-
วินทร์ เลียววาริณ1 ปีที่ผ่านมา
ปราชญ์ทางวิชาการต่อสู้จัดวิทยายุทธ์เส้าหลินของปรมาจารย์ตั๊กม้อแห่งเทือกเขาซงซานเป็นแนววิชากำลังภายนอก ขณะที่วิทยายุทธ์แห่งสำนักอู่ตัง (บู๊ตึง) ของนักพรตเต๋าปรมาจารย์จางซานเฟิง (เตียซำฮง) ณ เทือกเขาอู่ตังในหูเป่ยเป็นแนววิชากำลังภายใน ทั้งเส้าหลินและอู่ตังถือเป็นสองสำนักมาตรฐานแห่งแผ่นดิน
วัดเส้าหลินตั้งอยู่บนเทือกเขาซงซาน (ซงซัว) เส้า เป็นชื่อภูเขา หลิน แปลว่า ป่า มีความหมายถึงสถานปฏิบัติธรรมในป่าแห่งภูเขาเส้า
ปรมาจารย์คนแรกของวัดเส้าหลินก็คือ พระโพธิธรรม หรือที่คนจีนเรียก ตั๊กม้อ นามนี้ปรากฏในนิยายจีนกำลังภายในนับไม่ถ้วนในฐานะจอมยุทธ์ผู้ให้กำเนิดคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น คัมภีร์ล้างกระดูก และสิบแปดฝ่ามืออรหันต์
ชาวโลกรู้จักวัดเส้าหลินว่าเป็นที่กำเนิดวิชาการต่อสู้ของจีนมาราวหนึ่งพันห้าร้อยปี เป็นสัญลักษณ์ของวิทยายุทธ์และนิยายจีนกำลังภายใน
นานปีหลังจากยุคของปรมาจารย์ตั๊กม้อ พระวัดเส้าหลินถือเป็นหน้าที่ที่จะใช้วิทยายุทธ์ปกป้องแผ่นดิน เช่นการต่อสู้ในสงครามหู่เหลา (ค.ศ. 621) อันเป็นต้นกำเนิดของราชวงศ์ถัง ไปจนถึงการต่อสู้ขับไล่พวกโจรสลัดวาโกะจากญี่ปุ่นที่รุกรานชายฝั่งจีนในศตวรรษที่ 16 ฯลฯ
ตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัดแห่งนี้ถูกเผาทำลายและสร้างใหม่หลายต่อหลายครั้ง ตำนานการทำลายครั้งใหญ่ที่สุดคือในปี ค.ศ. 1644 โดยรัฐบาลชิง เนื่องจากพระวัดเส้าหลินต่อต้านราชวงศ์ชิง หมายฟื้นฟูราชวงศ์หมิง ประวัติศาสตร์ท่อนนี้กลายเป็นตำนานที่ทำให้วิทยายุทธ์เส้าหลินระบือไกล จนทำให้คำว่า เส้าหลิน ยิ่งยึดแน่นเป็นเรื่องของการต่อสู้ทางกาย อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์จำนวนหนึ่งเห็นว่า ความเชื่อว่าพระโพธิธรรมเป็นผู้ให้กำเนิดวิทยายุทธ์เส้าหลินน่าจะเป็นตำนานมากกว่าเรื่องจริง บ้างก็ว่าเรื่องราววิทยายุทธ์ของพระโพธิธรรมนั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นหลัง ไม่ว่าอย่างไร ตำนานนี้ก็ฝังรากลึกในความเชื่อของคนทั่วไปเสียแล้ว
ความจริงก็คือวัดเส้าหลินเป็นต้นกำเนิดของเซน ซึ่งเป็นสายธารใหม่ที่แตกแขนงมาจากพุทธนิกายมหายานรวมกับเต๋า และปรมาจารย์ตั๊กม้อนั้นที่จริงแล้วเป็นถึงพระสังฆปริณายกแห่งจีน ซึ่งสืบสายมาจากพระพุทธองค์
ยังไม่มีการยืนยันที่มาของพระโพธิธรรมอย่างแน่ชัด แต่ตำราที่น่าเชื่อถือได้ชี้ว่า พระโพธิธรรมน่าจะเป็นเจ้าชายแคว้นคันธารราษฎร์ อินเดีย
อินเดียในสมัยโบราณเรียกว่า ชมพูทวีป มีอาณาเขตคลุมเจ็ดประเทศในปัจจุบัน คือ อินเดีย ปากีสถาน เนปาล ภูฏาน ศรีลังกา บังคลาเทศ และอัฟกานิสถานในปัจจุบัน
