-
วินทร์ เลียววาริณ2 เดือนที่ผ่านมา
เช้าวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ ประชาชนชาวไทยตื่นขึ้นมาพร้อมข่าวว่ารัฐบาลเก่าถูกโค่นแล้ว
คณะรัฐประหารคือกลุ่มทหารนอกราชการ นำโดย พล.ท. ผิน ชุณหะวัณ น.อ. กาจ กาจสงคราม พ.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ พ.อ.สฤษดิ์ ธนะรัชต์ พ.อ. ถนอม กิตติขจร พ.ท. ประภาส จารุเสถียร ร.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ เรียกกลุ่มของตนเองว่า คณะทหารแห่งชาติ
เช้าวันที่ ๘ พฤศจิกายน พล.ท. ผิน ชุณหะวัณ หัวหน้าคณะรัฐประหาร แถลงต่อสื่อมวลชนถึงเหตุผลที่ก่อรัฐประหารด้วยน้ำตานองหน้าว่า “เรายึดอำนาจเพราะความจำเป็นจริง ๆ”
ทันใดนั้น พล.ท. ผิน ชุณหะวัณ ก็ได้รับฉายาจากชาวบ้านว่า ‘วีรบุรุษเจ้าน้ำตา’ หรือ ‘บุรุษผู้รักชาติจนน้ำตาไหล’
คณะทหารแห่งชาติแต่งตั้งจอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้หมดบทบาททางการเมืองไปแล้ว เป็นผู้บัญชาการทหารแห่งชาติ มีอำนาจควบคุมเจ้าหน้าที่ของรัฐ
คณะรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ ๒๔๘๙ และประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ๒๔๙๐ ฉบับชั่วคราว หรือที่เรียกกันว่า รัฐธรรมนูญฉบับใต้ตุ่ม เพราะหลวงกาจสงครามร่างไว้ล่วงหน้า แล้วนำไปซ่อนไว้ใต้ตุ่มในบ้าน เพราะกลัวว่าหากถูกตำรวจจับได้ จะต้องข้อหากบฏ
ผู้ก่อการตั้งใจให้จอมพล ป. เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ใครคนหนึ่งในที่ประชุมรัฐประหารกล่าวว่า “จังหวะยังไม่เหมาะสมที่จอมพล ป. จะเป็นนายกฯ”
“ทำไม?”
“จอมพล ป. ประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐฯ ยากที่ฝ่ายตะวันตกจะยอมรับรัฐบาลใหม่”
“งั้นเราก็ต้องหาตัวแทนขัดตาทัพไปก่อน”
นอมินีก็ไปลงที่พันธมิตรทางการเมือง
นายควง อภัยวงศ์ กับ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ถูกตามตัวโดยด่วนไปพบฝ่ายทหารและจอมพล ป. พิบูลสงคราม
คณะทหารให้ นายควง อภัยวงศ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นายควงถามความเห็นลูกพรรค หลายเสียงว่า “ไม่ควรรับ คุณควงจะเป็นเครื่องมือคณะรัฐประหารเปล่า ๆ”
แต่เสียงลูกพรรคส่วนใหญ่ให้รับ “เพื่อเห็นแก่ชาติบ้านเมือง”
จอมพล ป. ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า “ผมไม่ยอมรับตำแหน่งการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากตำแหน่งทางทหารเท่านั้น แต่ทั้งนี้ผมจะอยู่ช่วยไปพลางก่อน จนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ และมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาราษฎรเสร็จแล้ว”
เพื่อล้างคาวคณะรัฐประหารให้หมดไป นายควง อภัยวงศ์ ก็จัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๑ พรรคประชาธิปัตย์ได้รับคะแนนเสียงข้างมาก นายควง อภัยวงศ์ จึงเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย
นายควงบอกคนใกล้ชิดว่า “หากราคาสินค้าไม่ลดลงมา ผมตายแน่”
ผ่านไปไม่กี่เดือน ราคาสินค้าก็ยังไม่ลง
ในวันที่ ๖ เมษายน ๒๔๙๑ นายทหารสี่นายไปหานายควง อภัยวงศ์ ที่บ้าน หนึ่งในนั้นกล่าวว่า “กระผมในนามของคณะรัฐประหารมาเพื่อแจ้งแก่ท่านนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาตัวเองในการกราบถวายบังคมลาออก”
ก่อนลากลับกล่าวอย่างสุภาพว่า “เราจะรอคอยคำตอบภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง”
ยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อมา ประเทศไทยก็ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่หน้าเดิม
จอมพล ป. พิบูลสงคราม
เมื่อเหตุผลที่จี้ให้นายควงลาออกคือราคาสินค้าสูง และหากจอมพล ป. ไม่สามารถแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงได้ ก็ไม่ชอบธรรมที่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี
ดังนั้นในเวลาไม่นาน รัฐบาลก็ประกาศตั้งราคาสินค้าทั้งหมดให้ต่ำลงมาได้อย่างน่าอัศจรรย์!
