-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
ในสมัยอยุธยา ชาวบ้านไม่ได้กินปลาตะเพียน มีบทลงโทษ
ทำไมปลาชนิดนี้จึงเป้นอาหารต้องห้าม?
อย่างนี้ต้องอ่าน
บทความใหม่วันเสาร์ คลิกลิงก์อ่านได้เลย https://www.blockdit.com/posts/67fbd5e6e2c7f2cd8aed4cfc
0- แชร์
- 21
-
หมู่นี้ท่านรัฐมนตรีรักชาติรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า อ่อนเปลี้ยเพลียกายา เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีจำนวนมากโจมตีท่าน บ้างแฝงตัวในรูปขำขันอะไรนั่น โดยเฉพาะที่เขียนโดยนักเขียนสองรางวัลซีไรต์และศิลปินแห่งชาติกวนตีนคนนั้น คนอ่านก็ใจร้าย ผสมโรงเชียร์
ท่านคิด นี่มันสังคมอะไร ใจร้ายจริงๆ!
เมื่อเหนื่อยและเครียด อีกทั้งเจอปัญหาบ้านเมืองที่แก้ไม่ได้สักเรื่อง ริ้วรอยบนใบหน้าท่านก็ปรากฏ เห็นรอยตีนกาชัดเจน ใบหน้าของชายวัยกลางคนดูอ่อนล้าราวกับคนชรา
คนสนิทบอกว่า "ท่านก็ลาออกซี เท่านี้ปัญหาก็หายสิ้นในพริบตา"
ท่านรัฐมนตรีตอบว่า "ลื้อซี้ซั้วต่า อำนาจเป็นสิ่งที่หอมหวนที่สุดในปฐพี"
คนสนิทจึงแนะนำให้ท่านไปนวดหน้า "จะได้หน้าสดใสเหมือนหนุ่ม"
"กระผมทราบมาว่า มีบริการนวดประเภทหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าท่านสดใสและทนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ด้วย"
"อิส แด็ท โซ? อินเครดิเบิ้น! มีบริการเช่นนี้ด้วยหรือในปฐพี?" ท่านรัฐมนตรีถาม
"ผมอ่านมาจากหนังสือเรื่อง บริการนวดหน้า ของนักเขียนสองรางวัลซีไรต์และศิลปินแห่งชาติ"
"ไม่เอา ไอ้นี่มันเขียนด่าผมทุกวัน"
"คนละคนครับท่าน เล่มนี้เขียนโดย ชาติ กอบจิตติ สองรางวัลซีไรต์และศิลปินแห่งชาติเหมือนกัน แต่คนนี้สุภาพ ปากไม่จัดครับ"
"ค่อยยังชั่ว แล้ว ชาติ กอบจิตติ ผู้นี้ รู้เรื่องนวดหน้าด้วยหรือไฉน?"
"รู้จนสามารถเขียนเป็นเล่มครับท่าน"
คนสนิทของท่านรัฐมนตรีจึงไปซื้อหนังสือเรื่อง บริการรับนวดหน้า มาให้ท่านอ่าน
คืนนั้นท่านรัฐมนตรีอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างสนใจ แต่ยิ่งอ่านสีหน้ายิ่งไม่สดชื่น รอยย่นเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าคนสนิทของท่านรัฐมนตรีเข้าใจผิดคิดว่า 'บริการรับนวดหน้า' ผลงานของ ชาติ กอบจิตติ เป็นหนังสือแพทย์หรือเสริมสวย แต่ความจริงมันเป็นวรรณกรรมเสียดสีต่างหากเล่า บริการรับนวดหน้าเป็นเรื่องของพ่อหมอนักนวดหน้า ผู้มีรัฐมนตรีจำนวนมากไปหาเพื่อใช้บริการนวดหน้า
วิธีการนวดหน้าของพ่อหมอ โต ตีนโบราณ ในเรื่องนี้คือนวดใบหน้ารัฐมนตรีด้วยฝ่าเท้า ใช้ตีนคลึงใบหน้า เพื่อให้ใบหน้าหยาบกร้าน ทนแรงด่า ไร้ยางอาย (หรือภาษาแพทย์ว่า shy rubber) ชาวบ้านด่าก็ไม่รู้สึกรู้สา ใครนินทาก็ไร้ผล ทนได้ทุกอย่าง
ในเรื่องนี้ ตัวละครรองนายกรัฐมนตรีพิชิตบอกว่า “ผู้ใหญ่หลายคนในคณะรัฐมนตรีเราใช้บริการอยู่ ได้ผลทุกคน อย่าคิดมาก ทำใจซะว่าคุณไปเที่ยวอาบอบนวดก็แล้วกัน ให้เขานวดหน่อย แรก ๆ อาจจะอาย ต่อไปก็ชิน นี่นามบัตร... อ้างชื่อผม..."
