรื่องมีส่วนคล้ายการเดินเรื่อง Civil War คือเป็นการเดินทางของตัวละครหลัก พบเหตุการณ์ต่างๆ
หนังมีความตื่นเต้นเป็นระยะ ภาพน่าสนใจ (ความแปลกใหม่อีกอย่างหนึ่งคือเป็นหนังที่ถ่ายด้วย iPhone) แต่จุดเด่นที่สุดน่าจะเป็นการเปลี่ยนหนังซอมบี้เป็นหนังกึ่งปรัชญา
หนังมีความ morbid (สยดสยอง ชวนแหวะ) มากกว่าหนังซอมบี้ทุกเรื่องที่ดูมา หนังรุนแรงมาก ใครไม่ชอบจุดนี้ ก็คงต้องหลับตา หรือข้ามเรื่องนี้ไป แต่ถ้าเคยชินกับภาพการเกาะตำแหน่งของรัฐมนตรีบ้านเราซึ่งชวนแหวะมากกว่าหลายเท่า ก็คงดูหนังเรื่องนี้ได้สบาย
8/10
ฉายในโรงภาพยนตร์วินทร์ เลียววาริณ
24-6-25วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
(มาตรการให้คะแนนของ วินทร์ เลียววาริณ : ความคิดสร้างสรรค์ + สาระ + ศิลปะการเล่าเรื่อง)
0- แชร์
- 24
-
หลายวันนี้ผมเขียนบทบาทด้านลบของการเมืองสหรัฐอเมริกาหลายตอน ขอบอกว่าผมไม่ได้เขียนเพราะเกลียดอเมริกัน ว่ากันตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ล้วนๆ และก็ไม่ได้สรุปว่าสหรัฐฯเลวทั้งประเทศ
แค่บอกว่านักการเมืองของเขาเลวใช้การได้เลย
ผมเคยไปเรียนและทำงานที่สหรัฐฯ เรียนรู้มากมายจากประเทศนี้ ยุคที่ผมไปอยู่ที่นั่น ยังไม่มีกระแส Asiaphobic ผลักชาวเอเชียตกรางรถไฟ อเมริกันที่ผมรู้จักก็เป็นคนที่ฉลาด นิสัยดี คบหาได้
สหรัฐฯมีนักคิด นักวิทยาศาสตร์ คนทำงานสร้างสรรค์นับไม่ถ้วน สร้างประโยชน์ให้ชาวโลกมหาศาล อเมริกามีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก มหาวิทยาลัย Top 10 เป็นของสหรัฐฯเสียกว่าครึ่ง อเมริกาเป็นประเทศที่ได้รับรางวัลโนเบลมากที่สุดในโลก อเมริกันคิดค้นอะไรใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลา เพราะสังคมแบบ American Dream เอื้อให้คนคิดสร้างสรรค์เต็มที่ เพราะรู้ว่ามีสิทธิ์รวยได้
นี่คือจุดแข็งของอเมริกา
แต่จุดอ่อนคือนักการเมือง ในมุมมองที่ผมเห็น การเมืองสหรัฐฯดูเหมือนไปทิศทางเดียวมาตลอด สกปรกโสมมสม่ำเสมอ
ที่พูดอย่างนี้ก็เพราะเมื่อเทียบกับประเทศจีนที่ล้าหลังกว่าหลายปีแสง จีนใช้เวลา 40 ปีสร้างประเทศจากศูนย์ ดึงคนพ้นความยากจนหลายร้อยล้านคน สร้างทางรถไฟ สร้างโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ เปลี่ยนทะเลทรายเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ฯลฯ แต่ 40 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯยังไม่มีรถไฟความเร็วสูง (bullet trains) สักสายเดียว ยาเสพติดระบาด ปืนเกลื่อนเมือง ฆ่าหมู่เป็นประจำ ความเหลื่อมล้ำในสหรัฐฯสูงมาก (อาจเพราะเหตุนี้หรือไม่ที่ประเทศนี้เต็มไปด้วยซูเปอร์ฮีโร?)
ในเมื่อสหรัฐฯเต็มไปด้วยคนเก่ง วิทยาการสูงส่ง ทำไมบ้านเมืองจึงเป็นอย่างที่เป็น?