ราคาสินค้าลดตามคำสั่ง แม้คุณภาพและปริมาณลดตามไปด้วย แต่ก็ถือว่ารัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจสำเร็จแล้ว!
แต่รัฐประหาร ๒๔๙๐ ยังไม่ได้ถอนรากถอนโคนศัตรูทางการเมืองที่แท้จริง
ปรีดี พนมยงค์
...........................
ในราตรีรัฐประหาร ๒๔๙๐ เมื่อทหารบุกทำเนียบท่าช้าง นาทีที่เสียงปืนรถถังยิงประตูทำเนียบ ปรีดี พนงยงค์ ก็หนีไปได้อย่างหวุดหวิดพร้อมคนสนิทสองสามคน
นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ รัฐมนตรี บอกว่า “เราสามารถสู้ได้ เพราะมีอาวุธเสรีไทยมากพอ หากทหารเรือร่วมด้วย”
นายเตียง ศิริขันธ์ เสนอว่า “เราสามารถยกไปตั้งหลักที่อีสาน และประกาศให้อีสานเป็นรัฐอิสระ”
แต่ทหารเรือชั้นผู้ใหญ่ปฏิเสธ บอกว่า “ต่อให้สู้ชนะ ก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้ประชาชนไม่เอารัฐบาลชุดนี้”
ปรีดี พนมยงค์ หนีไปหลบภัยที่ฐานทัพเรือสัตหีบระยะหนึ่ง เพื่อประเมินสถานการณ์ หลังจากนั้นก็เดินทางไปสิงคโปร์ ด้วยความช่วยเหลือของทหารเรือ
อดีตหัวหน้าเสรีไทยผู้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯและอังกฤษ ได้รับความช่วยเหลือจาก น.อ. สแตรทฟอร์ด เดนนิส ผู้ช่วยทูตทหารเรืออังกฤษ กับ น.อ. อัลเฟรด การ์เดส ผู้ช่วยทูตทหารเรือสหรัฐฯ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก เจฟฟรี ทอมป์สัน เอกอัครราชทูตอังกฤษ เอ็ดวิน สแตนตัน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย วางแผนส่งนายปรีดีไปที่สิงคโปร์
น.อ. สแตรทฟอร์ด เดนนิส พา ปรีดี พนมยงค์ และผู้ติดตามสามคนไปส่งลงเรือยนต์ที่ท่าเรือกรุงเทพฯ น.อ. อัลเฟรด การ์เดส เป็นผู้ขับเรือชักธงชาติสหรัฐฯ ออกจากปากน้ำเจ้าพระยา ไปส่งขึ้นเรือบรรทุกน้ำมันบริษัทเชลล์ไปสิงคโปร์ โดยเอกอัครราชทูตอังกฤษและสหรัฐฯติดต่อกับผู้จัดการบริษัทเชลล์ในประเทศไทยก่อนแล้ว
ปรีดี พนมยงค์ เดินทางไปถึงสิงคโปร์วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ผู้สำเร็จราชการสิงคโปร์ ลอร์ด คิลเลิน มาต้อนรับ พักที่สิงคโปร์หกเดือน
ระหว่างนั้นปรีดีขอให้สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน (นายดิเรก ชัยนาม เป็นเอกอัครราชทูต) และสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงนานกิง (สงวน ตุลารักษ์ เป็นเอกอัครราชทูต) ออกหนังสือเดินทางให้
ในเดือนพฤษภาคม ๒๔๙๑ ปรีดี พนมยงค์ ไปฮ่องกง แล้วไปต่อที่เซี่ยงไฮ้ และตัดสินใจไปลี้ภัยที่เม็กซิโก ผ่านเมืองซาน ฟรานซิสโก
