-
วินทร์ เลียววาริณ1 วันที่ผ่านมา
หมู่นี้ท่านรัฐมนตรีรักชาติรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า อ่อนเปลี้ยเพลียกายา เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีจำนวนมากโจมตีท่าน บ้างแฝงตัวในรูปขำขันอะไรนั่น โดยเฉพาะที่เขียนโดยนักเขียนสองรางวัลซีไรต์และศิลปินแห่งชาติกวนตีนคนนั้น คนอ่านก็ใจร้าย ผสมโรงเชียร์
ท่านคิด นี่มันสังคมอะไร ใจร้ายจริงๆ!
เมื่อเหนื่อยและเครียด อีกทั้งเจอปัญหาบ้านเมืองที่แก้ไม่ได้สักเรื่อง ริ้วรอยบนใบหน้าท่านก็ปรากฏ เห็นรอยตีนกาชัดเจน ใบหน้าของชายวัยกลางคนดูอ่อนล้าราวกับคนชรา
คนสนิทบอกว่า "ท่านก็ลาออกซี เท่านี้ปัญหาก็หายสิ้นในพริบตา"
ท่านรัฐมนตรีตอบว่า "ลื้อซี้ซั้วต่า อำนาจเป็นสิ่งที่หอมหวนที่สุดในปฐพี"
คนสนิทจึงแนะนำให้ท่านไปนวดหน้า "จะได้หน้าสดใสเหมือนหนุ่ม"
"กระผมทราบมาว่า มีบริการนวดประเภทหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าท่านสดใสและทนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้ด้วย"
"อิส แด็ท โซ? อินเครดิเบิ้น! มีบริการเช่นนี้ด้วยหรือในปฐพี?" ท่านรัฐมนตรีถาม
"ผมอ่านมาจากหนังสือเรื่อง บริการนวดหน้า ของนักเขียนสองรางวัลซีไรต์และศิลปินแห่งชาติ"
"ไม่เอา ไอ้นี่มันเขียนด่าผมทุกวัน"
"คนละคนครับท่าน เล่มนี้เขียนโดย ชาติ กอบจิตติ สองรางวัลซีไรต์และศิลปินแห่งชาติเหมือนกัน แต่คนนี้สุภาพ ปากไม่จัดครับ"
"ค่อยยังชั่ว แล้ว ชาติ กอบจิตติ ผู้นี้ รู้เรื่องนวดหน้าด้วยหรือไฉน?"
"รู้จนสามารถเขียนเป็นเล่มครับท่าน"
คนสนิทของท่านรัฐมนตรีจึงไปซื้อหนังสือเรื่อง บริการรับนวดหน้า มาให้ท่านอ่าน
คืนนั้นท่านรัฐมนตรีอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างสนใจ แต่ยิ่งอ่านสีหน้ายิ่งไม่สดชื่น รอยย่นเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าคนสนิทของท่านรัฐมนตรีเข้าใจผิดคิดว่า 'บริการรับนวดหน้า' ผลงานของ ชาติ กอบจิตติ เป็นหนังสือแพทย์หรือเสริมสวย แต่ความจริงมันเป็นวรรณกรรมเสียดสีต่างหากเล่า บริการรับนวดหน้าเป็นเรื่องของพ่อหมอนักนวดหน้า ผู้มีรัฐมนตรีจำนวนมากไปหาเพื่อใช้บริการนวดหน้า
วิธีการนวดหน้าของพ่อหมอ โต ตีนโบราณ ในเรื่องนี้คือนวดใบหน้ารัฐมนตรีด้วยฝ่าเท้า ใช้ตีนคลึงใบหน้า เพื่อให้ใบหน้าหยาบกร้าน ทนแรงด่า ไร้ยางอาย (หรือภาษาแพทย์ว่า shy rubber) ชาวบ้านด่าก็ไม่รู้สึกรู้สา ใครนินทาก็ไร้ผล ทนได้ทุกอย่าง
ในเรื่องนี้ ตัวละครรองนายกรัฐมนตรีพิชิตบอกว่า “ผู้ใหญ่หลายคนในคณะรัฐมนตรีเราใช้บริการอยู่ ได้ผลทุกคน อย่าคิดมาก ทำใจซะว่าคุณไปเที่ยวอาบอบนวดก็แล้วกัน ให้เขานวดหน่อย แรก ๆ อาจจะอาย ต่อไปก็ชิน นี่นามบัตร... อ้างชื่อผม..."