ในคหสต. คำตอบก็น่าจะคือนักการเมือง เพราะแทนที่จะเอาสมองชั้นยอดไปพัฒนาประเทศ กลับไปพัฒนาอาวุธ ก่อสงครามทุกมุมโลก นักการเมืองกระเหี้ยนกระหืออยากทำสงคราม ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าทำไปทำไม เหมือนได้รับใบสั่งมา
สหรัฐฯมีฐานทัพนอกประเทศอย่างน้อย 128 แห่งทั่วโลก สหรัฐฯวีโต้คว่ำทุกมติของนานาชาติ (โดยเฉพาะมติที่ไม่เป็นผลดีต่ออิสราเอล) ส่งอาวุธไปร่วมโรงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา ถอนตัวจากการแก้ปัญหาโลกร้อน ไม่แยแสกฎระเบียบนานาชาติ ไม่สนใจความชอบธรรม ความยุติธรรม มนุษยธรรม
นี่ไม่ได้พูดเพราะอารมณ์พาไป นี่ว่าตามหลักฐานที่ปรากฏ นี่ก็คือภาพที่ชาวโลกเห็น
เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นไม่ว่าที่มุมไหนในโลก โฆษกทำเนียบขาวก็มักจะโผล่หน้ามาเอ่ย "เราเป็นห่วงสถานการณ์ที่ประเทศยูจังเลย"
แต่กลับไม่ห่วงประเทศตัวเอง ไม่ได้ห่วงว่าทำไมชาวอเมริกันจ่ายภาษีไปเป็นค่าอาวุธไปให้ชาติอื่นเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
จะรู้ว่ามันเริ่มต้นมาได้อย่างไร ก็ต้องศึกษาประวัติศาสตร์
สงครามโลกครั้งที่สองน่าจะเป็นจุดเปิด Pandora's box เมื่อประเทศในยุโรปพังพินาศ ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกล้มระเนระนาด แต่อเมริกาปลอดภัย ด้วยแสนยานุภาพทางทหาร ทันใดนั้นอเมริกาก็มองเห็นโอกาสที่จะเป็นเจ้าโลก
สหรัฐฯต่อสู้กับโซเวียตในช่วงสงครามเย็นยาวนาน สมัยผมเป็นเด็ก สำนักข่าวสารอเมริกันพิมพ์นิตยสารแจกคนไทย มีทั้งความรู้และโฆษณาชวนเชื่อผสมกัน โดยเฉพาะเรื่องภัยคอมมิวนิสต์ ตอนนั้นเด็กไทยกลัวคอมมิวนิสต์ คิดว่าเป็นผีชนิดหนึ่ง จับเด็กไปฆ่า
เด็กไทยก็โตมาแบบนี้ มีภาพว่าอเมริกาคือมหามิตร
จนเมื่อโซเวียตล้ม (เพราะตัวมันเอง ไม่ใช่เพราะสหรัฐฯ) สหรัฐฯก็กลายเป็น Unipolar power ใหญ่แต่เพียงผู้เดียวในโลกา แต่ไม่สบายใจเมื่อจีนมาหายใจรดต้นคอ ซึ่งเป็นภาคบังคับ เพราะเศรษฐกิจจีนจะใหญ่กว่าสหรัฐฯในไม่กี่ปีข้างหน้า
นี่ก็คือเหตุผลที่ผู้นำสหรัฐฯต้องตีประเทศจีนสามเวลาหลังอาหาร เสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการเพ่ิมรอบเช้า 10.00 น.
และนี่ส่งผลย้อนกลับ (backfire) เช่น การสกัดจีนเรื่องชิปยิ่งทำให้จีนรีบพัฒนาชิปเร็วขึ้นกว่าเดิม
อเมริกาเป็นประเทศที่รวมทั้งคนดีและคนไม่ดี มีบริษัทยาที่ค้ากำไรเกินควร แต่ก็มีคนอย่าง โจนาส ซอล์ค (Jonas Salk) ที่คิดค้นวัคซีนโรคโปลิโอสำเร็จ แล้วมอบให้ชาวโลกโดยไม่รับสิทธิบัตร มีคนอย่าง จอร์จ โซรอส ที่คนไทยจดจำได้ดีจากเหตุการณ์ต้มยำกุ้ง แต่ก็มีคนใจบุญอย่าง ชัค ฟีนีย์ (Chuck Feeney) ที่สร้างมหาวิทยาลัยไปทั่วโลก
ความสัมพันธ์ของชาวโลกกับสหรัฐฯจึงเป็น love-hate relationship เรายอมรับความเก่งของเขา แต่เราก็กลัวความบ้าของเขา ไม่มีชาติใดในโลกอยากรบกับอเมริกัน ไม่มีใครอยากสู้กับหมาบ้า
ลีกวนยูเคยบอกว่า "ถามว่าผมอยากเหมือนอเมริกาไหม ใช่ ในด้านความสามารถประดิษฐ์คิดค้น ในด้านความคิดสร้างสรรค์... แต่อเมริกาที่ไร้ความสามารถควบคุมปัญหายาเสพติด - ไม่อยาก! หรือปัญหาปืน ไม่อยาก!"