แผ่นดินอัฟกานิสถานในเวลานั้นเรียกว่า คันธารราษฎร์ เมืองหลวงคือ คันธาระ (ปัจจุบันเรียก กันดาฮาร์) ต่อมาพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งกรีกทรงพิชิตอาณาจักรเปอร์เซีย บางส่วนของอินเดีย รวมทั้งคันธารราษฎร์ ชาวกรีกได้ปกครองคันธาระนานหลายร้อยปี จนมาถึงสมัยของกษัตริย์กรีกนามพระเจ้าเมนันเดอร์ หรือพญามิลินท์ ทรงสนพระทัยในปรัชญา
ครั้งหนึ่งทรงพบพระนาคเสนมหาเถระปักกลดอยู่ และทรงสนทนาธรรมทั้งคืน จนถึงรุ่งเช้าก็ทรงปวารณาตนเป็นพุทธมามกะ บทปุจฉา-วิสัชนาครั้งนั้นได้รับการบันทึกเป็นพระสูตรที่เรียกว่า มิลินทสูตร หรือ มิลินทปัญหา
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ศาสนาพุทธในคันธารราษฎร์ก็เจริญรุ่งเรืองมาก มีการหล่อพระพุทธรูปปางคันธารราษฎร์ พระพักตร์และรูปทรงแบบเทวรูปกรีก นอกจากนี้ยังมีการสลักพระพุทธยืนตามภูเขา เมื่อพวกตาลีบันครองอัฟกานิสถาน ได้ทำลายพระพุทธรูปเหล่านี้ไปแทบหมดสิ้น
(อ่านตอนต่อสัปดาห์หน้า)
จาก มังกรเซน ฉบับปรับปรุง หนังสือเซนที่ต้องค่อยๆ ละเลียด ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ + ของแถม limited edition Zen Book สั่งได้ที่เว็บ winbookclub.com หรือ Shopee (ค้นคำ namol113 หรือ วินทร์ เลียววาริณ)
0- แชร์
- 201
-
แจ้งให้ทราบว่าโปรโมชั่นชุดนี้จำต้องยุติ เพราะมีหนังสือไม่ครบ 10 เล่ม แต่ยังขายแยกเล่มที่เหลือตามปกติ
งานหนังสือมีอีกสองวัน จบพรุ่งนี้ บูธ วินทร์ เลียววาริณ F-21 นักเขียนไปตอนเที่ยงกับเย็น
0 วันที่ผ่านมา -
เมื่อ 31 ปีก่อน มีเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งปรากฏบนหน้านิตยสารไทยเล่มหนึ่ง ชื่อเรื่อง กุหลาบสีแดงกับเที่ยวบินสุดท้าย ใต้ชื่อเรื่องพิมพ์ว่า "แปลโดย วินทร์ เลียววาริณ"
ผมก็แปลงานฝรั่งด้วยหรือ? หามิได้ มันเป็นเรื่องที่ผมเขียนเอง แต่คนคัดเลือกต้นฉบับหรือบรรณาธิการอาจคิดว่า เรื่องนี้ไม่ใช่คนไทยเขียนแน่
กุหลาบสีแดงกับเที่ยวบินสุดท้าย เป็นเรื่องสั้นไซไฟ ฉากอวกาศ ตัวละครเป็นชาวตะวันตก มองเผินๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ฝรั่งเขียน
เป็นกรอบคิดว่า คนไทยก็ต้องเขียนเรื่องไทยๆ
ดังนั้นจึงไม่ค่อยแปลกใจที่เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ผมบอกว่าจะเขียนนิยายจีนกำลังภายใน บางคนปรามว่าอย่าเขียน เพราะคนไทยจะไปเขียนเรื่องจีนสู้คนจีนได้อย่างไร บางคนก็อาจลังเล เพราะไม่แน่ใจว่าคนไทยเขียนงานสายนี้ได้
นี่ก็เป็นกรอบคิดว่า ผมจะเขียนเรื่องแข่งกับคนจีน หามิได้ ผมแค่ทำโครงการสนุกๆ รำลึกอดีตโครงการหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้แข่งกับใคร
เอาละ เราอาจต้องสำรวจดูวงการวรรณกรรมว่ามีกรณีแบบนี้บ้างไหม
คำตอบคือมากมาย!