ท่านรัฐมนตรีรักชาติวางหนังสือเล่มนั้นลง พึมพำว่า "นักเขียนที่ได้สองซีไรต์กับศิลปินแห่งชาตินี่เหมือนกันหมด กวนตีนพอกัน"
แล้วบอกคนสนิท "ช่วยติดต่อพ่อหมอโต ตีนโบราณ ให้หน่อยซิ"
วินทร์ เลียววาริณ
1-6-250- แชร์
- 21
-
เรื่องชุดรัฐมนตรีรักชาติที่ลงต่อเนื่องมาเป็นอาทิตย์ เขียนเพื่อระบายอารมณ์คนเขียน
หงุดหงิดเมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้นซ้ำซากในบ้านเมือง
เรื่องที่เขียนเป็นส่วนผสมของขำขันที่เคยอ่านมา คิดเองบ้าง จากหนังสือที่เคยเขียนบ้าง เช่น หลังอานบุรี แต่ไม่ได้เจาะจงนักการเมืองคนไหนเป็นพิเศษ
ตัวละคร 'รัฐมนตรีรักชาติ' จึงทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ของนักการเมืองในภาพรวมมากกว่า
ในท่อนหนึ่งของเรื่อง หลังอานบุรี รัฐมนตรีกล่าวตัดพ้อว่า "บ้านเมืองเรานี่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง คืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี เป็นต้องตัดสินให้ผิดไว้ก่อน ยี้ไว้ก่อน ทุจริตไว้ก่อน ผมว่ามันไม่ยุติธรรม มีกระดาษทิชชูไหมครับ ผมอยากร้องไห้..."
ท่อนนี้เขียนเพราะผู้อ่านบางคนเคยวิจารณ์ผมนานมาแล้วว่า ผมมีอคติกับนักการเมืองไทย ทั้งที่เมืองไทยก็มีนักการเมืองดีๆ เหมือนกัน
ผมก็เห็นด้วยนะ หลังจากนั้นผมก็เพลาๆ การด่ารัฐมนตรีไปพอสมควร แต่ก็หวนกลับมาเขียนใหม่ เพราะนักการเมืองดีๆ ที่ว่านั่นมีน้อยจริงๆ
ผมไม่ใช่นักเขียนคนเดียวที่เขียนเสียดสีรัฐมนตรี งานหลายชิ้นของ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ก็เล่นเรื่องนี้ แสบๆ คันๆ รสเข้มเหมือนเอสเพรสโซสิบช็อต
ชาติ กอบจิตติ ก็เล่น เช่น บริการรับนวดหน้า
ผมเองเขียนทั้งในรูปวรรณกรรมซีเรียส เช่น เรื่องสั้นชื่อ อาเพศกำสรวล ไปจนถึงหัสคดี เช่น หลังอานบุรี ผู้ชายคนที่ตามรักเธอทุกชาติฯ
งานเขียนเป็นเครื่องมือสะท้อนสังคม ตราบใดที่ยังมีการเขียนถึงตัวละครประเภท 'รัฐมนตรีรักชาติ' ก็อาจชี้ว่า เรายังก้าวไม่พ้นวงจรอุบาทว์ของการเมืองไทย
วินทร์ เลียววาริณ
2-6-250 วันที่ผ่านมา -
ครั้งหนึ่งท่านรัฐมนตรีรักชาติถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ
แน่นอน ตามวิถีปฏิบัติของประเทศที่เจริญแล้ว ก็มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเขา
เนื้อหาต่อไปนี้ถอดมาจากเทปการสอบสวนที่ข้าพเจ้าส่งสายลับ อีธาน ฮันท์ ไปขโมยมาให้
.......................
กรรมการ 1 : มีคำกล่าวหาว่าท่านร่ำรวยผิดปกติ
รัฐมนตรีรักชาติ : ก่อนอื่นผมดีใจที่มีการตรวจสอบ จะได้หมดสิ้นข้อกังขา รัฐมนตรีเป็นคนของประชาชน ต้องผ่านการตรวจสอบได้ เสมือนทองแท้ไม่กลัวไฟ หรือภาษาอังกฤษว่า Real gold no grua fire.
กรรมการ 1 : ท่านเข้าเรื่องเลยได้ไหม
รัฐมนตรีรักชาติ : ย่อมได้ ทำไมจะไม่ได้ ต้องได้ซี เพราะทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ หรือภาษาอังกฤษว่า Real gold no grua fire.
