• วินทร์ เลียววาริณ
    1 ปีที่ผ่านมา

    เมื่อวันก่อนเล่าถึงเรื่องสั้น สะพาน เช็งเม้ง รักกันหนึ่งร้อยปี ที่ว่าเขียนยาก

    แต่ยากที่สุดในสามเรื่องนี้คือ สะพาน

    ถ้าให้ผมจัดอันดับเรื่องสั้น top 5 ของตัวเอง ผมคงเลือกเรื่องนี้เป็นหนึ่งในนั้น

    ทำไม?

    เพราะมันเป็นงานท้าทายอย่างยิ่ง

    ดูเผินๆ เรื่องสั้น สะพาน เป็นงานเล่าเรื่องตามขนบ ไม่ใช้ลูกเล่นการนำเสนอ เล่าเรื่องไปตามปกติ

    แต่ที่แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ คือเล่าแบบสารคดี

    ผมอยากเขียนเรื่องสั้นที่เหมือนตำราวิชาการ แต่อ่านแล้วได้อารมณ์สั่นสะเทือนเหมือนอ่านนิยาย

    ผมยังไม่เคยเห็นการเขียนแบบนี้ แต่เชื่อว่าน่าจะมีคนเคยเขียน

    เรื่องนี้เป็นประวัติของจิตรกรภาพพิมพ์ไม้ที่ผมชื่นชอบคนหนึ่ง อุตะกาวะ ฮิโรชิเกะ

    ผมใช้ภาพวาดภาพหนึ่งของฮิโรชิเกะมาเป็นตัวเดินเรื่อง แล้วแต่งเรื่องเสียบ โดยให้อารมณ์เหมือนสารคดีกึ่งนิยาย

    เปิดเรื่องดังนี้

    ..........................

    อุตะกาวะ ฮิโรชิเกะ เกิดในปี ค.ศ. 1797 ที่เมืองเอโดะ บิดาเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงประจำปราสาทเอโดะ ครอบครัวของท่านอาศัยอยู่ในค่ายทหารซึ่งมีซามูไรสามสิบนายประจำการ เมื่อพ่อตายตอนท่านอายุสิบสอง ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของพ่อก็สืบทอดต่อให้ท่าน แต่ฮิโรชิเกะสนใจศิลปะมากกว่าการดับไฟ ท่านฉายแววจิตรกรตั้งแต่เด็ก ในวัยหกขวบเรียนศิลปะภาพวาดจีนกับ โอคาจิมะ รินไซ ผู้เป็นนักดับเพลิงและจิตรกรสมัครเล่น ท่านมีผลงานจิตรกรรมตั้งแต่อายุเก้าขวบ เมื่ออายุสิบห้าสมัครเป็นศิษย์ของ อุตะกาวะ โทโยชิโร เรียนวิชาภาพพิมพ์ไม้ และผ่านไปเพียงปีเดียว ก็ได้รับนามศิลปินจากอาจารย์คือ อุตะกาวะ เร็วกว่าจิตรกรฝึกหัดทั่วไปซึ่งใช้เวลาสองสามปี

    เมื่อฝีมือเข้าที่ ฮิโรชิเกะก็เริ่มวาดภาพประกอบหนังสือและงานออกแบบทั่วไป สร้างสรรค์ผลงานรูปคนมากมาย แล้วจู่ ๆ ในช่วงหนึ่งท่านก็เปลี่ยนทิศทางการวาดภาพ หันมาจับงานด้านทิวทัศน์จนมีชื่อเสียงในระดับแถวหน้า

    ผลงานส่วนใหญ่ของ อุตะกาวะ ฮิโรชิเกะ เป็นภาพทิวทัศน์ เช่นภาพชีวิตของเมืองเอโดะ, วัด, โรงน้ำชา, อ่าวเอโดะ, การล่องเรือที่แม่น้ำสุมิดะ, สตรีในเมือง, การดื่มชาใต้ร่มเงาซากุระ ฯลฯ เช่นเดียวกับกวีเมื่อหนึ่งศตวรรษก่อนหน้า เช่น มะสึโอะ บะโช และ อุเอะชิมะ โอนิทสึระ ซึ่งชอบเดินทางท่องแผ่นดินและเขียนบทกวีเกี่ยวกับการเดินทางไว้จำนวนมาก งานของ อุตะกาวะ ฮิโรชิเกะ ก็ใช้การเดินทางในแต่ละฤดูกาลเป็นฉากเช่นเดียวกัน  ..........................
    วิธีเล่าเรื่องแบบนี้คือการเล่าแบบสารคดี เหมือนอ่านประวัติบุคคลสำคัญ

    แต่เล่าเรื่องให้มีอารมณ์ความรู้สึกใน 'สารคดี' นั้น

    มันจึงเขียนยากมาก

    ..........................