กามนิต นวนิยายอิงพระพุทธศาสนา เขียนโดยชาวเดนมาร์ก และเขียนได้ดีด้วย
สิทธารถะ เขียนโดยชาวเยอรมัน ตัวละครเป็นอินเดีย มีพระพุทธเจ้าด้วย
สองเรื่องนี้สุดยอด!
เรื่อง ตัวจึงตายเพราะได้เมียฝรั่ง เรื่องของคนไทย เขียนโดยชาวอังกฤษ
เรื่อง โชกุน เกี่ยวกับญี่ปุ่น เขียนโดยคนอังกฤษ
The Remains of the Day เรื่องคนอังกฤษ เขียนโดยคนญี่ปุ่น
เรื่อง ดาวซานถี่ เขียนโดยคนจีน สร้างเป็นหนังฝรั่ง
มาเทียบโลกนิยายจีนกำลังภายในบ้าง อุนสุยอัน คนเขียน พยากรณ์ประกาศิต ก็ไม่ใช่คนจีนแผ่นดินใหญ่ หรือฮ่องกง เป็นคนมาเลย์
นี่บอกว่าเรื่องจะดีหรือไม่ ต้องวัดกันที่เนื้อผ้า วัดที่ค่าของงาน ไม่ใช่สัญชาติของนักเขียน
โชคดีที่ไม่ทุกเรื่องของผมที่เขียนเรื่องฝรั่งแล้วถูกปิดป้าย "แปลโดย วินทร์ เลียววาริณ"
เรื่องสั้นไซไฟ The Other Side of the Black Hole ของผม ตัวละครเป็นชาวตะวันตก เมื่อลงในนิตยสารไซไฟเยอรมัน ก็พิมพ์ว่า "เขียนโดย วินทร์ เลียววาริณ"
วินทร์ เลียววาริณ
18-10-25...............
สี่ภพ เป็นนิยายจีนกำลังภายใน+ไซไฟ ผลงาน 5 ปีของ วินทร์ เลียววาริณ
จำหน่ายในงานหนังสือและทางออนไลน์
งานหนังสือบูธ F-21 (ราคา 2,300.- ถ้ารับกลับเอง)ซื้อผ่าน Shopee กดลิงก์ https://s.shopee.co.th/2LPBgEyqPg?share_channel_code=6
ซื้อผ่านเว็บไซต์ วินทร์ เลียววาริณ กดลิงก์
https://www.winbookclub.com/store/detail/255/%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A0%E0%B8%9Eอีบุ๊ค จัดจำหน่ายโดยบริษัท The Meb ทั้งแยกเล่มและรวมชุด (สำนักพิมพ์ 113 ไม่ได้จำหน่าย) https://www.theonebook.com/index.php?action=search_book&page_no=1
0 วันที่ผ่านมา -
ปราชญ์กรีก Heraclitus กล่าวว่า “ไม่มีผู้ใดก้าวลงแม่น้ำสายเดิมซ้ำสองครั้ง เพราะมันมิใช่แม่น้ำสายเดิม และเขาก็ไม่ใช่คนเดิม”
เคยถามตัวเองบ้างไหมว่า เราเปลี่ยนไปแค่ไหน ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวันนี้
เราในวัยเด็กกับเราในวัยโตก็มีโลกทัศน์ต่างกัน เพราะความรู้ ประสบการณ์ชีวิต หล่อหลอมให้ต่างกัน
เราเป็นคนเดิมที่ไม่เหมือนเดิม
บทความใหม่วันเสาร์ คลิกลิงก์อ่านได้เลย https://www.blockdit.com/posts/689d6814a2f6e3338865e4ee
0 วันที่ผ่านมา -
ลูกค้าสองคนนี้เป็นขาประจำร้านพับผ่ามานานปี อายุคนทั้งสองก็พอกับข้าพเจ้า เป็นไม้ใกล้ฝั่ง
ข้าพเจ้าถามลูกค้า "คุยกันเรื่องอะไรครับ?"