ขณะที่ ปรีดี พนมยงค์ กำลังจะเดินทางออกจากจีน รองกงสุลสหรัฐฯประจำเซี่ยงไฮ้ นายนอร์แมน บี. ฮันนาห์ กระชากหนังสือเดินทางของนายปรีดีจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของจีน และขีดฆ่าวีซ่าของสหรัฐฯที่สถานทูตสหรัฐฯในลอนดอนประทับตราให้ ผลคือ ปรีดี พนมยงค์ ไม่สามารถไปเม็กซิโก
อดีตหัวหน้าเสรีไทยรู้สึกเศร้าใจ เพราะเมื่อปีก่อนเพิ่งได้รับเหรียญ Medal of Freedom จากรัฐบาลสหรัฐฯ แต่กลับถูกหมิ่นประมาทไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อย
ไม่นานกงสุลใหญ่สหรัฐฯก็มาขอโทษ แจ้งว่า นายนอร์แมนเป็นสายลับซีไอเอ กระทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯให้ประทับตราวีซ่าคืนแล้ว
ปรีดี พนมยงค์ เปลี่ยนใจไม่ไปสหรัฐฯ แต่อยู่เมืองจีนต่อไป ตามคำเชิญของจอมพลเจียงไคเช็ก
คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต การขีดฆ่าวีซ่าของสหรัฐฯทำให้ ปรีดี พนมยงค์ ไม่ได้ไปสหรัฐฯและเม็กซิโก มันเปลี่ยนวิถีการเมืองไทยไปด้วย
ปรีดี พนมยงค์ ตัดสินใจหวนกลับเมืองไทย
สะสางบัญชี
ผลก็คือรัฐประหารครั้งใหม่
วินทร์ เลียววาริณ
๓๐-๔-๖๘............................
ย่อความจากชุด ประวัติศาสตร์ที่เราลืม
ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ คุ้มที่สุด 6 เล่ม 1,000 บาท จากราคาปก 1,605.-
118 เรื่อง = เรื่องละ 8.4 บาท หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้วสั่งทาง Shopee https://shope.ee/30QSjhDgNg?share_channel_code=6
0- แชร์
- 32
-
ผมดู Superman เวอร์ชั่นหนังครั้งแรกเป็นฉบับของ ริชาร์ด ดอนเนอร์ แม้ว่าก่อนหน้านั้นมีคนสร้างเรื่องนี้เป็นหนังมาตั้งแต่ปี 1941
ฉบับของ ริชาร์ด ดอนเนอร์ ซูเปอร์แมนแสดงโดย คริสโตเฟอร์ รีฟ โด่งดังมากในบ้านเรา ทุกคนหลงรัก คริสโตเฟอร์ รีฟ เทคนิคภาพหวือหวามาก แต่ยังไม่ใช่ดิจิตัล เป็น optical
ทันใดนั้นมันก็สร้างตลาดซูเปอร์ฮีโรขึ้นมา
หลังจากนั้นก็มี Superman อีกหลายเวอร์ชั่น (หลายโครงการไม่ได้เกิด เช่น ฉบับที่กะให้ นิโคลาส เคจ เป็นซูเปอร์แมน)
ฉบับต่อมาที่ผมดูคือเวอร์ชั่น Bryan Singer (ผู้กำกับ The Usual Suspects) ฉบับนี้ค่อนข้างกร่อย ตามมาด้วยฉบับ Zack Snyder (ผู้กำกับ 300) ซูเปอร์แมนเล่นโดย เฮนรี คาวิลล์
ฉบับล่าสุดสร้างโดย เจมส์ กันน์ ฉายในโรงอยู่ตอนนี้
Superman เวอร์ชั่น 2025 เป็นหนังสนุก ให้ความบันเทิงสูง แต่ไม่มีอะไรใหม่ แทบทุกอย่างที่ทำ มาร์เวลทำมาแล้ว (ยกเว้นหมา?)
หนังมีความเป็นแฟนตาซีปนไซไฟ ปนการ์ตูน เด็กๆ คงชอบ มันก็ยังวนเวียนในกรอบเดิมของหนังซูเปอร์ฮีโร
ดังนั้นอย่าให้คะแนนดีกว่า เพราะคงไม่สูง หนังดูได้ถ้าไม่คิดมาก เป็นหนังคลายเครียดดี
........................
