• วินทร์ เลียววาริณ
    1 วันที่ผ่านมา

    เมื่อวานคุยว่าจักรวาลใหญ่มาก จนยากที่สิ่งทรงภูมิปัญญาสักสายพันธุ์จะข้ามได้ง่ายๆ อ่านหลายคอมเมนต์แล้วพบว่า คนจำนวนมากไม่เก็ตจริงๆ ว่าจักรวาลใหญ่ขนาดไหน

    เวลาเรามองท้องฟ้า เรากำลังมองดวงดาวในดาราจักรทางช้างเผือกของเราเป็นหลัก อาจมองทะลุไปเห็นดาราจักรอื่นบ้าง แต่ส่วนใหญ่อยู่ในดาราจักรขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งแสนปีแสงนี้

    แต่นอกทางช้างเผือกออกไปเป็นหนังคนละม้วน ทางช้างเผือกเปรียบเหมือนหยดน้ำบนใบไม้ แต่ข้างนอกนั่นคือมหาสมุทร

    เรามองเห็นจักรวาลเท่าที่แสงเดินทางถึงตาเรา ด้วยการใช้กล้องโทรทรรศน์ส่องในตอนนี้ เราคำนวณได้ว่า จักรวาลที่เรามองเห็นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 93 พันล้านปีแสง

    ศัพท์ทางการคือ observable universe แปลว่าเท่าที่เรามองเห็น

    แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันอาจใหญ่กว่าที่เราเห็นอีก 4-5 เท่า แต่จมอยู่ในความมืด เรามองไม่เห็นเพราะแสงในส่วนเกินนั้นยังมาไม่ถึงตาเรา

    ขณะที่แสงยังมาไม่ถึง มันก็ยังขยายตัวไปเรื่อยๆ เร็วขึ้นเรื่อยๆ

    เริ่มงงแล้วใช่ไหม? ใจเย็นๆ เดี๋ยวจะว่าทีละขึ้นง่ายๆ

    ราวร้อยปีก่อน เอ็ดวิน ฮับเบิล ใช้กล้องส่องฟ้า และพบว่า ดาราจักร (galaxy) แต่ละดาราจักรกำลังเคลื่อนออกจากกัน และไปด้วยความเร็ว

    ผ่านไปร้อยปี เราก็ยังเห็นดาราจักรต่างๆ เคลื่อนออกจากกัน เร็วกว่าเดิมอีก ทำให้ขนาดจักรวาลวันนี้ใหญ่กว่าสมัยฮับเบิลมองไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเท่า

    เหมือนเรากาจุดบนลูกโป่ง เมื่อเป่าให้ขยายตัว แต่ละจุดก็แยกห่างจากกัน แต่ละจุดนั้นก็คือหนึ่งดาราจักร

    ถามว่าทำไมเป็นอย่างนั้น? คำตอบคือไม่รู้

    มันเหมือนลูกโป่งสีดำกำลังขยายตัวด้วยแรงลึกลับบางอย่าง แต่มีทฤษฎีว่า น่าจะเป็นสสารมืดและพลังงานมืดที่เรามองไม่เห็นผลักยืดมันออกไป

    เมื่อขยายออกไปด้วยความเร็วมหาศาล ไม่มีหยุด เร็วขึ้นเรื่อยๆ จักรวาลจึงใหญ่มาาาาาาาาาาก มันใหญ่ขึ้นทุกๆ วินาทีที่ผ่านไป

    ด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 93 พันล้านปีแสง เราจึงอาจบอกได้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะข้ามจักรวาล

    เอาละ เชื่อว่ามาถึงบรรทัดนี้ ย่อมมีคนบอกว่า งั้นก็ส่งจิตไปซี จิตไปเร็วกว่าแสง พริบตาเดียวก็ข้าม 93 พันล้านปีแสงแล้ว

    นี่คือการถกแบบ speculation ไม่มีหลักฐาน เรื่องจิตเร็วกว่าแสงนี้ไม่มีหลักฐาน มีแต่ความเชื่อ อาจจะจริงก็ได้ แต่วันนี้ยังไม่มีหลักฐาน

    แต่ถ้าใครเชื่อมั่นว่าเป็นอย่างนี้ ก็ควรหยุดอ่านตั้งแต่บรรทัดนี้ เพราะเพจนี้คุยกันด้วยภาษาวิทยาศาสตร์

    ..........................

    เอ้า! ยังอ่านต่อ งั้นก็ว่ากันต่อ

    สรรพสิ่งในจักรวาลเป็นไปตามกฎฟิสิกส์ แต่เพื่อประโยชน์ของการถก ถ้าจิตเดินทางไปได้จริง มันก็มี 'ตัวตน' ดังนั้นจึงตกอยู่ในกฎฟิสิกส์

    ตามหลักฟิสิกส์ แสงยังเร็วที่สุด และแสงเดินทางด้วยความเร็วเท่าเดิม

    สมมุติว่าจิตไปเร็วกว่าแสงจริง เอ้า! ให้เร็วกว่าแสงร้อยเท่าเลย ส่งจิตไปวันนี้ จนเราหมดลมหายใจ ตายแล้วเกิดใหม่อีกร้อยครั้ง จิตก็ยังไปไม่ถึงอีกขอบหนึ่งของจักรวาล

    สมมุติว่าจิตไปถึงขอบจักรวาล แล้วรับรู้ว่ามันเป็นอย่างไร จิตก็ต้องเดินทางกลับมาหาคนส่งจิตเพื่อรายงานผล ก็ต้องข้ามระยะทางอีก 93 พันล้านปีแสง (ยังไม่คิดว่าจักรวาลขยายตัวด้วยซ้ำ)

    เพราะนี่คือฟิสิกส์

    จักรวาลโตไม่หยุด และนี่ก็คือเหตุผลหนึ่งที่ท้องฟ้ากลางคืนไม่เป็นสีขาว ทั้งที่มีดาวมากกว่าจำนวนเม็ดทรายบนโลกเราทั้งโลกรวมกัน

    วินทร์ เลียววาริณ
    5-5-25

    0
    • 1 แชร์
    • 20

บทความล่าสุด