กรรมการ 2 : ท่านไปเรียนภาษาอังกฤษที่ไหน
รัฐมนตรีรักชาติ : จากสหรัฐฯ ผมจบจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียอิงแลนด์
กรรมการ 1 : แต่มีคนบอกว่ามันเป็นมหาวิทยาลัยห้องแถว
รัฐมนตรีรักชาติ : จะเป็นห้องแถวหรือห้องเช่า แล้วไงหรือ? ความรู้ก็คือความรู้ เหมือนเหล็กดีย่อมผ่านความร้อนได้ เพราะทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ หรือภาษาอังกฤษว่า Real gold no grua fire.
กรรมการ 2 : ขอย้ำอีกที ท่านเข้าเรื่องเลยได้ไหม
รัฐมนตรีรักชาติ : ผมเห็นด้วยการการตั้งกรรมการตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผม ไม่มีนอกมีใน อย่างนี้สิผมชอบ ผมน่ะเป็นพวกที่ชอบปิดทองหลังพระครับ ขออนุญาตพูดอะไรหน่อยเถอะครับ บ้านเมืองเรานี่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง คืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี เป็นต้องตัดสินให้ผิดไว้ก่อน ยี้ไว้ก่อน ทุจริตไว้ก่อน ผมว่ามันไม่ยุติธรรม มีกระดาษทิชชูไหมครับ ผมอยากร้องไห้...
กรรมการ 3 : ท่านมีทรัพย์สินที่แจกแจงถึง 8,467 ล้าน ท่านพอเล่าให้ฟังได้ไหมครับว่าทำไมท่านเป็นรัฐมนตรีแค่ไม่กี่ปี จึงรวยอย่างนี้
รัฐมนตรีรักชาติ : ทำไมผมถึงรวยอย่างนี้? เรื่องมันยาว พวกคุณมีเวลาพอหรือ?
กรรมการ 4 : ว่ามาเลยครับ พวกเราดูถ่ายทอดสภาพบ่อยๆ
กรรมการ 5 : ผมก็ดูซีรีส์บ่อยๆ 100 ตอนจบเป็นเรื่องปกติ
รัฐมนตรีรักชาติ : ย่อมได้ แต่ผมจะเริ่มเล่าตรงไหนดีนะ เรื่องมันยาวหรือภาษาอังกฤษว่า long potato
กรรมการ 1 : ท่านก็พูดสั้นหน่อย มันก็ไม่ยาวเอง
รัฐมนตรีรักชาติ : ได้ครับ ไม่ยาวก็ได้ คือผมเป็นคนที่รักการผจญภัย ตอนเด็กผมชอบอ่าน เพชรพระอุมา เรื่องเกี่ยวกับนิยายปรัมปรา ประเภทเมืองลับแลอะไรเทือกนั้น เมื่อโตขึ้นผมก็มักเข้าป่าเสาะหา
กรรมการ 2 : เสาะหาขุมทรัพย์เพชรพระอุมา?
รัฐมนตรีรักชาติ : ใช่ครับ
กรรมการ 3 : อินโทรนานมาก แล้วนี่มันเกี่ยวกับบัญชีทรัพย์สินตรงไหนครับ?
รัฐมนตรีรักชาติ : "อย่าเพิ่งถาม มันเกี่ยวกันแน่ ผมก็เดินทางเข้าป่า ขึ้นเหนือล่องใต้ มีอยู่วันนึง ผมตั้งแคมป์อยู่ที่ชายป่าหนองน้ำแห้ง ห่างจากกรุงเทพฯหกร้อยกว่ากิโลเมตร เดินเท้าสองวันจะถึงหุบเขาหมาร้องไห้ เหตุที่เรียกหุบเขาหมาร้องไห้ก็เพราะภูเขาลูกนั้นมีรูปร่างเหมือนหมายืน มีตาน้ำตรงปลายหินข้างบนไหลเอื่อยๆ ลงมา ดูเหมือนหมายืนร้องไห้จริงๆ จากหุบเขานั่นเดินทางไปอีกครึ่งวันจะพบแม่น้ำขวางอยู่ ล่องแพไปตามแม่น้ำสายนั้นสักสามชั่วโมง ขึ้นฝั่งแล้วเดินเท้าอีกราวสองวันสองคืน ผ่านดงต้นไม้กินหมา ก็จะถึงหุบเขาชื่อ...