ท่านรัฐมนตรีรักชาติวางหนังสือเล่มนั้นลง พึมพำว่า "นักเขียนที่ได้สองซีไรต์กับศิลปินแห่งชาตินี่เหมือนกันหมด กวนตีนพอกัน"
แล้วบอกคนสนิท "ช่วยติดต่อพ่อหมอโต ตีนโบราณ ให้หน่อยซิ"
วินทร์ เลียววาริณ
1-6-250 วันที่ผ่านมา -
พระเซน บาซูโอะ โตกุโช (1327–1387) เขียนถึงศิษย์คนหนึ่งที่กำลังจะตายว่า
"สาระของจิตของเจ้ามิได้เกิด และมิได้ดับ มันมิได้ดำรงอยู่ และมิได้เสื่อมสลาย มันมิใช่ความว่างเปล่าที่ไร้สิ่งใด มันไร้สีและรูปทรง มันไม่มีความสุขและทุกข์จากความเจ็บปวด อาจารย์รู้ว่าเจ้ากำลังป่วยหนัก แต่เช่นศิษย์เซนที่ดี เจ้ากำลังเผชิญหน้ากับโรคภัยตรง ๆ เจ้าอาจไม่รู้ว่าใครกำลังทนทุกข์ แต่จงถามตัวเองว่า อะไรคือสาระของจิตนี้ คิดเพียงแต่เรื่องนี้ก็พอ
"เจ้ามิได้ต้องการสิ่งอื่นใด ไม่ปรารถนาอะไร จุดสุดท้ายของเจ้าที่ไม่สิ้นสุด ก็เป็นเช่นเกล็ดหิมะที่ละลายกลางลมบริสุทธิ์"
วินทร์ เลียววาริณ
1-6-25................................
จาก มังกรเซน และ Mini Zen (เซนฉบับการ์ตูน)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้วมังกรเซน Shopee คลิก https://shope.ee/2VUCymbmSh?share_channel_code=6
0 วันที่ผ่านมา -
ในโพสต์เรื่องท่านรัฐมนตรีรักชาติเมื่อวานนี้ มีตัวละครพระรูปหนึ่งชื่อ หลวงพ่อกวน
บางคนอาจคิดทันทีว่า ย่อมาจากกวนตีน หรือกวนโอ๊ย
ความจริงยังมีอีกกวนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับหลักธรรมอย่างลึกซึ้ง
กวนคำนี้ไม่ใช่ภาษาไทย แต่เป็นจีน เขียนอย่างนี้ 觀
เคยสังเกตไหมว่า พระพุทธรูปที่เราเห็นแทบทั้งหมดอยู่ในปางสมาธิ และมองแบบหรี่ตา
ทำไมหรี่ตา?
หรี่ตามองก็คือมองแบบนกกระสา
การมองแบบนี้ในภาษาจีนเรียกว่า 觀 (ออกเสียงว่ากวน) แปลว่าการมอง (หากสังเกตดูรูปคำนี้ จะเห็นว่ามีนัยน์ตาอยู่)
นักปรัชญาอังกฤษ อลัน วัตต์ส ชี้ว่า ระบบความคิดของคนทำงานโดยเรียงลำดับ เราคิดได้ทีละความคิด เรียงกันไปเป็นเส้นตรงตามลำดับ (linear) ไม่ว่าจะมีความคิดสับสนยังไง ก็คิดได้ทีละความคิด
การคิดจึงช้ากว่าการมอง เพราะขณะที่ความคิดเดินไปทีละเรื่อง ‘กวน’ กลับสามารถมองรวบยอดทั้งหมดได้ทีเดียว
การมองแบบ ‘กวน’ ไม่ใช่มองแบบเพ่งหรือจ้อง แต่เป็นการมองแบบเฝ้าสังเกตเงียบ ๆ คล้ายนกกระสามองดูปลาในน้ำ มันมองอย่างไม่จดจ่อ แต่มองอย่างระวังและมีสติกำกับ เมื่อปลาขยับ นกกระสาก็ฉกปลากินอย่างฉับไว
ท่วงท่าของนกกระสาจึงปรากฏอยู่ในภาพเขียนของจีนและญี่ปุ่นจำนวนมาก
กวน 觀 = quiet observation (สังเกตเงียบ ๆ)
และโยงกับวิปัสสนา
คำว่า วิปัสสนา ในบาลีแปลว่าการเห็นแจ้ง (insight) มาจาก วิ = แจ่มแจ้ง + ปัสสนา = เห็น
‘วิปัสสนา’ ในภาษาจีนใช้คำว่า 觀 (กวน)
‘การมอง’ คือหัวใจของแนวคิดด้านพุทธ ทางอินเดียและจีนถือว่าเป็นจุดสำคัญของจิต และเป็นทัศนคติอย่างหนึ่งต่อชีวิต
นั่งท่าดอกบัว สมาธิ ร่างปักกับแผ่นดิน แล้วหายใจ ไม่ต้องหลับตา แค่หรี่ตามองพื้น เพราะเรายังต้องการสัมผัสโลกที่เป็นจริง สัมผัสโลกผ่านการมอง การได้ยิน การสัมผัส ไม่ได้ตัดทิ้ง แต่ปล่อยให้โลกทั้งใบมาหาเราเอง โดยไม่ต้องทำอะไรกับมัน
พูดง่าย ๆ คือปล่อยจิตให้อยู่ของมัน อย่าไปยุ่งกับมัน
การทำสมาธิจึงเป็นเรื่องสำคัญ คือมองโลกอย่างเข้าใจและตามทัน
และกวนจึงเป็นเรื่องสำคัญด้วยประการฉะนี้
วินทร์ เลียววาริณ
31-5-25...............