"คุยว่าจะแก้ส่วนไหนดี แก้ท่อนบนหรือท่อนล่าง หรือแก้หมด"
ข้าพเจ้าหัวเราะ "นี่คุยเรื่องหนังโป๊แล้วหรือครับ?"
"เปล่า เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เรากำลังถกกันว่าเราควรแก้รัฐธรรมนูญหรือเปล่า?"
"จะแก้ท่อนบนหรือท่อนล่าง หรือแก้หมด อยู่ที่นักการเมืองไม่ใช่หรือ?"
"นักการเมืองบอกว่าให้ประชาชนตัดสิน ทำประชามติน่ะ”
"ถ้าประชามติไม่ให้แก้?"
"ก็เสนอใหม่ แล้วทำประชามติอีก"
"ดื่มเหล้าดีกว่ามั้ง"
ลูกค้าหัวเราะ "จริง มีอะไรน่าสนใจ"
ข้าพเจ้าว่า "มาทำประชามติค็อคเทลรัฐธรรมนูญดีกว่ามั้ง ดูว่าแก้วไหนดีที่สุด แก้วแรกคือค็อคเทลรัฐธรรมนูญ หรือ The Constitution cocktail ทำด้วย dry gin ผสม blueberry ผสมchamomile และขิง"
หลังจากลูกค้าดื่มรัฐธรรมนูญแก้วแรกเข้าไปแล้ว ข้าพเจ้าก็ผสมแก้วที่สอง Constitution Cooler ทำด้วยวิสกี้เบอร์เบิน ผสม cucumber syrup น้ำมะนาว น้ำผึ้ง น้ำแข็ง
การทำประชามติรัฐธรรมนูญแก้วที่สองหายจบลงท้องอย่างรวดเร็ว
ลูกค้าว่า "ดื่มรัฐธรรมนูญอร่อยกว่าทำประชามติจริงๆ นะ"
"เมืองไทยเราชอบแก้ที่ปลายเหตุ ดูเหมือนใครก็ตามที่ขึ้นมาเป็นใหญ่ เป็นต้องรื้อ อ้างเหตุผลเดิมๆ"
"เมืองไทยแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จมาแล้ว 22 ครั้ง ผมอายุปูนนี้แล้ว ยังไม่เคยเห็นนักการเมืองทำอะไรเพื่อประชาชนจริงๆ และชอบขี่ช้างจับตั๊กแตน"
ข้าพเจ้าถาม "ยังไง?"
เขาย้อนถามกลับ "เราแก้รัฐธรรมนูญเพื่ออะไร?"
"เพื่อให้ประเทศดีขึ้น - มั้ง?"
"จริง แต่ความจริงมันมีวิธีแก้ที่ได้ผลดีกว่านั้น"
"ยังไง?"
"แก้นิสัยคนก่อน เพราะจากประวัติศาสตร์ ต่อให้รัฐธรรมนูญฉบับที่คนส่วนใหญ่บอกว่าดีที่สุด ก็ยังถูกปู้ยี่ปู้ยำ ปัญหาไม่ใช่ตัวหนังสือ ปัญหาคือคน"
"แล้วจะแก้คนอย่างไร?"
"การศึกษาที่สร้างปัญญา ให้คิดเป็น การสร้างคนรุ่นใหม่ให้รังเกียจคอร์รัปชั่น"
"ถ้าคุณเป็นคนร่างรัฐธรรมนูญ คุณจะเน้นอะไร?"