หมายเหตุนอกเรื่อง จุดหนึ่งในหนัง ซูเปอร์แมนบอกว่าเขาจำเป็นต้องได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์เหลือง (yellow star) หมายถึงพระอาทิตย์ของเรา
ความจริงแล้วนักดาราศาสตร์แบ่งประเภทดาวออกตามความร้อน ซึ่งประกอบด้วยดาวแบบ M, K, G, F, A, B, O โดยที่ดาวแบบ M ร้อนน้อยที่สุด ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงดาวแบบ O ซึ่งร้อนที่สุด
พระอาทิตย์ของเราเป็นแบบ G เรามองเห็นเป็นสีเหลือง แต่จริงๆ มันเป็นสีขาว เหตุที่เราเห็นเป็นสีเหลืองเพราะชั้นบรรยากาศของเรา ซูเปอร์แมนบินข้ามจักรวาล น่าจะมองเห็นสีจริง เอ้า! ไม่เห็นก็ไม่เห็น พระบ้านเราหลายรูปก็มองไม่เห็นสีจริง เห็นแต่สีกา
วินทร์ เลียววาริณ
21-7-25วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
0 วันที่ผ่านมา -
ในโพสต์ก่อน ผู้อ่านอาจสังเกตว่า ผมแจ้งว่าหนังสือเรื่อง ความฝันโง่ๆ หมดแล้วและจะไม่ตีพิมพ์อีก
นี่ก็เป็นไปตามที่เคยบอกว่า จะจำหน่ายหนังสือส่วนใหญ่จนหมด และไม่พิมพ์ใหม่
นอกจาก ความฝันโง่ๆ เล่มอื่นๆ เช่น เขียนไปให้สุดฝัน หัวกลวงในหลุมดำ ในหลุมรัก สมุดปกดำฯ ก็หมดแล้ว
เป็นสัญญาณว่าโรงละคร 113 เริ่มปิดม่าน
ตอนนี้มีหลายเล่มที่ใกล้หมด ดังนั้นถ้าจะเก็บก็เก็บตอนนี้ขณะที่ยังลดราคาอยู่ หลังจากนี้ถ้าอยากได้ ก็ต้องซื้อมือสองที่อาจแพงขึ้น
อ้อ! ชุดสุดคุ้ม ประวัติศาสตร์ที่เราลืม หกเล่มพันเดียว ก็ลดน้อยลงแล้ว ถ้าหมดแล้วก็ไม่พิมพ์อีก
ควักเงินตัวเองมาทำหนังสือก็ยี่สิบกว่าปีแล้ว เงินหมดแล้ว และเหนื่อยมาก ได้เวลาเกษียณจริงๆ แล้ว
วินทร์ เลียววาริณ
21-7-25ดูรายการหนังสือได้ที่เว็บ https://www.winbookclub.com/store และ Shopee
0 วันที่ผ่านมา -
แอริค วีเลนไมเยอร์ เกิดมาพร้อมโรค Retinoschisis ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมหายากที่ทำให้เขาตาบอดตอนอายุสิบสาม พ่อของเขารู้ดีว่าลูกชายไม่มีวันหนีพ้นสภาพตาบอดแน่นอน และเตรียมตัวรับมือมันเนิ่น ๆ พ่อว่า "สิ่งที่แย่ที่สุดที่คุณทำคือการเลี้ยงเด็กตาบอดแบบไข่ในหิน" ดังนั้นพ่อจึงส่งเสริมให้เขากล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ยาก ๆ กล้าเสี่ยงในสิ่งที่พอรับมือได้
ก่อนอายุสิบสาม ภาพรอบตัวของเขาเริ่มหายไปทีละสิ่ง ทางเดิน ตัวหนังสือ ทุกอย่างค่อย ๆ เลือนหายไป วันหนึ่งเขาเดินตกลงไปในหนองน้ำ และรู้ตัวว่าเขากลายเป็นคนตาบอดแล้ว
