• วินทร์ เลียววาริณ
    3 วันที่ผ่านมา

    เวลาเรามองดวงดาวในทางช้างเผือกด้วยตาเปล่า เราย่อมเชื่อว่าแต่ละจุดคือดาวหนึ่งดวง ใช่ไหม?

    อ้าว! ไม่ใช่หรือ?

    คำตอบคือ ใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

    แต่ละจุดดาวที่เรามองดูในยามราตรี มีโอกาสสูงที่มันไม่ใช่ดาวดวงเดียว แต่เป็นดาวคู่ (binary star) หรืออาจจะเป็นดาวหลายดวง (multiple star)

    อย่างที่เกิดขึ้นกับดาวซานถี่ มีสามดวง กลายเป็น three-body problem

    ส่วนดาวคู่ก็คือดาวสองดวง โคจรเกี่ยวร้อยกัน ไปไหนไปด้วยกัน

    เป็น two-body problem

    หนุ่มสาวเวลาอธิษฐานครองรัก ก็สามารถขอให้เกิดใหม่เป็นดาวคู่ ดวงหนึ่งเป็นสามี ดวงหนึ่งเป็นภรรยา หมุนวนกันไปนานแสนนาน โรแมนติกจริงๆ

    ถ้ามองผ่านกล้องโทรทรรศน์ ดวงที่ใหญ่กว่าก็คือดาวภรรยาแหงๆ

    เหตุที่เราเห็นดาวสองดวงเป็นดวงเดียวเพราะมันอยู่ไกลมาก แสงจากดาวสองดวงรวมกันเป็นจุดเดียว

    ยกตัวอย่างดาวซิริอุส (Sirius) ที่สุกสว่างมากกลางฟ้า ก็เป็นดาวคู่

    ทายซิว่ามีดาวคู่สักกี่เปอร์เซ็นต์ของดาวทั้งหมดในทางช้างเผือก?

    ก. 10 เปอร์เซ็นต์

    ข. 20 เปอร์เซ็นต์

    ค. 50 เปอร์เซ็นต์

    ง. อื่นๆ

    คำตอบคือ ง.

    ประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์

    แปลว่าเวลาเรากวาดตาขึ้นมองฟ้ากลางคืน ส่วนใหญ่เป็นดาวคู่ หรือมากกว่าสองดวง

    ส่วนดวงอาทิตย์ของเราเป็นดาวโทน ไม่มีคู่เคียงเรียงหมอน น่าสงสาร

    สิ่งที่น่าคิดต่อก็คือ ถ้าดวงอาทิตย์ของเราที่เป็นดาวโทนมีดาวเคราะห์หลายดวงโคจรรอบ ดาวคู่จะมีดาวเคราะห์โคจรรอบๆ ไหม

    คำตอบคือมี เราพบหลักฐานมานานแล้ว

    เราเรียกดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวคู่ว่า circumbinary planet

    ส่วนดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวคู่จะเกิด two-body problem ฤดูกาลบิดเบี้ยว เกิดภาวะโลกร้อนโลกเย็นหรือไม่นั้น จนปัญญาตอบ

    โลกเราโคจรรอบดวงอาทิตย์ดวงเดียว มนุษย์เรายังสามารถทำให้ป่วนได้ขนาดนี้ (one-body problem)

    ดังนั้นเวลาไปหาหมอดู ถ้าหมอดูบอกว่าดาวดวงนั้นดวงนี้ส่งอิทธิพลต่อชีวิตคุณ ถามให้แน่ด้วยว่า ดาวที่ส่งอิทธิพลเป็นดวงที่ 1 หรือดวงที่ 2 (ดวงที่เป็นสามีหรือดวงที่เป็นภรรยา) จะได้รู้ว่าต้องซักผ้าไหม

    วินทร์ เลียววาริณ
    25-5-25

    0
    • 0 แชร์
    • 62

บทความล่าสุด