"ผมจะเขียนว่า การคอร์รัปชั่นคือการขายชาติ โทษต้องประหารชีวิตอย่างเดียว ประเทศไทยจะกลายเป็น failed state ก็เพราะคอร์รัปชั่นนี่แหละ"
ลูกค้าอีกคนว่า "เอ้า! ยังมีค็อคเทลให้ทำประชามติมั้ย?"
ข้าพเจ้าตอบ "มีอีกแก้ว ชื่อ Constitution Hound"
"Hound แปลว่าอะไร?"
"หมาล่าเนื้อ"
"โอ! แปลตรงตัวว่าสุนัขล่ารัฐธรรมนูญใช่ไหม?"
ข้าพเจ้าตอบ "ผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่ามันทำด้วยเหล้าไรย์ ผสม Campari ผสม Fernet Branca ผสม Bigallet China-China ผสม Absinthe"
สุนัขล่ารัฐธรรมนูญหมดลงท้องอย่างรวดเร็ว
ข้าพเจ้าถาม "ตกลงแก้วไหนผ่านประชามติ?"
"อืม! ผมเมารัฐธรรมนูญเกินไปที่จะตอบแล้ว"
วินทร์ เลียววาริณ
17-10-25..................
หมายเหตุ เหล้าทั้งหมดนี้มีจริง
พับผ่า! บาร์เทนเดอร์ (The Bartender Series 1) มีจำหน่ายแล้วในรูปอีบุ๊ค สนใจดูได้ในเว็บ The Meb
1 วันที่ผ่านมา -
ในงานหนังสือรอบนี้ มีผู้อ่านไม่น้อยไม่รู้ว่า สี่ภพ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ทำไมอยู่ดีๆ นึกเขียนเรื่องแนวนี้
ก็ขอเล่าซ้ำหน่อย ท่านที่รู้แล้ว ก็ข้ามไปได้
ราวปี พ.ศ. ๒๕๔๕-๒๕๔๖ ผมเขียนคอลัมน์ชื่อ ำ (อำ) ที่มติชนสุดสัปดาห์ คอนเส็ปต์ของคอลัมน์นี้คือหาเรื่องมาอำผู้อ่าน ในรูปสารคดีผสมเกม
นั่นคือนานก่อนยุคเฟกนิวส์ระบาด
เกมคือให้ผู้อ่านคาดเดาว่าเรื่องที่ผมเขียนเป็นเรื่องจริงหรืออำ
ใน ำ ตอนแรกผมอำว่ามีนวนิยายกำลังภายในเรื่องหนึ่ง เป็นซีรีส์สี่เล่ม ชื่อ เป่ย หนาน ตง ซี เป็นงานนิยายกำลังภายในผสมไซไฟ โด่งดังมากที่ฮ่องกง และ น. นพรัตน์ กำลังแปลเป็นไทย จบเรื่องว่า นี่เป็นการอำเล่นสนุก ๆ ผลคือหลายคนหงุดหงิด
อำหนักไปหน่อย!
วันหนึ่ง น. นพรัตน์ บอกผมว่ามีคนถามเขาเสมอว่า เมื่อไรจะแปล เป่ย หนาน ตง ซี เสร็จ ตลอดหลายปีหลังจากนั้น มีผู้อ่านมาคาดคั้นผมให้ผมลงมือเขียนจริง ๆ
“เพื่อชดใช้บาปที่ไปอำคนไว้”
จนถึงวันหนึ่งผมก็ตกลงใจ
เขียนก็เขียน
เป็นที่มาของนวนิยาย สี่ภพ
นวนิยายเรื่องนี้มิใช่เกิดขึ้นเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองเขียนงานตระกูลนี้ได้ แต่มันเป็น ‘love letter’ หรืองานแสดงความรักความลุ่มหลงต่องานนิยายกำลังภายในสมัยเก่า กิมย้ง โก้วเล้ง รวมทั้งสำนวนแปลของนักแปลรุ่นนั้น เช่น ว. ณ เมืองลุง น. นพรัตน์ มันเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงความหลังอันสวยงาม
โจทย์เรื่องนี้ยากมาก การทำงานแบบนี้ตามสไตล์ของผมคือทำไปตามขั้นตอนการคิดงานสร้างสรรค์