กรรมการ 1 : เอาเป็นว่าไกลมากก็แล้วกัน
รัฐมนตรีรักชาติ : ใช่ จากที่นั่นเดินเท้าต่ออีกสองวันจะถึงเขาแม่หม้าย เหตุที่ชาวบ้านเรียกว่าเขาแม่หม้ายก็เพราะครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...
กรรมการ 5 : ได้โปรดย่อหน่อยเถอะครับท่าน นี่คุณ crab เรื่องยาวกว่าซีรีส์ร้อยตอนจบเสียอีก
รัฐมนตรีรักชาติ : พวกคุณเคยไปที่นั่นมั้ย? เป็นป่าทุรกันดารมาก ทั้งทาก ปลิง ค้างคาวกินเลือด ต้นไม้กินหมา ผีป่า ซอมบี้สารพัด ตอนนั้นเป็นเวลาเย็น อากาศมัวซัว ผมเอนกายพักหลังจากที่เหนื่อยจากการเดินป่ามาทั้งวัน ทันใดนั้นผมเห็นร่างหนึ่งคลานออกมาจากราวป่า ผมคิดว่าตัวเองตาฝาดไป เพ่งดูอีกนาน สายตาไม่ได้หลอกผม...ร่างนั้นเป็นชายคนหนึ่งในสภาพผอมโซ เห็นกระดูกซี่โครงสองสามซี่ทะลุออกมา เขาอยู่ในสภาพขาดสารอาหารมานานหลายสัปดาห์ ผมไม่รู้ว่าเขารอดชีวิตมาได้ยังไงจากป่าโหดนั่น เขาร้องว่า "น้ำ ขอน้ำกินหน่อย"
ผมเอาน้ำให้เขา เมื่อดื่มเสร็จเขาก็เล่าให้ผมฟังว่า เขาบาดเจ็บหลังจากเดินป่ามานานหลายเดือน เขาเล่าถึงเมืองลับแลชื่อมรกตนคร ที่ซ่อนอยู่หลังขุนเขาพระศิวะทะมึนโน่น มันเป็นเมืองที่ตัดขาดทุกอย่างจากโลกภายนอก ไม่มี wifi ไม่มีเน็ต...
กรรมการ 2 : เรื่องของท่านอีกยาวมั้ยครับ คณะกรรมการไม่มีเวลาทั้งวันนะ ต้องกลับไปดูซีรีส์
รัฐมนตรีรักชาติ : ใจเย็นๆ พวกคุณอย่าขัดบ่อยๆ ซี แล้วมันก็วาวหรอก นี่ผมเล่าถึงไหนแล้ว? อ้อ! ที่มรกตนครมีแก้วแหวนเงินทองมหาศาลที่เราใช้กันในร้อยชั่วชีวิตก็ไม่หมด ไม่เคยมีใครไปถึงสถานที่นั่นมาก่อน นักเดินทางทุกคนที่หวังไปหาขุมทรัพย์ตายกลางทางทั้งนั้น เนื่องจากต้องผจญกับอันตรายสารพัด...
กรรมการ 3 : รายละเอียดท่อนนี้คุณไปออกยูทูบรายการสารคดีเดินป่าล่าสัตว์จะเหมาะกว่าครับท่าน
รัฐมนตรีรักชาติ : เอ! เดี๋ยวอย่าเพิ่งขัด นี่ไม่ใช่หม้อ ไม่ใช่รองเท้า ไม่ต้องขัด เขาเล่าว่าเขาได้ลายแทงมาจากนักเดินทางอีกคนหนึ่ง ที่ได้มาจาก...กรรมการ 5 : สรุปสั้นๆ ว่า ความร่ำรวยผิดปกติของท่านมาจากขุมทรัพย์เพชรพระอุมา ที่ท่านขุดมาจากมรกตนคร
รัฐมนตรีรักชาติ : ใช่ครับ ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์
กรรมการ 2 : แล้วท่านพิสูจน์ได้ไหมว่าท่านไปมรกตนครจริงๆ มีรูปถ่ายไหมครับ?