    “เวลานั้นเราอายุสามสิบเอ็ด พอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้าง อาจารย์ของเราเพิ่งเสียชีวิต เราอยู่ในภาวะโศกเศร้าหลงทาง เราขลุกอยู่ในโรงละคร ร้านสุรา เหล่านางงามเมือง และเกอิชา เพื่อลดความวุ่นวายในใจเราลง วันหนึ่งเราแวะไปที่สำนักเกอิชาริมฝั่งสุมิดะ ที่ท่าเรือส่วนตัวจอดเรือสองลำสำหรับพาแขกท่องน้ำเพื่อความสำราญ และใช้รับส่งแขกในช่วงฝนตกหนัก เนื่องจากทุกครั้งที่ฝนเทหนัก ทางเข้าสำนักเกอิชาน้ำท่วมเจิ่งจนเข้าออกไม่ได้ ที่นั่นเราพบเกอิชานางหนึ่ง ในความรู้สึกแรกพบของเรา นางมีสิริโฉมงดงามยิ่ง จนเราอดใจไม่ได้ ขอวาดรูปใบหน้านาง...

    “เราเขียนภาพนางหลายครั้งหลายภาพ แต่ทุกครั้งที่ให้นางชมภาพที่เราวาดนางบอกว่าภาพเหล่านั้นไม่ใช่รูปนาง เรางุนงงยิ่ง การวาดรูปเหมือนใบหน้าสตรีหาใช่เรื่องยากเย็นแต่ประการใด เราวาดมาแล้วนับร้อย ๆ ภาพ แต่นางทำให้เรารู้สึกเช่นเป็นจิตรกรฝึกหัด นางบอกว่าภาพวาดฝีมือเรานั้นคือภาพเกอิชาคนหนึ่ง แต่ยังไม่ใช่นาง เพราะภาพเหมือนมิใช่ ‘ภาพจริง’ คำพูดของนางทำให้เรางันไป เราถามนางว่าอย่างไรคือภาพจริง นางตอบยิ้ม ๆ ว่า ศิลปินจะวาดภาพสมจริงได้อย่างไรหากไม่รู้จักสิ่งที่วาดอย่างลึกซึ้ง และนี่ก็คือเหตุผลที่เราไปหานางครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อวาดรูปนางให้สำเร็จ

    นางมีบางสิ่งในตัวที่ไม่เหมือนคนอื่น นางรักงานจิตรกรรมและรอบรู้ศิลปะแขนงต่าง ๆ โดยเฉพาะบทกวีและภาพพิมพ์ เช่นเดียวกับเรา นางลุ่มหลงบทกวีของ มะสึโอะ บะโช บ่อยครั้งเราลอยเรือไปกับนาง ฟังนางอ่านบทกวีกลางน้ำ นางมาจากเกียวโต ใช้เวลาสิบปีเต็มเดินทางจากเกียวโตมายังเอโดะ นางไม่เล่ารายละเอียดชีวิตส่วนตัวของนาง แต่เราพอเดาออกจากการคุยกันหลายครั้งว่า นางผ่านชีวิตวัยเด็กที่ไม่น่ารื่นรมย์นัก นางมิได้เป็นเกอิชาโดยความสมัครใจ หนี้สินก้อนหนึ่งจองจำนางในสภาวะนี้ แต่โชคดีที่นางชอบศิลปะสายต่าง ๆ ที่เกอิชาต้องเรียนรู้ ศิลปะเป็นสิ่งที่พานางผ่านวันเวลาที่ลำบากมาได้ เราเพิ่งรู้ว่านางมีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าเราหลายเท่า

    ..........................

    ผมไม่รู้ว่ามีผู้อ่านสักกี่คนชอบเรื่องนี้ หรือเข้าใจสารของเรื่องนี้ แต่สำหรับตัวเอง เป็นเรื่องสั้นที่รักเรื่องหนึ่ง และรู้สึกโล่งอกเมื่อเขียนสำเร็จ

    วินทร์ เลียววาริณ 10-12-24

    สนใจหนังสือ https://www.winbookclub.com/store/detail/96/เส้นสมมุติ 

    1
    • 0 แชร์
    • 68

บทความล่าสุด