• วินทร์ เลียววาริณ
    4 วันที่ผ่านมา

    หนึ่งในปรัชญาการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่ผมร่ำเรียนมาคือ Less is more (ยิ่งน้อยยิ่งมาก) ซึ่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายจากงานของสถาปนิก ลุดวิก มิส ฟาน เดอ โรห์ โดยออกแบบอาคารแบบเรียบง่าย เป็นกล่องโล่ง ไม่รกรุงรัง ปรัชญานี้เรียก Minimalism ปรากฏในงานศิลปะสายต่าง ๆ ฟังดูคล้าย ๆ ปรัชญาเต๋าและเซน

    และเช่นเดียวกับปรัชญาเต๋าและเซน ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ ถึงแม้จะเข้าใจ ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายดาย

    การออกแบบอาคารและศิลปะด้านอื่น ๆ จำนวนมากมายที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้ จึงยังเต็มไปด้วย 'ความมาก' (อย่างที่อาจารย์วิชาออกแบบมักใช้คำว่า 'รกรุงรัง' ) ที่เรียกว่า 'การออกแบบชั้นเลว' ห่างไกลจากประโยค Less is more หลายโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเพราะคนออกแบบไม่เข้าใจปรัชญานี้ หรือเพราะจงใจไม่เข้าใจปรัชญานี้ หรือเพราะระบบพาณิชย์ที่สอนให้เชื่อว่า 'ยิ่งมากยิ่งคุ้ม'

    ความจริง 'ยิ่งน้อยยิ่งมาก' ไม่เพียงเป็นปรัชญาในการออกแบบ แต่เป็นวิถีการใช้ชีวิตด้วย

    ชีวิตของหลาย ๆ คนเป็นการออกแบบที่รกรุงรัง ปิดทับด้วยองค์ประกอบมากมายที่ไม่จำเป็น บางคนซื้อบ้าน 6-7 ห้องนอน เป็นเจ้าของรถยนต์ 3-4 คัน ทั้งที่มีสมาชิกในบ้านเพียงสองคน บางคนเก็บสะสมเงินเป็นหมื่นล้าน แต่ยังโลภขึ้นเรื่อย ๆ บางคนไม่หิวแต่ก็สั่งอาหารเต็มโต๊ะ ฯลฯ

    ในโลกที่นิยมความใหญ่ ความมาก ความเป็นที่สุด อะไร ๆ ก็มักเกินความพอดี และกลายเป็นการออกแบบชั้นเลวไปอย่างง่ายดาย

    หนังลงทุนสูงมิแน่นักว่าจะเป็นหนังดี คนมีบ้านใหญ่โตไม่แน่ว่าจะมีความสุข สะสมทรัพย์สินร้อยล้านพันล้านหมื่นล้านก็ไม่ได้รับประกันว่าชีวิตจะราบรื่น ตรงกันข้าม พวกเขาเหล่านั้นอาจทุกข์กว่าคนยากไร้ด้วยซ้ำ เพราะบางครั้งทรัพย์สินก็เสมือนไขมันชั้นเลว มักตามมาด้วยโรคต่าง ๆ : ความหวาดระแวง ความกลัว ความโลภ ฯลฯ

    มองในมุมมองของธรรมชาติ ทุกชีวิตสร้างมาจากความน้อยที่สุด จำนวนเซลล์น้อยที่สุดที่ทำงานได้ อวัยวะน้อยที่สุดที่ทำให้ร่างกายเดินหน้าได้

    การใช้ชีวิตก็เช่นกัน ยิ่งเรียบง่ายยิ่งดี ยิ่งรัดกุมยิ่งมีประสิทธิภาพ

    เช่นเดียวกับสารเคมีแห่งความแจ่มใสที่เกิดจากการออกกำลังกาย ฮอร์โมนที่เกิดจากการใช้ชีวิตพอเพียงคือความสุขใจ สุขจากเรื่องเล็ก ๆ

    นี่ก็คือการออกแบบชั้นดี

    บทสรุปผลวิจัยของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในยุโรปไม่นานมานี้เผยว่า ผู้คน 64 เปอร์เซ็นต์บอกว่าตนเองมีความสุข ใช้ชีวิตกับพ่อแม่ คู่รัก เพื่อน เสมอ ๆ พวกเขาบอกว่า แสงแดดและจุมพิตจากคนรักช่วยได้มาก

    ผลวิจัยยังชี้ว่า คนที่ไม่มีความสุขชอบใช้เวลากับการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ตัวเลขคือ 69 เปอร์เซ็นต์ท่องอินเทอร์เน็ต 45 เปอร์เซ็นต์ใช้เวลาผ่านหน้าจอโทรทัศน์

    เห็นชัดว่าความสุขมักไม่เกิดมาจากความ 'ครบ' ในทางวัตถุ

    ความสุขมิอาจได้มาจากการแสวงหา ความสุขเกิดมาระหว่างการลงมือทำกิจกรรมใดก็ตามด้วยใจที่เป็นอิสระ

    ความสุขมักไม่เกิดจากเรื่องใหญ่ ไม่ใช่ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง แจ๊คพ็อตหลายสิบล้านบาท ไม่ใช่บ้านใหญ่โตบนพื้นที่หลายสิบไร่

    ความสุขเป็นเรื่องเล็ก ๆ เกิดจากสิ่งเล็ก ๆ

    เรียบง่าย สมส่วน ลงตัว ไม่มากเกิน ไม่น้อยไป

    ความสุขเกิดจากการมองโลกในเชิงบวก คิดด้านลบให้น้อยเข้าไว้

    อย่าคาดหวังว่าคนอื่นจะทำให้เราสุข เราสุขด้วยตัวเราเอง ความสุขเป็นเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบหามาเอง

    อย่าได้อิจฉาริษยาเพื่อนที่เก่งกว่า ร่ำรวยกว่า เพราะไม่ว่าคุณจะเก่งกาจเลอเลิศแค่ไหน ก็จะมีคนอื่นหน้าตาดีกว่าคุณ ฉลาดกว่าคุณ เก่งกว่าคุณเสมอ (และที่น่าช้ำใจคือ มีแฟนหน้าตาดีกว่าแฟนของคุณด้วย!)

    สรีระไม่ใช่สิ่งที่เรากำหนดได้ แต่เราออกแบบชีวิตของเราเองได้

    จะเลือกออกแบบให้ 'รกรุงรัง' หรือ 'ยิ่งน้อยยิ่งมาก' ก็แล้วแต่เรา

    ขอให้สัปดาห์ใหม่ของผู้อ่านเป็นแบบ 'ยิ่งน้อยยิ่งมาก' Happy a nice week.

    วินทร์ เลียววาริณ
    23-6-25
    ..................................

    จาก อาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก

    48 บทความกำลังใจ ราคาเพียง 165 บาท = บทความละ 3 บาท+ (ไม่คิดค่าส่ง)
    หนังสือหมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
    https://www.winbookclub.com/store/detail/85/อาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก 

    1
    • 0 แชร์
    • 28

บทความล่าสุด