รัฐมนตรีรักชาติ : โธ่! จะมีได้ยังไง มรกตนครมันอยู่ในโลกอีกมิติหนึ่ง หรือภาษาอังกฤษว่า อะน่าเด้อ ไดเมนชั่น ถ่ายรูปไม่ติดหรอก
กรรมการ 1 : สรุปก็คือท่านร่ำรวยมาแบบปกติ ด้วยความบากบั่นเดินป่าของท่านเอง
รัฐมนตรีรักชาติ : คอร์เร็คท์
กรรมการ 1 : ฟังดูเหลือเชื่อ แต่ผมเชื่อสิ่งที่ท่านเล่ามา เพราะสีหน้าท่านไม่มีแววโกหก
กรรมการ 2 : ผมก็เชื่อสิ่งที่ท่านเล่ามา เพราะน้ำเสียงท่านไม่มีแววโกหก
กรรมการ 3 : ผมเห็นด้วยคน เพราะนัยน์ตาท่านไม่มีแววโกหก
กรรมการ 4 : เรื่องที่ท่านเล่ามีเหตุผล เพราะหน้าท่านไม่มีแววโกหก
กรรมการ 5 : ผมก็เชื่อ งั้นก็ตามนี้ คณะกรรมการสรุปว่าท่านร่ำรวยปกติ
กรรมการ 1 : ผมกลับไปดูซีรีส์ดีกว่า
กรรมการ 2 : ผมจะกลับไปนอนพักหู
รัฐมนตรีรักชาติ : ส่วนผมจะกลับไปใช้บริการนวดหน้าอีกรอบ มันได้ผลจริงๆ
วินทร์ เลียววาริณ
2-6-25(ดัดแปลงจาก หลังอานบุรี)
0 วันที่ผ่านมา -
โลกของชาวมนุษย์ยึดมั่นถือมั่นหลายเรื่องทั้งเรื่องดีและไม่ค่อยดี ทับถมต่อเนื่องกันมาทีละชั้นจนเป็นประเพณี ค่านิยม กฎหมาย และหลักการ บ่อยครั้งมันก็กลายเป็นฟอสซิลหินแห่งความคิดที่ฝังหัว ลบไม่ได้ เปลี่ยนแปลงแก้ไขตีความใหม่ไม่ได้ กลายเป็นพันธนาการทางความคิดไป
ที่เบาหน่อยเช่น กติกาไวน์แดงต้องดื่มคู่กับเนื้อ, ไวน์ขาวต้องดื่มคู่กับปลา, สีรองเท้าต้องเหมือนสีเข็มขัด, แขนเสื้อเชิ้ตยาวกว่าเสื้อนอกเล็กน้อย, ปลายเนกไทต้องแตะหัวเข็มขัดพอดี, แต่งงานแล้วต้องสวมแหวนที่นิ้วนาง ฯลฯ
ที่กลาง ๆ เช่น ชีวิตสมรสไม่มีความสุขก็ต้องทนอยู่ด้วยกันจนวันตายเพื่อเห็นแก่ลูก ฯลฯ
ที่หนักหน่อยเช่น ประเพณีประหารชีวิตคนรักร่วมเพศ, ประหารคนที่มีความสัมพันธ์กับคนต่างศาสนาโดยขว้างหินใส่จนตาย, สงครามศาสนา ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นฟอสซิลความคิดที่ฝังรากลึก แก้ไขยาก
การเกิดฟอสซิลในโลกกินเวลาล้าน ๆ ปี แต่ฟอสซิลในหัวเราเกิดขึ้นง่ายและเร็วกว่านั้นมาก เพียงแค่มุดหัวเข้าไปในกล่องแล้วท่องคติ “นี่ทำไม่ได้ นั่นก็ทำไม่ได้” และ “นี่ผิดหลัก นั่นก็ผิดหลัก” ไปเรื่อย ๆ มันเป็นคาถาวิเศษที่เสกกรงมาขังตัวเราได้ราวเนรมิต
พุทธทาสภิกขุกล่าวว่า “ความทุกข์ทั้งปวงสรุปรวมอยู่ที่อุปาทาน อันแสดงอาการออกมาเป็นความรัก-โกรธ-เกลียด-กลัว-วิตกกังวล-อาลัยอาวรณ์- อิจฉาริษยา-หึงหวง-อาฆาตพยาบาท-ความดิ้นรนทางเพศ-ความละเหี่ย-และความฟุ้งซ่าน ดังนั้นจงรู้จักสิ่งที่เรียกว่าอุปาทานให้ถึงที่สุด”
อุปาทานแปลว่าการยึดมั่นถือมั่น ว่าต้องเป็นอย่างนั้นๆ
อิสรภาพทางใจที่แท้จริงเกิดขึ้นได้เมื่อใจว่างเปล่า ปราศจากกติกา