แอริคไม่มีทางเลือกนอกจากจะเริ่มเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับการเป็นคนตาบอด แทนที่จะครุ่นคิดในสิ่งที่เขาทำไม่ได้ เขาหันไปเพ่งกับสิ่งที่เขาทำได้ แม้ชีวิตจะไม่มีวันเหมือนเดิม แต่ทัศนคติที่ว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นการผจญภัยอีกครั้ง เป็นสิ่งที่เขาต้องมีก่อนที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้ เขาเลือกทาง 'น้ำเต็มครึ่งแก้ว' แทนที่จะเป็น 'น้ำพร่องครึ่งแก้ว'
หลังแม่ตาย ครอบครัวของเขาไปเดินป่าในเปรู แอริคเดินป่าระยะทาง 27 ไมล์โดยใช้ไม้เท้า และติดใจการผจญภัยในป่าแต่นั้นมา ต่อมาพวกเขาก็เดินท่องสเปน ปากีสถาน ปาปัวนิวกินี การเดินป่าด้วยกัน เป็นทางหนึ่งที่ช่วยยึดครอบครัวที่ไม่มีแม่เข้าด้วยกัน ผ่านมาหลายปี ชายตาบอดก็ออกเดินทางไปปีนเขาที่สูงที่สุดในโลก - เอเวอเรสต์
ความจริงการป่ายปีนขึ้นเอเวอเรสต์ครั้งนี้เป็นทั้งเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม องค์กรสหพันธ์คนตาบอดแห่งชาติอยากจะประชาสัมพันธ์ให้คนในประเทศรู้ว่า 70% ของคนตาบอดในอเมริกาว่างงาน แอริคเข้าใจความขมขื่นและอุปสรรคของคนตาบอด จึงยินดีเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ แต่บางทีเขาอาจพิสูจน์ว่ากำลังใจมนุษย์อยู่เหนือความทุพพลภาพ
แอริค วีเลนไมเยอร์ ยืนอยู่ระหว่างกลางแผ่นดินกับสวรรค์ เขามองไม่เห็นอะไร แต่สัมผัสความเวิ้งว้าง ความเย็นเยือกของอากาศรอบตัว และเสียงแห่งภูผา เขานึกถึงอุปสรรคมากมายที่เขาฟันฝ่ากว่าจะมายืนอยู่ตรงจุดนี้ และมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ไกลออกไป
หลายคนถามเขา "ทำไมถึงปีนเขาในเมื่อคุณมองไม่เห็นอะไรเลย?" เขาบอกว่า "คุณไม่ได้ปีนเขาเพื่อดูวิว ไม่มีใครทรมานตัวเองบากบั่นปานนี้เพื่อขึ้นไปดูวิว ความสวยงามที่แท้จริงของชีวิตอยู่ที่ข้างภูเขา ไม่ใช่บนยอด"
เขาเคยดิ่งพสุธาเดี่ยวมากว่าห้าสิบครั้ง เคยเป็นนักมวยปล้ำ วิ่งมาราธอน เป็นนักสกี นักดำน้ำ แต่คนตาบอดที่ปีนภูเขาที่สูงที่สุดในโลก? มันเป็นเรื่องตลก หลายคนว่าเป็นความบ้า ความโง่เง่าที่สุด
นานหลายปีก่อนขึ้นเอเวอเรสต์ เขาเริ่มจากวิ่งขึ้นบันไดตึกสูงห้าสิบชั้นโดยแบกเป้หนัก 70 ปอนด์ที่หลัง เขาฝึกฝนอย่างหนักหน่วง หลังจากนั้นก็ไต่เขาทีละลูก ภูเขาแม็คคินลีย์ที่อะแลสกา ภูเขาอคอนคากัวที่อาร์เจนตินา ภูเขาวินสันที่แอนตาร์คติกา ภูเขาคิลิมันจาโรที่แทนซาเนีย
อันตรายของการไต่ภูเขาแม็คคินลีย์คือพื้นหิมะบางที่บดบังหล่มลึกเบื้องล่าง ชายตาบอดใช้ไม้เท้าจิ้มหาความหนาของหิมะก่อนก้าวไปข้างหน้า เรียนรู้การสร้างถ้ำจากหิมะ ให้นักปีนเขานัยน์ตาดีที่เดินหน้าเขาแขวนกระดิ่งขนาดเล็ก ทำให้เขาสามารถตามทางไปได้โดยไม่พลาด ไม้เท้านี้ยังช่วย 'มอง' รอยเท้าที่นักเดินเขาก่อนหน้าเขาทิ้งไว้