เรื่องนี้อ่านรายละเอียดได้ใน ตัวสุขอยู่ในหัวใจ
260 บาท 49 บทความ เรื่องละ 5.3 บาท หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
เล่มเดี่ยว https://s.shopee.co.th/7fNfoZYQzr
คู่กับมังกรเซน + ของแถม https://s.shopee.co.th/7ph60vVYai
1 วันที่ผ่านมา -
3 วันที่ผ่านมา
-
หลวงพ่อกวนแห่งวัดท้ายไร่เป็นพระดี ไม่สนใจเรื่องพิธีกรรม ไม่ให้พระเครื่อง ไม่มีผ้ายันต์ ไม่ทำพิธีปลุกเสกใดๆ
ท่านมีชื่อเสียงขึ้นมาก็เพราะมีหลายคนไปบนบานในวัดท่านแล้วร่ำรวย ทันใดนั้นทุกคนก็แห่ไปที่วัดท่าน ทำให้ท่านเหนื่อยกับคนที่อยากรวยและคิดว่าท่านเป็นสะพานเชื่อมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ทุกวันมีคนไปหาหลวงพ่อกวน ขอให้ลูบหัว เหยียบล็อตเตอรี่ที่ซื้อ อวรพรให้ได้รับตำแหน่ง ฯลฯ จนหลวงพ่อบ่นกับคนในวัดว่า "ปิดวัดไปนั่งสมาธิในป่าคนเดียวดีกว่ามั้ง จะอยากรวยไปถึงไหนกัน"
วันนี้ท่านรัฐมนตรีรักชาติไปขอพบหลวงพ่อกวน โดยอาศัยเส้นสายที่รู้จักมัคนายก ช่วยพาท่านไปพบหลวงพ่อ
หลวงพ่อกวนก็ยอมให้ท่านรัฐมนตรีพบอย่างเสียไม่ได้
ท่านรัฐมนตรีรักชาติกราบหลวงพ่อ กล่าวว่า "ผมอยากมาทำบุญครับ หลวงพ่อ"
หลวงพ่อกวนตอบ "ทำดีก็คือทำบุญ"
"คือผมจะทำบุญห้าล้าน"
หลวงพ่อสั่นศีรษะ "เก็บเงินไว้ช่วยเหลือเด็กยากจนเถอะ ได้กุศลกว่า"
"แต่ผมอยากทำบุญกับท่านครับ สิบล้านก็แล้วกัน"
"วัดนี้ไม่ได้ขาดปัจจัย"
"คือขอสารภาพตรงๆ ว่า ผมทำบุญเพื่อขอให้หลวงพ่อช่วยให้พรผมอยู่ในตำแหน่งนานๆ"
"มียศก็มีเสื่อมยศ เป็นเรื่องธรรมดา อย่าไปยึดมั่นถือมั่นกับตำแหน่งเลย มันเป็นมายา"
"งั้นหลวงพ่อช่วยให้พรผม ให้ประชาชนรักผมนานๆ"
หลวงพ่อกวนพยักหน้าหงึกๆ เอ่ย "เออ! เรื่องนี้กลับทำได้ง่าย"
ท่านรัฐมนตรีรักชาติมีสีหน้ายินดีสุดขีด
"ดีจริง ทำไงครับ?"
"ก็ทำบุญโดยนอนในโลง"
"มันจะเสริมดวง ทำให้ประชาชนรักหรือครับ?"
"ถูกต้อง ประชาชนจะรักมาก และประเทศชาติก็จะดีขึ้นเยอะ"
"ตกลงครับ ผมจะนอนในโลง แล้วไงต่อ?"
"แล้วเรานำโลงไปฝังจริงเลย"
วินทร์ เลียววาริณ
30-5-253 วันที่ผ่านมา