สิ่งแรกที่ทำคือคิดคอนเส็ปต์
ผมเริ่มงานเขียนในลักษณะการทำงานโฆษณา เริ่มที่การ ‘เบรนสตอร์ม’ หาไอเดีย
สิ่งแรกสุดที่ต้องทำคือหาคอนเส็ปต์หลักหรือกระดูกสันหลังของเรื่อง คอนเส็ปต์หลักนี้จะกำหนดลักษณะการเล่าเรื่อง องค์ประกอบเรื่อง โทน อารมณ์ เพราะถ้าไม่มีคอนเส็ปต์ เรื่องจะสะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง
หลังจากได้คอนเส็ปต์แล้ว จึงคิดพล็อตย่อย (subplots) จำนวนหลายร้อยพล็อต เพื่อประกอบกันเป็นเรื่องรวม
โจทย์เรื่องนี้คือนิยายไซไฟ + กำลังภายใน ผมตั้งใจให้เป็นไซไฟจริง ๆ ไม่ใช่แฟนตาซี ต่อให้จินตนาการหลุดโลกแค่ไหน ก็อธิบายหลักวิทยาศาสตร์ได้ และมันควรใช้ประโยชน์จากความเป็นไซไฟ เพื่อสื่อสารบางอย่าง
หากฟังดูไม่ใช่นิยายกำลังภายในเท่าไร ก็เพราะคนส่วนมากตกอยู่ในกรอบว่านิยายกำลังภายในคือเรื่องการชิงอำนาจ การล้างแค้น ไปจนถึงเรื่องคุณธรรมน้ำมิตรของโก้วเล้ง
สิ่งที่ผมทำคือใช้นิยายกำลังภายในเป็นหลักหรือฉากหน้า แต่ฉากหลังเสียบไซไฟเข้าไปแบบ - พูดด้วยภาษาคนในวงการนี้คือ - ‘ไร้รอยตะเข็บ’
เนื่องจากนิยายกำลังภายในมักเกิดขึ้นในเมืองจีนยุคโบราณ สมัยที่ยังใช้ดาบเป็นอาวุธ การใส่ไซไฟเข้าไปจึงทำได้ยาก เพราะมิอาจอธิบายองค์ประกอบวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ตรง ๆ ใช้ศัพท์ฟิสิกส์ตรง ๆ ไม่ได้ ยกตัวอย่าง เช่น มิติ หลุมดำ โลกคู่ขนาน สสารมืด พลังงานมืด จะเล่าในนิยายกำลังภายในอย่างไร
นี่เป็นปัญหาใหญ่
แต่นี่เป็นเพียงองค์ประกอบเรื่อง สิ่งที่ต้องการลำดับแรกคือคอนเส็ปต์
และต้องเป็นคอนเส็ปต์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในโลกนิยายกำลังภายใน
ผมคิดคอนเส็ปต์ไว้มากมาย หลังจากคิดอย่างหนักนานหลายปี มองแทบทุกจุดที่เป็นไปได้ ในที่สุดผมก็สรุปได้ และพอใจกับทิศทางนี้
วินทร์ เลียววาริณ
๑๗-๑๐-๒๕๖๘...............
สี่ภพ เป็นนิยายจีนกำลังภายใน+ไซไฟ ผลงาน 5 ปีของ วินทร์ เลียววาริณ
จำหน่ายในงานหนังสือและทางออนไลน์
งานหนังสือบูธ F-21 (ราคา 2,300.- ถ้ารับกลับเอง)ซื้อผ่าน Shopee กดลิงก์ https://s.shopee.co.th/2LPBgEyqPg?share_channel_code=6
ซื้อผ่านเว็บไซต์ วินทร์ เลียววาริณ กดลิงก์
https://www.winbookclub.com/store/detail/255/%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A0%E0%B8%9Eอีบุ๊ค จัดจำหน่ายโดยบริษัท The Meb ทั้งแยกเล่มและรวมชุด (สำนักพิมพ์ 113 ไม่ได้จำหน่าย) https://www.theonebook.com/index.php?action=search_book&page_no=1
1 วันที่ผ่านมา