นี่มิได้แปลว่าเราต้องทลายกฎกติกา ประเพณีทุกอย่างในโลก มันบอกว่าการเป็นอิสระที่แท้หมายถึงไม่ยึดติดกับกติกา และไม่ยึดติดกับการต้องไม่มีกติกา
ใจที่ว่างได้ต้องมีความกล้าด้วย กล้าที่จะแย้งความคิดที่ตกตะกอนเป็นฟอสซิล
ดังนั้นเราจึงควรตรวจสอบหัวของเราว่าความคิดแต่ละอย่างของเรามีตะกอนเกาะหนาจนกลายเป็นฟอสซิลแล้วหรือเปล่า
แล้วดำเนินชีวิตไปตามความเหมาะสมและสำรวม
วินทร์ เลียววาริณ
2-6-25
............................จาก ชีวิตเป็นเรื่องชั่วคราว
31 บทความกำลังใจ ราคาเพียง 190 บาท = บทความละ 6.1 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้วโปรโมชั่นพิเศษ https://shope.ee/Vj8bA8a4u?share_channel_code=6
0 วันที่ผ่านมา -
วันนี้ผมไปร่วมงานฉลองครบ 50 ปีการเป็นนิสิตคณะสถาปัตย์ฯ จุฬาฯ
ช่วงเวลานี้ในปี 2518 ผมยังเป็นละอ่อน เข้าเรียนปีแรก พร้อมๆ กับเพื่อนใหม่รวม 83 คน
เวลาผ่านไป 50 ปีอย่างไม่น่าเชื่อ
ตอนนี้ทุกคนอยู่ในวัยแตะเลข 7
แปลกนะ ใจไม่ได้รู้สึกแก่ แต่ร่างกายอ่อนแรงลงอย่างรู้สึกได้
เวลาร่างกายร่วงโรย มันก็ร่วงโรยของมัน หนีไม่พ้น แต่ใจยังสามารถคงความหนุ่มสาวได้อยู่
โดยเฉพาะเมื่อมีความหลังที่สวยงาม น่าจดจำ
วันนี้ เรามาร่วมย้อนเวลากลับสู่เหตุการณ์ที่เด็ก 83 คนมาเจอกันครั้งแรกเมื่อ 50 ปีก่อน ที่นี่ จุดนี้
เด็ก 83 คนผ่านประสบการณ์มากมายที่นี่ ผ่านการเรียน ผ่านการสอบ ผ่านการทำกิจกรรม ผ่านการเที่ยวเล่น ผ่านชีวิตในสตูดิโอ ผ่านการนำเสนองาน ผ่านเกรด A B C D ไปจนถึง F ผ่านการนอนค้างคืนในสตูฯ ผ่านเส้นตายนับครั้งไม่ถ้วน
การพบปะเพื่อนร่วมชั้นเรียน หลังจากผ่านมาครึ่งศตวรรษก็เป็นความรู้สึกที่ดีและพิเศษ
วินทร์ เลียววาริณ
1 มิถุนายน 25681 วันที่ผ่านมา -
พระเซน บาซูโอะ โตกุโช (1327–1387) เขียนถึงศิษย์คนหนึ่งที่กำลังจะตายว่า
"สาระของจิตของเจ้ามิได้เกิด และมิได้ดับ มันมิได้ดำรงอยู่ และมิได้เสื่อมสลาย มันมิใช่ความว่างเปล่าที่ไร้สิ่งใด มันไร้สีและรูปทรง มันไม่มีความสุขและทุกข์จากความเจ็บปวด อาจารย์รู้ว่าเจ้ากำลังป่วยหนัก แต่เช่นศิษย์เซนที่ดี เจ้ากำลังเผชิญหน้ากับโรคภัยตรง ๆ เจ้าอาจไม่รู้ว่าใครกำลังทนทุกข์ แต่จงถามตัวเองว่า อะไรคือสาระของจิตนี้ คิดเพียงแต่เรื่องนี้ก็พอ
"เจ้ามิได้ต้องการสิ่งอื่นใด ไม่ปรารถนาอะไร จุดสุดท้ายของเจ้าที่ไม่สิ้นสุด ก็เป็นเช่นเกล็ดหิมะที่ละลายกลางลมบริสุทธิ์"
วินทร์ เลียววาริณ
1-6-25................................
จาก มังกรเซน และ Mini Zen (เซนฉบับการ์ตูน)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้วมังกรเซน Shopee คลิก https://shope.ee/2VUCymbmSh?share_channel_code=6
1 วันที่ผ่านมา