• วินทร์ เลียววาริณ
    2 เดือนที่ผ่านมา

    ตอนเด็กผมเรียนที่โรงเรียนแสงทองวิทยา หาดใหญ่ เป็นโรงเรียนคาทอลิก จึงคลุกคลีกับชีวิตคาทอลิกแต่เด็กโดยปริยาย

    ทุกเช้าหลังเคารพธงชาติ นักเรียนสวดมนต์แบบคริสต์ ขึ้นต้นว่า “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงคุ้มครองสอดส่องดูแลเรา...”

    ในชั่วโมงศีลธรรม เราเรียนทั้งพุทธและคริสต์ เรียนเรื่องไบเบิลและการสร้างโลกตามคติคริสต์

    เนื่องจากนี่เป็นเมืองไทย ประเทศที่ให้เสรีภาพในศาสนา แม้จะเป็นโรงเรียนคริสต์ แต่ศาสนาคริสต์ไม่ใช่ภาคบังคับ ทว่าโรงเรียนจะยินดีมากหากนักเรียนปรารถนาจะเป็นคาทอลิก

    โรงเรียนมีโบสถ์หลังหนึ่ง ในวันที่พิธีทางศาสนาในโบสถ์ตรงกับชั่วโมงเรียน นักเรียนสามารถเลือกเข้าโบสถ์แทนเข้าห้องเรียนได้

    เดาไม่ยาก ผมก็ทำเมื่อต้องการหนีชั่วโมงเรียนวิชาที่น่าเบื่อ

    อยู่ดี ๆ วันหนึ่งผมก็สมัครเรียนศาสนาคริสต์ที่คณะเซเวนธ์เดย์แอดเวนตีส กรุงเทพฯ จัดขึ้น ผมเรียนทางไปรษณีย์จนจบหลักสูตร และได้รับประกาศนียบัตร

    ผมมีความรู้สึกดีต่อบาทหลวงคาทอลิกที่จากโลก ข้ามน้ำข้ามทะเลมาสอนหนังสือในเมืองไทย จำนวนมากตายบนผืนแผ่นดินไทย

    ผมมีเพื่อนหลายคนจบโรงเรียนคาทอลิกในกรุงเทพฯ เช่น อัสสัมชัญ

    อัสสัมชัญเป็นโรงเรียนในเครือคณะภราดาเซนต์คาเบรียล (Frères de Saint-Gabrie) เป็นคณะนักบวชคาทอลิกคณะหนึ่งซึ่งขึ้นตรงต่อพระสันตะปาปา

    ในเมืองไทยมีบทบาทอย่างสูง ไม่เพียงแต่ต่อนักเรียนอัสสัมชัญ แต่ต่อการศึกษาของไทยด้วย

    ในปี พ.ศ. ๒๔๔๓ บาทหลวงเอมิล โอกุสต์ โกลงเบต์ (Émile August Colombet) วัยห้าสิบเอ็ด เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ฝรั่งเศส หลังจากใช้เวลายี่สิบสองปีในประเทศสยาม ก่อตั้งโรงเรียนอัสสัมชัญ สอนเด็กคริสตังและลูกหลานชาวยุโรป

    การเดินทางเที่ยวนี้ต่างจากครั้งอื่นคือ ท่านเข้าพบท่านอธิการใหญ่แห่งคณะภราดาเซนต์คาเบรียล ณ เมืองแซง โลรอง ซูร์ แซฟวร์ (Saint Laurent sur Sèvre) จังหวัดวองเด

    “ข้าพเจ้าปรารถนาส่งมอบกิจการโรงเรียนอัสสัมชัญในประเทศสยามให้แก่คณะฯ”

    อธิการใหญ่แห่งคณะภราดาเซนต์คาเบรียลตกลง

    ปีถัดมา คณะภราดาเซนต์คาเบรียลก็ส่งภราดาห้าคนไปรับหน้าที่บริหารโรงเรียนอัสสัมชัญ

    ภราดาผู้มีอายุน้อยที่สุดชื่อ ฟรองซัว ตูเวอแน ฮีแลร์ (François Touvenet Hilaire) อายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น เกิดที่ตำบลชองนิเอร์ (Champniers) เมืองปัวตีเย (Poitiers) ประเทศฝรั่งเศส ในวัยเด็กเขาสนใจพระธรรมและคิดอุทิศตนแก่ศาสนา ถวายตนปฏิบัติกิจเพื่อพระผู้เป็นเจ้า ศึกษาที่คณะเจษฎาจารย์เซนต์คาเบรียล ที่เมืองแซ็ง โลร็อง ซูร์ แซ็ฟวร์ อายุ สิบแปดเป็นภราดา

    เจษฎาจารย์ทั้งห้าลงเรือที่เมืองมาร์เชย์เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๔๔ ใช้เวลาเดินทางหนึ่งเดือนกับสองวันก็ถึงกรุงเทพฯ เรือเทียบท่าห้างบอร์เนียว แตะแผ่นดินสยามในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

    ฟรองซัว ตูเวอแน ฮีแลร์ พูดภาษาไทยไม่ได้สักคำ

    ภราดาหนุ่มได้รับมอบหมายให้สอนภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส วันหนึ่งเขาได้ยินเด็กนักเรียนไทยท่องข้อความบางอย่าง เสียงนั้นสูง ๆ ต่ำ ๆ ไพเราะ มีจังหวะจะโคนงดงาม เขานึกสงสัยว่าเด็กท่องอะไร เมื่อสอบถามก็รู้ว่ามันคือ มูลบทบรรพกิจ แบบเรียนภาษาไทยที่ประพันธ์โดยพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร)

    ตั้งแต่นั้นภราดาฟรองซัวก็เรียนตำรานี้ และเริ่มเรียนภาษาไทยอย่างจริงจังกับครูหลายคน เช่น ท่านมหาทิม ครูวัน (พระยาวารสิริ) ท่านมหาศุข ศุภศิริ และครูฟุ้ง เจริญวิทย์ ภราดาหนุ่มเป็นอัจฉริยะด้านภาษา ความเร็วของการเรียนรู้ภาษาไทยของเขาน่าทึ่งอย่างยิ่ง

    ผ่านไปหลายปี ภราดาชาวฝรั่งเศสก็แตกฉานภาษาไทยยิ่งกว่าคนไทยจำนวนมาก ศึกษาวรรณคดีไทยอย่างลึกซึ้ง เล่ากันว่าเขาสอนเวสสันดรชาดกได้ดีไม่แพ้ท่านมหาศุข

    ฟรองซัว ตูเวอแน ฮีแลร์ มีบุคลิกผู้คงแก่เรียน ไว้หนวดเครายาว จนนักเรียนตั้งฉายาให้เขาว่า โจโฉ

    คนทั่วไปเรียกเขาสั้น ๆ ว่า ฟ. ฮีแลร์

    ฟ. ฮีแลร์เป็นผู้แต่งหนังสือชุด ดรุณศึกษา ที่ใช้เป็นแบบเรียนของไทยในยุคนั้น

    ใช้เวลาทั้งชีวิตของเขาเป็นครูในเมืองไทย

    วินทร์ เลียววาริณ
    ๒๒-๔-๒๕๖๘

    0
    • 1 แชร์
    • 45

บทความล่าสุด