สันเขาที่แคบที่สุดของภูเขาแม็คคินลีย์กว้างเพียงไม่กี่ฟุต ด้านหนึ่งเป็นเหวลึกหนึ่งพันฟุต อีกด้านหนึ่งเป็นเหวลึกเก้าพันฟุต การเดินทางสำหรับคนตาดีนับว่ายาก มิพักเอ่ยถึงคนตาบอด การก้าวพลาดเพียงก้าวเดียวอาจหมายถึงความตาย แอริคผ่านด่านนั้นมาได้ และทำให้เกิดความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น
ทัศนคติของเขาต่อการปีนเขาไม่ใช่เพื่อเอาชนะ แอริคบอกว่า "คุณไม่เอาชนะภูเขา คุณเป็นส่วนหนึ่งของมัน คุณปีนป่ายขึ้นไปเงียบ ๆ เมื่อมันหลับใหล ถ้าคุณไม่ยอมรับและทำตามกติกา คุณจะถูกมันบดขยี้ ผมชอบความคิดนี้ ผมชอบที่จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ไม่ใช่แปลกแยกจากมัน"
วันที่ 25 พฤษภาคม 2001 แอริค วีเลนไมเยอร์ เป็นคนตาบอดคนแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่ก้าวขึ้นไปถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
แอริค วีเลนไมเยอร์ แสดงให้เราเห็นว่า "ไม่มีอะไรในโลกที่เป็นไปไม่ได้จริง ๆ"
วินทร์ เลียววาริณ
21-7-25จากหนังสือ ความฝันโง่ ๆ
(หนังสือหมดแล้ว และจะไม่ตีพิมพ์อีก)0 วันที่ผ่านมา -
(ต่อจาก https://www.facebook.com/photo?fbid=1338488620973159&set=a.208269707328395)
หลังจากได้รับใบขับขี่แล้ว ท่านรัฐมนตรีรักชาติก็ขับรถคันใหม่ไปตามทางสายเงียบกลางราตรี เครื่องยนต์ Lamborghini Temerario กระหึ่มเมื่อท่านเหยียบคันเร่ง มันเป็นรถที่ท่านสั่งตรงมาจากอิตาลี - ฟูล ออพชั่น
ท่านรัฐมนตรีเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด ท่านไปเป็นประธานพิธีเปิดโรงสีข้าวของชาวนาในจังหวัดนั้น ท่านโอบกอดชาวนา บอกว่า "ผมก็เป็นลูกชาวนา ผมก็ยากจนเหมือนพวกพ่อแม่พี่น้องชาวนา"
ความคิดท่านสะดุดเมื่อแลเห็นตำรวจจราจรโบกรถ ท่านหยุดรถ
ตำรวจคนนั้นเดินมาหา กล่าว "ขอดูใบขับขี่ครับ"
"คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร?"
ตำรวจมองหน้าท่าน "รู้ครับ ท่านเป็นรัฐมนตรี"
"แล้วรู้ใช่ไหมว่าผมคุมเจ้านายคุณอีกที"
"รู้ครับ"
"งั้นผมไปได้แล้วใช่ไหม?"
"ไม่ควรครับ"
"ทำไม?"
"ท่านขับรถเร็วเกินกำหนด ถ้าผมไม่ทำหน้าที่ ผมอาจถูกให้ออกจากราชการ"
"งานผมเยอะมาก ต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เอางี้! ผมให้เงินคุณช่วยไปจ่ายค่าปรับแทนได้ไหม?"
"ได้ครับ ขอสองพัน"
"โห! สองพันมันแพงกว่าค่าปรับอีก"
"ท่านไปจ่ายเองก็ได้ ถนนแถวนี้ก็ไม่ดี รัฐบาลไม่ดูแล"
"โอเค โอเค"
ท่านรัฐมนตรีล้วงกระเป๋า แล้วบอก "ผมไม่ได้พกเงินมา"
"ท่านเป็นถึงรัฐมนตรี ไม่พกเงินสดเลยหรือ?"