ในปี 1961 สิงคโปร์จับซีไอเอสามคนข้อหาล้วงความลับ อเมริกาเสนอให้หนึ่งล้านแก่พรรค PAP ของลีกวนยูเพื่อให้ปล่อยตัวคนของตน ลีกวนยูบอกว่า “อเมริกาซื้อผู้นำเวียดนามและประเทศอื่น ๆ มากจนคิดว่าผู้นำทุกคนในโลกซื้อได้หมด”
ลีกวนยูบอกว่าปัญหาของพวกตะวันตกคือ "hubris" (กร่าง โอหัง) hubris นี่จะทำลายตัวเอง
คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ใช่คนเลวร้าย แต่ไม่ต่างจากไทยหรือประเทศอื่นๆ จะพัฒนาการเมืองอเมริกาได้ ก็ต้องพัฒนาคนก่อน
ในคหสต. ปัญหาของคนอเมริกันคือความรู้รอบตัวต่ำมาก เมื่อได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน นักการเมืองพันธุ์กระหายเลือดก็ยังคงอยู่ได้ต่อไป และทำให้โลกป่วน สหรัฐฯสามารถยุติสงครามใหญ่ๆ ในวันนี้ได้ในอึดใจเดียว แต่เลือกไม่ทำ
โลกเรากว้างใหญ่พอที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ แต่ไม่ใหญ่พอสำหรับพวกที่มีอีโก้สูงกว่าภูเขาเอเวอเรสต์ และความโลภลึกกว่า Mariana Trench
ไม่ว่าจักรวรรดิอเมริกาจะยิ่งใหญ่แค่ไหน วันหนึ่งมันก็เสื่อมและล้ม (บางคนว่ามันอยู่ในช่วงสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว) นี่ไม่ได้แช่ง แต่มันเป็นสัจธรรมโลก ประวัติศาสตร์หลายพันปีนี้สอนเราว่า ทุกจักรวรรดิล่มสลายเสมอ จำนวนมากล่มเพราะตัวเอง จักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิอังกฤษ ("อาทิตย์ไม่เคยตกดิน") ล้วนล่มสลายไปเรียบร้อยแล้ว
มันเป็นสัจธรรมเช่นนั้นเอง
วินทร์ เลียววาริณ
25-6-25(ภาพจาก Apocalypse Now)
0 วันที่ผ่านมา -
คอมพิวเตอร์บอกผมว่า วันนี้ผมอยู่ในโลกนี้เป็นวันที่ 25,296
ตามแนวเซน เมื่อคืนนี้เป็น 'การตาย' ครั้งที่ 25,295
และวันนี้เป็นวันเกิดครั้งที่ 25,296
โชคดีที่ได้มองดูโลกอีกครั้ง
สำหรับคนทั่วไป ใช้ชีวิตมาสองหมื่นกว่าวัน ถือว่าไม่น้อย
สองหมื่นกว่าวันทำอะไรได้มากมาย
นานๆ ทีเราก็ควรถามตัวเองว่าเราอยู่มานานเท่าไร เรามีความสุขไหม ถ้าไม่ ทำไมจึงไม่มีความสุข
นานๆ ทีเราก็ควรถามตัวเองว่าเราอยู่มานานเท่าไร ทำอะไรมาบ้าง และจะทำอะไร ถ้าไม่เคยทำอะไรดีๆ เลย ก็น่าจะใช้โอกาสนี้บอกตัวเองว่า ทำอะไรสักหน่อยดีไหม
Today is the first day of the rest of your life.
สุขสันต์วันเกิดครับ
เริ่มต้นวันเกิดใหม่ด้วยรอยยิ้มดีไหม?
วินทร์ เลียววาริณ
วันเกิดครั้งที่ 25,296.......................
เว็บไซต์ที่คำนวณอายุเป็นจำนวนวัน
https://jalu.ch/coding/days/en0 วันที่ผ่านมา -
ข่าวที่จะเล่าต่อไปนี้ไม่ค่อยเผยแพร่ในวงกว้างเท่าไร คือข่าวอิหร่านโจมตีฐานทัพอเมริกันในกาตาร์
หลังจากทรัมป์ทิ้งระเบิดหลายลูกใส่ 'ฐานนิวเคลียร์' ที่อิหร่าน อิหร่านก็ยิงขีปนาวุธหกลูกใส่ฐานทัพอเมริกันที่ Al-Udeid กาตาร์เพื่อสั่งสอน ให้รู้ว่าไผเป็นไผ
ก่อนยิงก็แจ้งฝ่ายสหรัฐฯว่า "กูจะยิงแล้วนะ"
ดังนั้นสหรัฐฯก็ถอนคนออกไปทัน
จึงถือว่านี่เป็นการตอบโต้เชิงสัญลักษณ์
ที่ตลกก็คือทรัมป์ยังออกมาขอบคุณอิหร่านที่เตือนก่อน!
หลังจากนั้นก็ประกาศว่าสองฝ่ายตกลงยุติการตบตีกันแล้ว
ชาวโลกก็มีอาการงงว่าเกิดอะไรขึ้น นี่มันละครหรือเปล่า เพราะพล็อตเรื่องนี้มันแปลกๆ
ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวจะไปถามท่านรัฐมนตรีรักชาติ เชื่อมั่นว่าท่านน่าจะรู้ เพราะผลตรวจ MRI สมองท่านน่าจะผิด
ราตรีสวัสดิ์
วินทร์ เลียววาริณ
24-6-251 วันที่ผ่านมา -
จากโพสต์ก่อน บางคนถามว่า สหรัฐฯเคยก่อรัฐประหารในไทยบ้างไหม
คำตอบคือ โดยตรงๆ ยังไม่ชัด ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดน่าจะเป็นกรณีจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากจอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่ติดเรื่องสุขภาพและภาพลักษณ์ จึงให้คนอื่นเป็นนายกฯขัดตาทัพก่อน
เช้าตรู่ ๐๗.๓๕ น. ปลายเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๐๑ จอมพลสฤษดิ์บินจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา
หัวหน้าคณะปฏิวัติเดินทางไปถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. วันที่ ๒๗ มกราคม เป็นการเยือนอย่างไม่เป็นทางการ เหตุผลเพื่อเข้ารับการผ่าตัดม้ามที่โรงพยาบาล Walter Reed Army Medical Center
การเดินทางเที่ยวนี้ นอกจากการรักษาสุขภาพ ยังเป็นการเข้าพบผู้นำและรัฐมนตรีสหรัฐฯหลายคน เช่น ประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ (Dwight D. Eisenhower) นีล แมคเอลรอย (Neil H. McElroy) รัฐมนตรีกลาโหม จอห์น ฟอสเตอร์ ดัลเลส (John Foster Dulles) รัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายสหรัฐฯคุยเรื่องความช่วยเหลือด้านการทหาร การพัฒนาเศรษฐกิจแก่ไทยและแผนต่อต้านคอมมิวนิสต์
สหรัฐฯจ่ายค่ารักษาจอมพลสฤษดิ์ทั้งหมด และยังมอบเงินช่วยเหลือไทยจำนวนมาก
มีทฤษฎีว่าสหรัฐฯไม่ปลื้มกับจอมพล ป. และหนุนหลังจอมพลสฤษดิ์ แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าสหรัฐฯเกี่ยวข้องโดยตรง
แต่การที่จอมพลสฤษดิ์สามารถเข้าพบประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ได้ ก็บอกอะไรหลายอย่าง ชิมิ?
วินทร์ เลียววาริณ
24-6-25....................