"รัฐมนตรีไปไหนมาไหนไม่เคยจ่าย"
"อืม! มีเหตุผล งั้นผมเขียนใบสั่งนะครับ"
"โอเค"
ตำรวจเขียนใบสั่ง ไม่นานท่านรัฐมนตรีรักชาติก็ขับรถไปจากที่นั่น เมื่อถึงบ้าน ท่านรัฐมนตรีรักชาติโทรศัพท์
เสียงปลายสายดังขึ้น "สวัสดีครับ ท่านรัฐมนตรี ท่านโทร.มาเรื่องตำรวจที่ทางหลวงใช่ไหมครับ?"
"ใช่ คุณรู้ได้ยังไง?"
"รู้จากสื่อครับ ตอนนี้คลิปนี้ปลิวว่อน"
"คลิปอะไร?"
"คลิปที่ท่านถูกตำรวจจราจรเรียกให้หยุด"
"กล้องจับหน้าผม?"
"ใช่ครับ"
"ผมไม่ได้ทำผิดไม่ใช่หรือ? ผมไม่ได้ยัดเงินตำรวจ"
"ท่านก็ไม่ได้ทำอะไรผิดครับ"
ท่านรัฐมนตรีรักชาติถอนหายใจ "งั้นก็ไม่มีอะไร"
"มีครับ ตอนนี้โลกโซเชียลคุยเรื่องนี้กันใหญ่"
"คุยอะไร? ก็ไม่มีอะไรนี่นา นี่ถ้าลูกน้องคุณไม่จับผม ก็ไม่มีเรื่องวุ่นวายอย่างนี้"
"ไม่ใช่ลูกน้องผมครับ แถวนั้นไม่มีตำรวจครับ ไอ้คนนั้นเป็นตำรวจปลอม มันตั้งใจลวงท่านอัดคลิป กะให้ท่านยัดเงินแล้วปล่อยข่าว"
"ก็ไม่มีอะไรนี่ ผมแค่ขอให้ตำรวจช่วยไปจ่ายค่าปรับแทน เพราะงานผมเยอะมาก ต้องช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และท้ายที่สุดผมก็ไม่ได้ให้เงินตำรวจ"
"แต่ตอนนี้ประชาชนไม่ได้คุยเรื่องใบสั่ง พวกเขาคุยเรื่องรถของท่าน"
"คุยว่า?"
"ในเมื่อท่านไม่ได้ยัดเงิน กล้องก็หันไปจับที่รถใหม่ของท่าน พร้อมเสียงบรรยายว่า Lamborghini Temerario ราคาเริ่มต้นที่ 23,760,000 บาท ยังไม่ใช่ ฟูล ออพชั่น อย่างรถท่าน ตอนนี้ประชาชนสงสัยว่าท่านเอาเงินที่ไหนมาซื้อรถ ในเมื่อท่านบอกว่าท่านยากจนเหมือนพวกพ่อแม่พี่น้องชาวนา"
วินทร์ เลียววาริณ
20-7-251 วันที่ผ่านมา -
อาจารย์เซน โซเยน ชะคุ สอนกฎที่ท่านปฏิบัติทุกวันตลอดชีวิตของท่าน ได้แก่
- กินแต่พอ ไม่ต้องถึงจุดที่พึงใจ
- ต้อนรับแขกด้วยท่าทีเช่นเมื่อท่านอยู่คนเดียว เมื่ออยู่คนเดียวก็มีท่าทีเช่นเมื่อรับแขก
- ปฏิบัติตามทุกสิ่งที่พูด
- อย่าเสียใจต่ออดีต
- นอนเช่นว่าเป็นการนอนครั้งสุดท้ายในชีวิต เมื่อตื่นขึ้นมา ก็ลุกจากเตียงทันทีราวกับสลัดรองเท้าคู่เก่าออกไป
วินทร์ เลียววาริณ
20-7-25
.............................
จาก มังกรเซน และ Mini Zen (เซนฉบับการ์ตูน)
หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้วมังกรเซน Shopee คลิก https://shope.ee/2VUCymbmSh?share_channel_code=6
Mini Zen Shopee https://shopee.co.th/วินทร์-เลียววาริณ-ชุด-Mini-Zen-และ-Mini-Tao-ราคาปก-430.-พิเศษ-350.-พร้อมลายเซ็นนักเขียน-i.90206829.26404344902?xptdk=8bd1c6c6-b9a2-4870-911f-395d10a6c4af
เว็บ https://www.winbookclub.com/store/detail/244/Mini%20Zen%20คู่%20Mini%20Tao2 วันที่ผ่านมา