อ่านรายละเอียดการยึดอำนาจของจอมพลสฤษดิ์ได้จากชุด ประวัติศาสตร์ที่เราลืม
1 วันที่ผ่านมา -
เช้านี้ตื่นขึ้นมาเห็นข่าวทรัมป์ประกาศว่า สงครามอิสราเอล-อิหร่านจบแล้วนะ ก็คอยดูกันต่อไป เพราะที่ถูกน่าจะเรียกว่าสงครามสหรัฐฯ-อิหร่าน
สิ่งหนึ่งที่ชาวโลกจำนวนมากไม่รู้คือ ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-อิหร่านเริ่มมานานก่อนเหตุการณ์อิหร่านจับชาวเมริกัน 66 คนเป็นตัวประกันในปี 1979 (ถูกสร้างเป็นหนังเรื่อง Argo)
หลายคนไม่รู้ว่าเหตุการณ์ปี 1979 มีรากมาจากเหตุการณ์ปี 1953 คือรัฐประหารในอิหร่านในปี 1953 โดยสหรัฐฯและอังกฤษ
ฟังไม่ผิดหรอกครับ คนทำรัฐประหารคือ CIA + MI6
เหตุการณ์นี้ก็ถูกสร้างเป็นหนังสารคดีชื่อ Coup 53
แม้เป็นหนังสารคดี แต่มีการแสดงบางส่วน เล่นโดย Ralph Fiennes หนังได้รับรางวัลมากมาย และเช่นเคย หนังแบบนี้ไม่เข้าบ้านเรา
เอาละ คำถามคือเกิดอะไรขึ้น?
ตอบสั้นๆ คือน้ำมัน
ความวุ่นวายในตะวันออกกลางมาจากน้ำมัน ถ้าตะวันออกกลางไม่มีน้ำมัน อเมริกัน อังกฤษก็ไม่เข้าไปให้เมื่อย
ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 อังกฤษไปกอบโกยน้ำมันจากอิหร่านจำนวนมหาศาล ก่อตั้งบริษัท BP Oil หรือ British Petroleum
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อนายกฯอิหร่าน Mohammad Mosaddegh ต้องการให้น้ำมันเป็นผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ (nationalist policies)
อังกฤษเห็นว่าหาก Mohammad Mosaddegh ทำให้น้ำมันเป็นของชาติอย่างเดียวได้สำเร็จ จะเป็นตัวอย่างที่ทำให้ชาติที่มีน้ำมันอื่นๆ ทำตาม เช่น คูเวต ซาอุดิอาระเบีย อินโดนีเซีย ฯลฯ จะคุมประเทศอื่นได้ยาก ยอมไม่ได้เด็ดขาด
ยอมไม่ได้ก็ต้องล้มรัฐบาล
อังกฤษเข้าหาสหรัฐฯ ขอให้ช่วยที ตอนนั้นเป็นยุคของทรูแมน (คนสั่งทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ) ทรูแมนลังเล พอนายพล ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ก็ตกลง อนุญาตให้ดำเนินการ ส่งซีไอเอไปทำงานร่วมกับ MI6 ชื่อปฏิบัติการ Operation Ajax
ซีไอเอที่ส่งไปเป็นหลานประธานาธิบดีรูสเวลต์ ชื่อ Kermit Roosevelt Jr.
Kermit Roosevelt ไม่รู้เรื่องอิหร่านใดๆ ทั้งสิ้น แต่รับเครดิตไปเต็มๆ ส่วนคนทำงานจริงๆ คือ MI6 เป็นคนอังกฤษที่โตที่ตะวันออกกลาง ชื่อ Norman Darbyshire (ในหนังสารคดีเรื่อง Coup 53 แสดงโดย Ralph Fiennes)
การก่อรัฐประหารครั้งนี้ สหรัฐและอังกฤษว่าจ้างนักเดินขบวน ใช้ลูกเล่น กลอุบายทุกชนิด สร้างสถานการณ์ว่าพวกคอมมิวนิสต์กำลังจะมา เกิดความรุนแรง มีคนตาย
รัฐประหารสำเร็จ สหรัฐฯให้ชาห์ขึ้นมามีอำนาจ
จะเห็นว่าประชาธิปไตยในอิหร่านหายไปได้อย่างไร เพราะใคร และเพราะอะไร
หลังจากปฏิบัติการครั้งนี้สำเร็จ อเมริกันก็ช่วยก่อรัฐประหารอีกหลายประเทศ เช่น กัวเตมาลา (1954) ชิลี (1973) เวียดนาม (นายพลเวียดนามใต้ทุกคนที่จะก่อรัฐประหารต้องขออนุญาตวอชิงตันก่อน) ฯลฯ บางครั้งก็ไม่สำเร็จ เช่น ปฏิบัติการ Bay of Pigs โดย จอห์น เอฟ เคนเนดี
ใช่ เจ้าพ่อรัฐประหารตัวจริงก็คือพี่เบิ้มของเรานี่เอง
อุดมคติทางการเมืองเป็นแค่ภาพมายา ทุกอย่างอยู่ที่ผลประโยชน์ ทุกอย่างเป็นธุรกิจการเมือง
วินทร์ เลียววาริณ
24-6-251 วันที่ผ่านมา